พิมพ์

[raponsan]

ทะเลเจดีย์ ดันดารี หลงเสน่ห์เมืองพุกาม

หมอกจางๆ ลอยเหนือผิวดินในยามพระอาทิตย์ทอแสงเช้าผ่านทุ่งเจดีย์นับพันองค์ ใครหลายคนหลงใหลดินแดน พุกาม ที่มีเรื่องราวมากมายหลายศตวรรษ และยังคงความงดงามไม่เสื่อมคลาย

ทะเลเจดีย์
นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาเก็บภาพความทรงจำของเมืองนี้ไม่ขาดสาย ทุ่งเจดีย์กว้างใหญ่สุดสายตาจากมุมบนเจดีย์ชเวซันดอว์ที่มีอยู่ถึง 4,446 องค์ แม้จะถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกและผุกร่อนไปตามธรรมชาติ จนเหลือเพียง 2,000 กว่าองค์ที่ยังสมบูรณ์ คนทั่วโลกก็ยังเดินทางมาพุกามเพื่อชมทะเลเจดีย์

ในยุคสมัยพระเจ้าอโนรธาผู้รวบรวมแผ่นดินพม่าให้เป็นหนึ่งเดียวกันจนสำเร็จ นับเป็นจุดรุ่งเรืองที่สุดของพระพุทธศาสนาในประเทศพม่า ทำให้ชาวพม่าในปัจจุบันกว่าร้อยละ 80 นับถือศาสนาพุทธ และมีความเคร่งครัดมาก เช่น การถอดรองเท้าและถุงเท้าก่อนเข้าวัด งดการแต่งงานในช่วงเข้าพรรษาและช่วงวันพระใหญ่ ชาวพม่าจะหยุดทำงานโดยพร้อมเพรียงเพื่อเข้าวัด หากแม้จะได้เงินโอทีจากบริษัทเอกชนก็ตาม นี่เป็นเพียงบางส่วนในความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนา และกลายเป็นประเพณีไปแล้วที่ชาวพม่าส่วนใหญ่จะบูรณะเจดีย์ที่เสื่อมโทรม โดยเฉพาะเจดีย์ที่มีความสำคัญและมีประวัติเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าจะได้รับการบูรณะมากกว่าเจดีย์องค์อื่นๆ ได้แก่

พระมหาธาตุชเวสิกอง เจดีย์รูปทรงระฆังคว่ำที่เก่าแก่ที่สุด มีความหมายว่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะซึ่งภายในได้บรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระบรมสารีริกธาตุ ภายนอกปิดด้วยทองคำเปลว ทำให้เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจะเห็นสีทองเหลืองอร่ามตัดกับฟ้าใส และภายในยังมีต้นพิกุลขนาดใหญ่ที่ออกดอกทั้งปี ซึ่งโดยปกติจะออกดอกปีละครั้ง

วัดดัมมะหยั่นจี เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้านะระตู่ เพื่อทรงล้างบาปจากผลกรรมการกระทำปิตุฆาต สร้างด้วยอิฐแดงนับล้านชิ้นที่ถูกส่งต่อจากภูเขาเทปันยู เป็นระยะทางถึง 11 กิโลเมตร โดยชาวบ้านเรียงแถวส่งต่อกันมา

วัดอนันดา ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจดีย์ที่มีความงดงามมากที่สุด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนทั้งสี่ด้าน มีเพียงสององค์เท่านั้นที่สร้างมาในสมัยพุกาม ส่วนที่เหลือได้สร้างขึ้นใหม่หลังจากได้รับความเสียหาย ส่วนความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งคือ พระโอษฐ์ยิ้มได้ เมื่อเรามองจากจุดที่ไกลๆ แต่เมื่อเราเดินเข้าใกล้พระโอษฐ์จะดูเข้มขรึม

วัดชเวสันดอ หนึ่งในเจดีย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังมีรูปปั้นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกของนักท่องเที่ยว

วัดติโลมินโล เลื่องชื่อด้วยจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ที่สวยงามอีกที่หนึ่ง เรายังคงเห็นร่องรอยความสวยงามไม่มากนัก เนื่องจากวัดนี้ได้ทำการบูรณะในช่วงรัฐบาลพม่า ทำให้ถูกฉาบปูนปิดทับ  ปัจจุบัน รัฐบาลได้ยื่นหนังสือให้ทางยูเนสโกบันทึกให้ทะเลเจดีย์แห่งนี้เป็นมรดกโลก
 

ดันดารี
ไฮไลต์สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดในการเที่ยวพุกาม คือ การชมการแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัยในชื่อ ดันดารีซึ่งในภาษาพม่า หมายถึง เรื่องราวในตำนานที่มีมาช้านาน ด้วยเทคนิคแสง สี เสียง จากทีมงานของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จัดการแสดงโชว์ครั้งนี้ ณ พระราชวังบากัน โกลเดน พาเลซ ที่เป็น 1 ใน 3 พระราชวังที่มีความสวยงาม ซึ่งการแสดงนี้ได้นำศิลปะ วัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้าน กีฬาประวัติศาสตร์ และความเจริญรุ่งเรืองของพม่า ผ่านการแสดงโชว์กว่า 1 ชั่วโมง กับเหล่านักแสดงกว่า 100 ชีวิต ที่สร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวแบบตื่นตาตื่นใจ

แต่ละฉากสะท้อนเอกลักษณ์ที่งดงามผ่านตัวแสดงด้วยท่ารำที่อ่อนช้อย การแสดงหุ่นกระบอกที่ใช้คนจริงแสดง หรือแม้กระทั่งการโชว์ตะกร้อที่นักแสดงวาดลวดลายได้อย่างสมจริงและสนุกสนาน พาเพลินไปกับตัวแสดงรุ่นจิ๋วที่มาพร้อมกับการแปลอักษรภาษาพม่า สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก

การแสดงดันดารีนี้ จะเปิดรอบแสดงในช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือน พ.ย.ถึงเดือน มี.ค.ของทุกปีเปิดทำการแสดงทุกวัน ราคาบัตรเริ่มต้นที่ 50 เหรียญสหรัฐ หรือจะเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dandaree.com <http://www.dandaree.com>

ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ทะเลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือการแสดงร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีไฮเทคล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนต้องกลับมาเยือนพุกามพร้อมกับความประทับใจไม่รู้ลืม

ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วโลก/335410/ทะเลเจดีย์-ดันดารี-หลงเสน่ห์เมืองพุกาม