ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : ธาตุทั้งสี่ในสังขารร่างกาย  (อ่าน 2688 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29304
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : ธาตุทั้งสี่ในสังขารร่างกาย
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2015, 09:06:37 pm »
0


สมาธิชาวบ้าน : ธาตุทั้งสี่ในสังขารร่างกาย

หลังจากที่เราเรียนรู้เรื่องการกำหนดรู้เพื่อเข้าสู่สมาธิ ต่อไปเป็นเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับกายสังขารและการเชื่อมต่อไปยังจิตที่ละเอียดด้วยสมาธิ

กายเรามีจุดต่อเชื่อมที่จะข้ามไปยังความละเอียดเสมือนสะพานเป็นจุดต่อเชื่อม ถ้าใช้สมาธิเพ่งลงไปจะเห็นเป็นใยบัวเส้นบางๆ ต่อเชื่อมระหว่างความหยาบกับความละเอียด ในสายใยบัวที่เชื่อม ถ้ายังเชื่อมอยู่จะผนึกระหว่างโลกกับปรโลก และกายกับจิตไว้ด้วยกัน ส่งสัญญาณสืบเนื่องกันเป็นสะพานเชื่อมโยงไป สิ่งต่างๆ ที่ผ่านทางกายต่างๆ เป็นความหยาบก็ผ่านไปสู่กายละเอียดทางสายใยบัว ถ้าสายใยบัวนี้ถึงเวลาขาด ขาดจากกัน สัญญาณจิตที่มันส่งไปจะขาดจากกัน จะส่งไปไม่ถึง

เมื่อขาดไปแล้ว จิตกับกายจะโดนตัดขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง กายไม่สามารถส่งสัญญาณไปสู่จิตรู้ได้ ดังที่เมื่อคนเสียชีวิตจะนำร่างกายนี้ไปผ่า ไปตัด ไปเผาหรือไปทำอะไร ก็ส่งสัญญาณไปไม่ถึง ไม่รู้ว่าจิตกับกายแยกกันแล้ว ภาวะนี้เรียกว่าความตาย ซึ่งเป็นการตายอย่างแท้จริง


 :96: :96: :96: :96:

การตายอย่างไม่แท้จริงก็มี กรณีที่สัญญาณส่งไปถึงการรู้ แต่ถูกระงับชั่วคราว ยังไม่ขาดจากกัน ยังไม่ถึงภาวะการตายจริง บางคนสลบไปหลายวัน แต่ว่าสายใยที่ระหว่างกายกับจิตไม่ขาด ทำให้คืนกลับมามีความสัมพันธ์กับกายแนบแน่นเหมือนเดิม เกิดมีชีวิตขึ้นมาใหม่ได้ ลักษณะเหมือนกับว่าตาย แต่ไม่ตายจริง กายสังขารก็ไม่แยกการประชุมกัน ถึงแม้ว่าอาการทางโลกจะไม่ปรากฏว่ามีลมหายใจ ไม่มีชีพจรหัวใจเต้น แต่กายก็ยังไม่แยกสลาย ก็ยังไม่ถึงความตายจริง กายยังอุ่นอยู่ คือธาตุทั้ง 4 ประชุมรวมกัน ไม่แตกสลาย

แต่ถ้ากายกับจิตถูกตัดขาดจากกันแล้ว จิตกับกายไม่มีทางเข้ามามีสัมพันธ์กันได้อีก กายย่อมต้องเป็นไปตามภาวะธาตุบนโลก ถึงกาลเวลาที่จิตกับกายขาดกันแล้ว แม่ธาตุทั้งสี่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ที่ประชุมรวมกันเป็นสังขารนี้ กายสังขารก็เป็นไปตามกฎของแม่ธาตุโลก คือกายเน่าเปื่อย ผุพัง แม่ธาตุทั้งสี่รับรู้ถึงมรณานุสติ มรณกาลการมาเยือนรู้ว่าถึงมรณกาลแล้ว อาการของแม่ธาตุทั้งสี่จะแยกตัวจากกัน ธาตุดินไปรวมกับธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ต่างแยกไปอยู่ในที่ของธาตุตัวเอง ทำให้การประชุมรวมกันที่เป็นสังขารนั้นหมดไป ร่างกายจึงเกิดการเน่าเปื่อย ผุพังไปโดยรวดเร็ว นี่คือการถึงแก่ความตาย


 :25: :25: :25: :25:

เมื่อคนเราถึงความตายแล้วธาตุทั้ง 4 จะแยกไม่รวมกัน ภายในเวลาไม่นาน ส่วนที่เป็นของแข็งก็แยกไป เลือดที่มีความแข็งมันจะไปกองอยู่แผ่นหลัง ทำให้ร่างกายเกิดการแข็งเกร็งนี้เข้าสู่อาการความตาย ลมไม่เคลื่อนไหว ไฟออกจากร่างร่างกายจะเย็น ธาตุหนักแยกไปอยู่กับธาตุหนัก ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ มีกี่ธาตุแยกไม่ประชุมกันแล้ว ภายในไม่กี่ชั่วโมงกายสังขารจะเริ่มหมองคล้ำ พร้อมที่จเน่าเปื่อย ผุพัง ธาตุเป็นมรณกาลแยกกันไป แต่ถ้าธาตุยังไม่แสดงอาการแยกจากกัน สังขารจะเหมือนคนนอนหลับ มีอาการที่กายไม่แข็ง เลือดไม่แยก ระหว่างเม็ดเลือดแดง ธาตุเหล็กต่างๆ ไม่แยกกัน แต่ลมหายใจไม่เคลื่อน ชีพจรไม่มี หัวใจไม่เต้น แต่สังขารนั้นยังไม่ถึงความตาย คือสายใยมันยังไม่ขาด เพียงแต่ว่าหยุดหายใจไป

สมัยก่อนนั้นคนที่มีภูมิปัญญา จึงจะรอไว้ด้วยการตั้งสวดศพไว้ในบ้าน 3 วัน 5 วัน เพราะถ้าหากธาตุมันไม่ได้แยกไปไหน ร่างกาย ลมหายใจจะฟื้นกลับมาใหม่ แต่หากไม่ฟื้น ธาตุจะพร้อมไปประชุมเป็นกายสังขารอันใหม่ เป็นสัตว์ใหม่ เป็นบุคคลใหม่ เป็นสรรพสิ่งใหม่บนโลก อาศัยธาตุเดิมไปรวมกันใหม่ ไม่ได้หายไปไหน เปลี่ยนสภาพไปเป็นคนหรือสัตว์ตัวใหม่ขึ้นมา

เช่นนี้แล้ว เราจึงควรตระหนักให้ชัดเจนว่า กายก็ไม่ใช่ของเราจริง เป็นเพียงแต่แม่ธาตุทั้งสี่มารวมกันเป็นรูปเป็นร่างเพียงชั่วคราว ธาตุนั้นมีระยะเวลาอยู่รวมกันตามธรรมชาติเพียงระยะหนึ่งเท่านั้น.

ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/150215/103018
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : ธาตุทั้งสี่ในสังขารร่างกาย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2015, 09:47:35 pm »
0

     สาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา