ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มาปลูก "สวนดอกไม้ในใจเรา" กันดีกว่า  (อ่าน 1052 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มาปลูก "สวนดอกไม้ในใจเรา" กันดีกว่า
« เมื่อ: ตุลาคม 27, 2014, 11:03:22 am »
0


มาปลูก "สวนดอกไม้ในใจเรา" กันดีกว่า
โดย...ปูปรุง [pooproong@hotmail.com]

ครั้งหนึ่งฉันเคยสะดุดใจกับบทสัมภาษณ์ของเซเลบสาวคนหนึ่ง เธอคนนั้นบอกว่า ตัวเธอนั้นจัดเป็นคนประเภทที่เรียกว่า สุขนิยม

    กิจวัตรในแต่ละวันส่วนใหญ่จึงอยู่ที่งานปาร์ตี้สังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนแวดวงเดียวกัน จากนั้นเธอก็เน้นต่อว่า จะไม่ยอมดูข่าวไม่ว่าจะเป็นทางทีวี หน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ ทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเด็ดขาด สาเหตุเพราะไม่อยากทำให้ชีวิตตัวเองรู้สึกหดหู่เมื่อได้รับรู้เนื้อหาข่าวเหล่านั้น

    ตอนนั้นในใจก็เกิดคำถามกับคำสัมภาษณ์ดังกล่าว และยังคิดเลยเถิดไปอีกว่า มันแปลกเว่อร์เกินไปมั้ยที่คนเราจะเลือกมองเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งโดยลืมมองบางด้านที่มีอยู่จริงในสังคม หลายปีผ่านไป ฉันคิดว่าตัวเองเริ่มเข้าใจสิ่งที่เซเลบสาวคนนั้นสื่อสารออกมามากขึ้น
    และยังมีคำถามต่อว่า การที่จิตใจของคนทุกวันนี้ดูเหมือนหยาบกระด้างมากขึ้นนั้น ก็อาจเป็นเพราะทุกวันนี้ เราเสพแต่ข่าวสารที่สร้างความหดหู่ในหัวใจมากเกินไปรึเปล่า.?


     :41: :41: :41: :41: :41:

    ทุกๆ วันในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือข่าวสารทางทีวีหรือผ่านสื่อต่างๆ ล้วนมีแต่ข่าวอาชญากรรม ทะเลาะด่าทอ ตบตีใส่ร้าย ล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวคนอื่น ฯลฯ จนสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องเคียง ชา กาแฟ ของเราไปทุกเช้าเสียแล้ว เมื่อเรารับและซึมซับสีทึมเทาเข้าไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นความชาชิน จิตใจดั้งเดิมที่เคยอ่อนโยน นานวันไปก็ถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นความหยาบกระด้าง ในไม่ช้าก็คงส่งผลเชื่อมโยงมาสู่การกระทำ จนกลายเป็นเรื่องยากจะเยียวยาในที่สุด

    ฉันเคยอ่านเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งว่า ทันทีที่สงครามในกัมพูชายุติลงเมื่อสิบกว่าปีก่อน การฟื้นฟูบูรณะประเทศก็เริ่มขึ้น มีอาสาสมัครและหน่วยงานจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้าไปช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก พระญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้รับเงินบริจาคจากผู้มีน้ำใจจำนวนหลายล้านเยน จึงได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชาด้วยตนเอง เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง

 :96: :96: :96: :96: :96: :96:

    ท่านเล่าว่า ได้ไปเยี่ยมโรงเรียนแห่งหนึ่งในชนบท ภาพที่เห็นมีแต่ศาลาโทรมๆ หลังหนึ่ง อุปกรณ์การเรียนการสอนก็ขาดแคลน เมื่อท่านพบครูใหญ่ จึงได้เล่าความประสงค์ และถามว่า โรงเรียนอยากได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้าง
    ในใจนั้นท่านคิดว่า สิ่งที่โรงเรียนนี้น่าจะต้องการมากที่สุดก็คือ สมุดดินสอ โต๊ะ เก้าอี้ และอาคารเรียนที่ดีกว่าเดิม แต่คำตอบที่ได้จากครูใหญ่กลับ คือ โรงเรียนอยากได้พันธุ์ไม้ดอก.!!

    ท่านรู้สึกแปลกใจกับคำตอบ เมื่อซักถามครูใหญ่ ก็ได้คำตอบว่า เด็กๆ เหล่านี้เกิดและเติบโตท่ามกลางสงคราม พบเห็นแต่การทำลายล้างสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความหดหู่ ทำให้จิตใจของเด็กหดหู่หมองเศร้าไปด้วย
    เพราะฉะนั้นสิ่งที่เด็กเหล่านี้ต้องการอย่างมากก็คือ สภาพแวดล้อมที่สดใสที่จะช่วยให้จิตใจพวกเขาเบิกบาน ถึงตอนนั้นแล้วเด็กก็คงพร้อมที่จะเรียน ด้วยเหตุนี้โรงเรียนจึงอยากได้พันธุ์ไม้ดอกมาปลูกให้ทั่วโรงเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สดใส


    :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

    ท่านได้ฟังแล้วก็เห็นด้วย ขณะเดียวกันก็รู้สึกละอายใจที่นึกถึงแต่วัตถุ ทั้งๆ ที่เป็นนักบวช แต่กลับลืมความต้องการทางจิตใจ ซึ่งเป็นมิติที่สำคัญของทุกชีวิต ก่อนกลับไปญี่ปุ่น ท่านจึงได้ดำเนินการจัดพันธุ์ไม้ดอกไปให้โรงเรียนแห่งนั้น...ต่อมาครูใหญ่ได้เขียนจดหมายมาเล่าว่า เดี๋ยวนี้ดอกไม้บานสะพรั่งไปทั้งโรงเรียน เด็กๆ ร่าเริงกว่าเดิม และเขายังได้เก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อแจกให้โรงเรียนอื่นต่อไป

    จากเรื่องเล่าเรื่องนี้ น่าจะช่วยสนับสนุนและตอกย้ำความเชื่อที่ว่า การปลูกดอกไม้ภายนอกนำมาสู่การงอกงามของดอกไม้ภายในใจได้ การป้อนข้อมูลที่สดใส สะอาด ย่อมดีกว่าการสาดสิ่งเลวร้ายลงในจิตใจ ฉันจึงเชื่อว่า เราทุกคนควรมีสิทธิที่จะเลือกสิ่งที่จะเข้ามากระทบกระแทกใจตัวเอง การฟูมฟัก ดูแลสวนดอกไม้ในรั้วใจของตัวเองให้งอกงามก่อน ย่อมทำให้เรามีศักยภาพมากพอต่อการขยายขอบเขตสวนดอกไม้ออกไปยังพื้นที่ใจของผู้อื่น การปฏิเสธที่จะรับสิ่งไม่ดี เป็นคนละเรื่องกับการเพิกเฉยหรือไม่รับรู้ ด้านมืดว่ามันยังคงมีอยู่จริงในชีวิต แต่มันหมายถึง การที่เรากลั่นกรอง เลือกบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีงามลงสู่ชีวิตตัวเอง

    เพื่อที่สักวันเราจะสามารถเด็ดดอกไม้ที่งอกงามเหล่านั้น จากสวนของเราแล้วนำไปมอบให้ หรือไปปักไว้ในแจกันของผู้อื่นบ้าง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/ไลฟ์สไตล์/ไลฟ์/323766/มาปลูกสวนดอกไม้ในใจเรากันดีกว่า
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ