ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มวิศวกรหาปลากลางดึกพบลูกแก้ว เชื่อเป็นของพญานาค-กรมศิลป์ ยังไม่สรุป  (อ่าน 1134 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29371
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หนุ่มวิศวกรหาปลากลางดึกพบลูกแก้ว เชื่อเป็นของพญานาค-กรมศิลป์ ยังไม่สรุป

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชาวบ้านในหมู่บ้านสันบุญเรือง ม.4 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ปงยางคก ได้แห่พากันไปดูลูกแก้วประหลาด ที่มีผู้นำเข้ามาที่บ้านเลขที่ 53/1 บ้านสันบุญเรือง ม.4 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นางอามร โภยะโล อายุ 60 ปี โดยภายในบ้านชั้นเดียวบริเวณห้องโถงด้านนอก มีชาวบ้านยืนอยู่ในบ้าน เพื่อดูลูกแก้วประหลาด ที่วางไว้บนพาน และมีดอกไม้ธูปเทียน ตั้งไว้ เพื่อกราบไหว้บูชาอยู่บนตู้ไม้ และมีขันเงิน มีเงินที่ชาวบ้านมากราบไหว้บูชาอยู่เต็มขัน โดยมีชาวบ้านทยอยเดินทางมาดูอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเจ้าของบ้านได้เปิดให้ดู และกราบไหว้บูชา ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ

 ans1 ans1 ans1 ans1

นอกจากนี้ ทางเจ้าของบ้านยังมีการเตรียมขันน้ำขมิ้นส้มป่อย เพื่อให้ชาวบ้านที่เดินทางมาดู และมีความเชื่อได้ทำการปะพรม เพื่อบูชาตามความเชื่อว่า เป็นลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคราชในแม่น้ำวัง ที่อยากจะให้ชาวบ้านได้เห็น ซึ่งลูกแก้วดังกล่าวนั้น มีน้ำหนักมาถึง 10.2 กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร จะเป็นลูกแก้วที่เป็นลักษณะใสขุ่น เมื่อมีการส่องไฟกระทบจะเป็นแสงวนอยู่ข้างในลูกแก้ว และชาวบ้านที่เดินทางมาดู และกราบไหว้บูชา ก็มีการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายก็จะมีแสงสีที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะหากใช้เฟลชจากกล้องถ่าย ก็จะติดภาพแสงสีจากลูกแก้วเป็นสีสันที่สวยงาม

ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเจอลูกแก้วลักษณะดังกล่าวในชีวิต ถึงแม้ว่า จะมีการขายลูกแก้วตามท้องตลาดทั่วไป ก็เป็นแก้วอีกแบบหนึ่ง แต่ลูกนี้ลักษณะแปลกผิดหูผิดตาทั่วไป ยิ่งชาวบ้าน หรือร่างทรงที่มีความเชื่อ เดินทางมาดู ก็ต้องขนลุก และมีความรู้สึกที่พิเศษแบบแปลกประหลาด และต่างมีความเชื่อว่าเป็นลูกแก้ววิเศษของพญานาคราชในแม่น้ำวัง เมื่อมีชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เดินทางมาดูอย่างไม่ขาดสาย ก็ต้องไม่พลาดที่จะมีการกราบไหว้บูชา เพื่อขอเลขเด็ด เพื่อเอาไปลุ้นรางวัลหวยที่จะออกในวันที่ 1 มีนาคม 2558 นี้ ซึ่งชาวบ้านก็ตีเป็นเลขที่บ้าน 531 หรือเลขน้ำหนักของลูกแก้ว 102 รวมถึงเลขอื่น ๆ ที่หลายคนกราบไหว้บูชา และดูได้จากลายลูกแก้ว



สำหรับลูกแก้วลูกนี้ นายพีระพันธ์ โภยะโล อายุ 34 ปี เป็นวิศวกรอยู่ที่โรงงานเซรามิกแห่งหนึ่งใน ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยเป็นบุตรชายของ นางอามร เล่าว่า เมื่อคืนของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยหลานชาย ได้ไปหาปลาที่แม่น้ำวัง เขตชุมชนสบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งในช่วงนั้นน้ำวังมีไม่มาก เมื่อหาปลาได้สักพัก ก็พบปลาช่อนตัวใหญ่ และยาวประมาณครึ่งเมตรว่ายดิ้นอยู่ ตนจึงใช้หันไฟฉายที่มัดติดอยู่ศีรษะส่อง เพื่อที่จะใช้อุปกรณ์จับปลา จับปลาช่อนตัวดังกล่าว

แต่ปรากฏว่าปลาตัวดังกล่าวได้ว่ายดิ้นหนีไปอย่างรวดเร็วในจุดที่น้ำลึก แต่สิ่งที่ตนพบคือแสงกระทบลูกแก้วที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นทรายก้นแม่น้ำวัง ตนจึงได้เรียกหลานชายมาช่วยกันเขี่ยทรายที่ถมลูกแก้วดังกล่าว เพื่อที่จะยกขึ้นมาดู แต่ขณะนั้นไม่สามารถยกขึ้นมาได้ ตนจึงได้ยกมือไหว้ และขอว่าอยากที่จะเอาขึ้นมา แล้วไปไว้ที่บ้าน เพื่อกราบไหว้บูชา เมื่อไหว้เสร็จ ก็ทำการเขี่ยทรายที่ล้อมถมลูกแก้ว ก่อนที่จะยกขึ้นได้สำเร็จ จึงรีบนำกลับมาบ้าน เพื่อใส่พานไว้บูชาจนถึงวันนี้ โดยตนก็มาทราบว่า ชาวบ้านได้ไปถามทรงเจ้า ทราบว่า เป็นลูกแก้วของพญานาคราช หรือพญานาค ในแม่น้ำวัง ที่จะให้ลูกแก้วขึ้นมาให้ชาวบ้านได้เห็น และกราบไหว้บูชา และจะให้โชคลาภ 2 งวด



ทั้งนี้ หลังจากที่ข่าวพบลูกแก้วประหลาด ที่บ้านหลังดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป โดยเฉพาะมีผู้นำภาพลงในสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ก็มีชาวบ้านเดินทางไปดูมากยิ่งขึ้น กระทั่งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน กรมศิลปากร เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว มาดูว่า เป็นลูกแก้วใด และสอบถามข้อมูลการพบลูกแก้วดังกล่าว ในเบื้องต้นที่เดินทางมาดูยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นลูกแก้วที่มีอายุเก่าแก่ จากเมืองเก่าในอดีตของ จ.ลำปาง หรือไม่ ซึ่งจะต้องนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

โดยที่ชาวบ้านก็ได้สอบถามว่า หากเป็นของเก่าแก่ในอดีตจริง จะต้องทำอย่างไร และใครเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน กรมศิลปากร ได้บอกให้ชาวบ้านได้เกิดความเข้าใจ ว่า จะต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน และจะมีการประเมินมูลค่า รวมถึงจะต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จะเก็บไว้เป็นของสาธารณะประโยชน์ เช่น เก็บไว้ที่วัด หรือผู้ที่พบเก็บไว้ แต่หากลูกแก้วหาย ผู้ที่พบ และดูแลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตามมูลค่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบก่อน


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425010953
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ