ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางปฏิบัติเรื่องจิตให้สงบ  (อ่าน 3139 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
แนวทางปฏิบัติเรื่องจิตให้สงบ
« เมื่อ: มกราคม 21, 2015, 08:58:52 pm »
0

แนวทางปฏิบัติเรื่องจิตให้สงบ
       
ปุจฉา : กราบหลวงปู่ที่เคารพ ดิฉันอยากจะทราบว่า เรื่องจิตเป็นเรื่องละเอียด สภาวะจิตโดยแท้จริงนั้น เป็นที่นำมาซึ่งความสงบสุข และให้ถึงความหมดจดแห่งความทุกข์ และไม่เกี่ยวกับความรู้สึกนั้น เราจะมีแนวทางปฏิบัติได้อย่างไรคะ
       
วิสัชนา : เรื่องจิตไม่ติดในสุข ทุกข์ คือจิตของผู้รู้ คือรู้แบบพุทธะ จิตของพุทธะ คือสภาวะของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นกิริยาอาการของสภาวะจิต ซึ่งปราศจากการปรุง ฉันเคยเขียนบทโศลกเพื่อสอนลูกหลานว่า
       
       ลูกรัก...
       ประตูของธรรมชาติ จักรวาล และนิพพาน จะเปิดก็ต่อเมื่อใดที่ใจเจ้าไร้การปรุงแต่ง เราสามารถจะเปิดประตูของธรรมชาติ จักรวาล และนิพพานได้ เมื่อจิตเราไร้การปรุงแต่ง     
       เพราะฉะนั้น คำตอบตรงนี้ควรจะตอบว่า ขอเพียงไม่ยึดถือมัน ไม่ว่าจะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์


        :96: :96: :96: :96: :96:

       มีนิทานเรื่องหนึ่งว่า มีคนอยู่คนหนึ่งเป็นคนบ้าเงิน เห็นเงินที่ไหนจะต้องเข้าไปแย่งมาให้ได้ ครั้งหนึ่งเขาเดินไปเจอเงินวางอยู่บนโต๊ะ เขาไม่ใส่ใจและไม่สนใจว่าจะมีใครมองดูเขาอย่างไร เขาตรงไปหยิบเงินนั้นใส่กระเป๋า แล้วก็เดินออกไปเฉยๆ พวกตำรวจเห็นก็ไล่จับแล้วถามว่า ทำไมกล้าที่จะขโมยเงินและหยิบเงินต่อหน้าชาวบ้าน เขาตอบว่า ตอนที่เขาหยิบเงินนั้น เขามองไม่เห็นอะไรเลย คือเห็นแต่เงินกองโตเท่านั้น สภาวะที่มีแต่เงินอยู่ในหัวใจเต็มเปี่ยม จึงปิดบังดวงตาแห่งปัญญาญาณของเขา ที่จะไปรู้คุณโทษของสิ่งรอบข้าง ก็เลยทำให้เขากล้าที่จะหยิบเงินของชาวบ้าน
       
       เพราะฉะนั้น สำหรับจิตของพุทธะ มันคนละเรื่องกับนิทานเรื่องนี้ จิตของพุทธะนั้นมีความละเอียดอ่อน ซึ่งไม่ได้มุ่งตรงไปกับอะไร แต่เป็นจิตที่ได้ประโยชน์จากอะไรในสิ่งรอบข้าง รู้จักอ่านเกม อ่านกาล อ่านวิธีการ และอ่านการกระทำที่เกิดขึ้นรอบข้างให้ได้ออก ในขณะเดียวกัน ต้องบอกตัวเองให้ได้ว่า สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงแค่มายาการ ไม่ได้ทำให้เราต้องตกเป็นทาส ไม่ต้องเป็นนายมัน มันก็ไม่ต้องมาเป็นนายเรา มันเป็นเพียงแค่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เป็นมายาการ เป็นมายาภาพ เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ไม่กล้าที่จะไปหยิบเงินใคร เพราะจิตใจเรารู้สึกว่าโทษและภัยมันย่อมเกิดตามมา

        :25: :25: :25: :25: :25:

       รวมความแล้วคนที่จะมีจิตปลดปล่อย และวางได้อย่างอิสระ ไม่ยึดติดในสุขในทุกข์นั้น คือคนที่ไร้ความปรุงแต่งในหัวใจ แต่ก่อนจะถึงความปรุงแต่งในหัวใจ ก็ต้องเป็นคนที่มุ่งมั่น มั่นคงในการฝึกปรือ เรียนรู้กฎเกณฑ์และกติกาธรรมดาของโลก
       
       อะไรเป็นกฎเกณฑ์และธรรมดาของโลก ก็คือการเกิดขึ้นของสรรพสิ่งทั้งหลาย สรรพวัตถุ สรรพชีวิต สรรพทุกข์ และกฎข้องที่สอง คือ ตั้งอยู่ ส่วนกฎข้อสุดท้ายคือ ความดับไป นี่คือกฎกติกาของธรรมชาติ
       
       เมื่อเรารู้ดังนี้แล้ว เราก็จะไม่ใส่ใจกับความสุขและความทุกข์ ที่ชาวบ้านเขามอบหมายให้ ไม่ใส่ใจในลาภ ไม่หลงใหลในยศ และไม่มัวเมาในชื่อเสียง สุดท้ายเราก็กลายเป็นพุทธะผู้อิสระ โดยที่ไม่ต้องมีใครเป็นนายเรา แต่ในขณะเดียวกันเราใช้อะไรๆได้อย่างสมบูรณ์ เพราะการที่เรารู้จักกฎเกณฑ์ธรรมดาของโลก จักรวาล และกฎของธรรมชาติที่เที่ยงตรง


จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 169 มกราคม 2558 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม
http://manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9570000149884
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2015, 09:03:50 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนวทางปฏิบัติเรื่องจิตให้สงบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2015, 01:49:42 am »
0

      เรื่องอุบายหลากหลายแนว เพื่อละนิวรณ์
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา