พิมพ์

[raponsan]

โรคหน่ายที่ทำงาน

คอลัมน์ รอบรู้เรื่องงาน โดย...ไดนาห์ ชอว์

ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องหนึ่ง สามีภรรยาทำงานหนัก ชีวิตครอบครัวอบอุ่น มีการงานดี เป็นนักธุรกิจแนวหน้า แต่ทั้งคู่มีชีวิตเป็นวงจรซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน สามีเริ่มหน่ายชีวิต เบื่องาน เบื่อภรรยา วันหนึ่งนั่งรถไฟฟ้าเห็นป้ายโฆษณาหัดเต้นลีลาศ จึงไปสมัครเรียนลีลาศ ใครจะคิดว่านักธุรกิจระดับสูงใส่สูทโก้หรา จะไปเรียนเต้นรำจนเก่ง เลิกหน่ายชีวิต สดชื่นขึ้นมาทันตาเห็น หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดบางอย่างที่นำมาปรับใช้กับการงานและเพื่อนร่วมงานได้

 

สถานการณ์ - สิ่งซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นกับผมในที่ทำงานคือคำสาป มันทำให้ผมจำเจซ้ำซากด้วยวงจรเดิมๆ โต๊ะทำงานโต๊ะเดิม และเพื่อนร่วมงานคนเดิมๆ

ทางออก - ขณะนี้มีคนเป็นโรคหน่ายชีวิตกันมากขึ้น เหมือนกับพระเอกในเรื่องนี้ ถือเป็นกลุ่มอาการที่หน่ายกับชีวิตประจำวันที่ซ้ำซาก อาการนี้ไม่ถึงกับเหงา เพราะเหงาจะรุนแรงกว่า และยังไม่ถึงขั้นเศร้าซึม เพราะนั่นจะทุกข์กว่า คนเป็นโรคนี้เหมือนโรคเซ็ง แต่โรคเซ็งเป็นช่วงสั้นๆ และมักรู้ตัวว่าเซ็ง คนเซ็งจึงหาทางแก้ด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ หรือบ่นให้เพื่อนฟัง บ่นให้คนใกล้ตัวฟัง

แต่การหน่ายชีวิตจะเป็นนาน เรื้อรังกว่าการเซ็งและมักไม่รู้ตัว ยังคงทำงานและดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แต่จะขาดความสดชื่น ไม่กระชุ่มกระชวย ไม่อยากลงมือทำกิจกรรมใหม่ๆ ในชีวิต พวกนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน คือ มีแบบแผนในการดำเนินชีวิตซ้ำๆ กันทุกวัน เช่น ตื่นเช้าก็ไปทำงานแบบเร่งรีบ กลางวันรีบกินอาหารเร็วๆ ทำงานจนถึงเย็น เสร็จแล้วรีบกลับบ้านหรือไปออกกำลังกายซ้ำๆ ที่เดิม พบคนเดิม เพื่อนร่วมงานเดิมๆ

 

สถานการณ์ - ไม่มีอะไรแปลกใหม่ในชีวิตเลย!

ทางออก - ใช่! คุณได้ตอบปัญหาของตัวคุณเองแล้ว โรคหน่ายชีวิตมักจะเกิดกับคนที่ทำอะไรซ้ำๆและพบกับเหตุการณ์เดิมๆ หรือคนร่วมงานเดิมๆ ดุจเดียวกัน ไม่มีความแปลกใหม่หรือความตื่นเต้นเข้ามาในชีวิต ความซ้ำๆ นี้ อาจเป็นสิ่งดีก็ได้ เช่น การทำงาน การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือการทำบุญ นั่งสมาธิ แต่ถ้าทั้งหมดนี้เป็นการทำซ้ำๆ เหมือนๆ กันทุกวัน เป็นวงจรชีวิตที่หมุนเวียนไปแบบเดิมๆ ก็ทำให้หน่ายได้

 

สถานการณ์ - แล้วจะไปจากสถานการณ์ความซ้ำ ความจำเจนี้ได้อย่างไร

ทางออก - คนที่ทำอะไรซ้ำๆ และอยู่กับสิ่งแวดล้อมการทำงานซ้ำๆ มักมีความกลัวที่จะทำอะไรใหม่ๆ ลองสำรวจตัวเองดูซิว่า กลัวความเปลี่ยนแปลง เพราะยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเดิมๆ ว่าปลอดภัยแล้ว ดีที่สุดแล้วหรือไม่ เข้าข่ายเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ บางคนมีหน้ากากต้องสวม เพื่อให้ใครๆ เห็นว่าเป็นคนดีคนเก่ง จึงไม่กล้าฝืนกฎเกณฑ์ชีวิตที่ (ตัวเองหรือคนอื่น) ตั้งไว้ ไม่กล้าทำอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์ที่เคยทำซ้ำๆ มา เป็นคำสาปที่สาปตัวเองมาตลอดชีวิต

เวลาหน่ายชีวิตก็มักนึกว่าตัวเองไม่มีความหมาย ไม่มีค่า ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ทั้งที่ไม่อยากเป็นเกิดความสงสารหรือสมเพชตัวเอง การจะลดความหน่ายชีวิต ก็ขึ้นกับความสามารถของตัวเองนั่นเอง ที่จะปลุกตัวปลุกตนให้พ้นจากความหน่าย ลดความกลัวความเปลี่ยนแปลง ใจกว้างกับตัวเอง(และกับคนอื่น) ยอมให้ตัวเองพ้นไปจากกรอบ ลุกขึ้นทำกิจกรรมใหม่ๆ ทำการงานใหม่ๆ อย่าปล่อยให้จมดิ่งกับความหน่าย เพราะอนาคตคือโรคซึมเศร้า

ขอบคุณภาพและบทความจาก
job.posttoday.com/รอบรู้เรื่องงาน/327884_โรคหน่ายที่ทำงาน.html