ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรพระศาสนาล้มเหลว.!! พระพุทธศาสนาจะสืบต่อได้อย่างไร.?  (อ่าน 2328 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

องค์กรพระศาสนาล้มเหลว.!! พระพุทธศาสนาจะสืบต่อได้อย่างไร.?

ปุจฉา : เรียนท่านอธิการพระอารยะวังโสทราบ
...สืบเนื่องมาจากบทความที่ท่านอาจารย์ ผศ.ดร.สุปรีดี ฤทธิรงค์ (ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)ได้ปุจฉาเรื่อง “ธรรมกาย” ในปีก่อนๆ ค่ะ และท่านได้วิสัชนาไปแล้ว เห็นว่าแนวคิดของท่านอธิการพระอารยะวังโส น่าสนใจมากๆ ค่ะ

แต่เรื่องของเรื่อง คือ การที่คณะสงฆ์จากวัดนี้จาริกป่าคอนกรีตปีนี้ค่ะ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งชาติอย่างเป็นทางการค่ะ ข้าพเจ้าเป็นผู้รู้ในพระธรรมอันน้อยนิด ได้โปรดให้ท่านชี้แจงเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยค่ะ ว่าทั้งพระภิกษุสงฆ์ รัฐบาล และองค์กรศาสนาฯ ได้ทำถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธหรือไม่ อย่างไรคะ…


ด้วยความเคารพอย่างสูง
ธันวาพร เกตุรัตนกุล (หลิง หลิง)
นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์





วิสัชนา : “การที่ภิกษุกระทำการใดๆ แม้เพียรกล้าเคร่งครัดในวัตรปฏิบัตินั้น เช่น การอยู่ป่า ฉันแต่น้อย จนถึงอดอาหาร เพื่อเป็นส่วนดีต่อการภาวนาหรืออื่นใด แม้เป็นไปตามพระธรรมวินัย แต่มีเจตนาเพื่อการอวดโลก เป็นอาบัติทุกครั้งที่อด (กระทำ) และทุกประโยค ที่เคลื่อนไหวเพื่อการโอ้อวด หากมีเจตนากระทำเพื่อความเพียรทางใจก็ไม่อาบัติ...”

จากสาระธรรมดังกล่าว จึงขอเจริญพรมายังสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา โปรดพิจารณาให้เห็นถึงรากเหง้าของต้นอาบัติ (บาป) ว่าเป็นอย่างไร ก็คงจะเข้าใจได้ไม่ยากที่จะลงมติในเรื่องนั้นๆ...

ในพระธรรมวินัยนี้ มีบัญญัติไว้ชัดแจ้งในทุกเรื่อง ไม่ล้าสมัยเลย แม้ล่วงมา ๒,๖๐๐ กว่าปี โดยเฉพาะพระวินัยนั้นครอบคลุม ถักทอดุจตาข่าย ยากที่จะหลุดรั่วออกไปได้ หากเปรียบเป็นเขื่อนกั้นน้ำก็แข็งแรงมั่นคง เป็นปราการสูงใหญ่ ยากจะพังทลายต่อกระแสโลกที่ฟัดซัดกัดเซาะบ่อนทำลาย ด้วยพระสัพพัญญุตญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ทรงเป็นองค์โลกวิทูโดยธรรม...


 :96: :96: :96: :96: :96:

จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าพระธรรมวินัยจะล้าหลังโลก เพราะผู้ออกแบบพระธรรมวินัยรู้แจ้งโลกอย่างแท้จริง ทรงพยากรณ์โลกได้ตั้งแต่กำเนิดโลก... โลกตั้งอยู่และดำเนินไป... จนที่สุดโลกฉิบหายสำคัญอยู่ที่ผู้มุ่งเข้ามาสู่พระศาสนานี้ จะรู้เข้าใจในพระธรรมวินัยจริงหรือไม่ ...นี่คือเหตุปัจจัยสำคัญของการดำเนินไปของพระพุทธศาสนาที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

การไม่ถือปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างจริงจังของพุทธบริษัทในพระศาสนา ดูออกจะเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมพระศาสนา ด้วยมีการถือปฏิบัติกันผิดๆ เป็นอาจิณณกรรมกันจำนวนไม่น้อย จนทำให้ศาสนจักรเศร้าหมอง ซึ่งเป็นการยากที่จะทำใจให้ยอมรับ บางครั้งต้องกล้ำกลืนฝืนใจเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะด้วยมีสังคมในหมู่พระภิกษุเกิดขึ้น มีคณะการปกครอง หลายครั้งที่เดินทางกลับแล้วบ่นพึมพำว่า “กูไม่น่ามาให้เสียผ้าเหลืองเลย!!”

ด้วยการเข้าร่วมสังฆกรรมกันยาก จึงทำให้ต้องรู้จักปลีก... หลีก... หลบ จนถูกค่อนแคะว่ากระทบจาก... ผู้มีฐานะทางปกครองบางท่าน ซึ่งยินดีรับฟังด้วยความน้อมรับ แต่สังเวชใจในคำกล่าวที่แฝงไว้ด้วย



อคติธรรมไม่ได้แสดงเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไม... อย่างไร ซึ่งตรงข้ามกับครูบาอาจารย์สายปฏิบัติที่จะกล่าวแนะนำคณะศิษย์ศรัทธาให้มุ่งคบหาพระภิกษุผู้ประพฤติปฏิบัติดี-ถูกต้องพระธรรมวินัย ดังคำกล่าวที่ว่า “...จงไปหาพระรูปนี้หรือหมู่คณะนี้เถิดท่าน ... คณะท่านเคร่งครัดมั่นคงในพระธรรมวินัย”...

เรื่องความเคร่งครัดถือวัตรปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเข้มแข็ง มั่นคงไม่หวั่นไหวนั้น เป็นอริยวินัยซึ่งนอกเหนือจากจตุราปาริสุทธิศีลแล้วนั้น ยังมีธุดงควัตร ๑๓ ข้อ ขันธวัตร ๑๔ เพื่อผู้ตั้งใจเพียรเพ่งเผากิเลสอย่างอุกฤษฏ์จะได้ถือปฏิบัติ ธุดงคกรรมฐานอย่างจริงจัง ด้วยการเห็นคุณค่าของธุดงควัตรว่าสามารถอำนวยประโยชน์ให้ได้อย่างดียิ่ง จึงทรงพระกรุณาบัญญัติธุดงควัตรเพื่อการสนับสนุนสงเคราะห์เข้าด้วยกันในการศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัย


 st12 st12 st12 st12 st12

ดังนั้น สาธุชนพึงควรตระหนักต่อการสนับสนุนในศาสนกิจที่เริ่มแปรผันเป็นกิจกรรมภาคบุญนิยม...เพื่อโน้มหาลาภสักการะเป็นเป้าหมาย ที่ปัจจุบันออกจะมีมากมายจนกลายเป็นแดน พุทธพาณิชย์ โดยอาศัยศาสนกิจ ศาสนธรรม วัตรปฏิบัติในพระศาสนามาบังหน้า ซึ่งหากขาดการพิจารณาก็น่าจะหลงเชื่อได้ ตามภาพที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้ถูกกับกระแสบุญนิยมในศาสนิกชนจำนวนมากที่ยังคงคลั่งไคล้บุญบารมี จนลืมสิ้นว่าความดีแท้ในพระพุทธศาสนามีสาระธรรมเป็นอย่างไร!?

การปลุกปั่นให้หลงเชื่อ อ้างศรัทธาขึ้นชี้นำจึงเป็นยุทธศาสตร์การปลุกเร้าเพื่อเรียกกระแสนิยม โดยเฉพาะการอ้างบุญกุศลจากขนาดของวัตถุ... ยิ่งใหญ่ ยิ่งมีบุญมาก... ยิ่งโต ยิ่งมีบุญล้น ยิ่งไม่มีประมาณ จึงมีบุญเหลือ... กระแสศรัทธาแบบบ้าบุญจึงเฮโลสาระพาไปวันทาบุญกันอย่างเต็มกำลังเรียกว่าหมดตัว ไม่ว่าเพื่อการได้บุญตัวโต ยิ่งเท่าช้างยิ่งดี ดังที่มีการโฆษณาว่า... สร้างหลวงพ่อ...ใหญ่ที่สุดในโลก!!

อาตมาคงไม่วิจารณ์องค์กรหน่วยงานที่รับผิดชอบงานพระพุทธศาสนา แต่ใคร่ขออนุญาตอุทานดังๆ ว่าหากรัฐบาลของท่านประยุทธ์ไม่เหลียวแลอย่างจริงจัง ยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติไทยไปสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืนก็ยากที่จะประสบผล... ด้วยกระบวนการศึกษาเพื่อพัฒนาชีวิตตามวิถีพุทธล้มเหลวอย่างแท้จริง.!!


เจริญพร


ขอบคุณบทความจาก
www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/344721/องค์กรพระศาสนาล้มเหลว-พระพุทธศาสนาจะสืบต่อได้อย่างไร
ขอบคุณภาพจาก luangporpakdang.com/ข่าวเลขเด็ดงวดนี้-ข่าวห/หลวงพ่อช่างภาพ-กับ-วิถ/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2015, 11:03:27 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ