ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "เจ้าคุณพิพิธ" วิเคราะห์ ′ศึกวงการสงฆ์′ เอาให้ชัด ′ใครคนผิด-ใครคนป่วน.?′  (อ่าน 1310 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29379
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระราชวิจิตรปฏิภาณ(เจ้าคุณพิพิธ) วิเคราะห์
′ศึกวงการสงฆ์′ เอาให้ชัด ′ใครคนผิด-ใครคนป่วน?′
โดย พิมพ์ชนก พุกสุข และวรรณโชค ไชยสะอาด

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ซึ่งเป็นกระแสกลบข่าวอื่นคงจะหนีไม่พ้นสิ่งที่หลายคนให้คำจำกัดความว่า "ศึกวงการสงฆ์"

ลองไล่เรียงกันชัดๆ เริ่มมาตั้งแต่กระเเสวิพากษ์วิจารณ์ธุดงค์ธรรมชัยของวัดพระธรรมกาย สู่การหยิบยกพระลิขิต "พระเทพญาณมหามุนีหรือพระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิก" ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในปี พ.ศ.2542 ขึ้นมาอีกครั้ง

สู่ มติมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ยืนยันว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือ หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิกพ้นจากความเป็นสมณะ เนื่องจากไม่ได้ฝืนพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช

กระทั่ง คณะกรรมการปฏิรูปศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อม พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ประกาศขอตรวจสอบการทำหน้าที่ของ มส.ผสมโรงบวกกับข้อกล่าวหาคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ไปเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายอีก ยิ่งกลายเป็นข่าวใหญ่

ล่าสุดเปิดอีกประเด็นเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องยุ่งๆ จากปาก เจ้าคุณพิพิธ หรือ พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ที่ตั้งข้อสังเกตว่าหรือแท้จริงแล้ว มีคลื่นใต้น้ำ ลึกลับซับซ้อนกว่า

"มีกระบวนการเบื้องหลัง เเละคดีธรรมกายจึงเป็นเเค่ประเด็นที่ถูกนำมาฟาดฟันไม่ให้สมเด็จฯวัดปากน้ำได้รับการสถาปนาเป็นสังฆราช ศึกศาสนาครั้งนี้คนที่จะหนักใจที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากไม่ได้คาดหวังให้ สปช.ทำหน้าที่ตรงนี้ นายกฯจะทำอย่างไรกับคณะกรรมการชุดนี้ที่จะสร้างความแตกแยกในวงการพุทธศาสนา และเรื่องนี้เป็นการบ้านที่หนักของรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่ปรองดองให้คดีความมันหมดไปแต่ ณ เวลานี้แผ่นดินไทยแตกโดยคณะสงฆ์" พระราชวิจิตรปฏิภาณกล่าว

ไม่รอช้า รีบรุดเพื่อสนทนากับ "เจ้าคุณพิพิธ" ต่อเรื่องดังกล่าว


 ask1 ans1 ask1 ans1

กรณีท่านเจ้าคุณฯออกมาพูด มีคนว่า พยายามเบี่ยงเบนประเด็นไปที่เรื่องสมเด็จพระสังฆราช เพราะกลัวจะโดนตรวจสอบเสียเอง?

ไม่ได้เบี่ยงเบน ทุกอย่างที่ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ เป็นประเด็นที่เเท้จริงที่เกิดขึ้นในวงการศาสนาของเรา

 ask1 ans1 ask1 ans1

มองบทบาทหน้าที่ของ "สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อย่างไร?

คสช.เเต่งตั้ง สปช.ชุดนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยปรับปรุงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์โดยผ่านการร่วมมือกับมหาเถรสมาคม หน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพุทธศาสนา จะต้องทำหนังสือต่อมหาเถรสมาคมว่า ได้รับมอบหมายหน้าที่ตรงนี้มา ขอให้มหาเถรสมาคมหารือกันว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับเดิมนั้น มีอะไรขัดข้องบ้างเเละต้องประสงค์อะไรบ้าง ก็ขอให้ปรับปรุงพระราชบัญญัติมา

เมื่อทำหนังสือกราบเรียนเเล้ว จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของมหาเถรสมาคมในการตั้งกรรมการขึ้นมา โดยเชิญนักกฎหมายระดับประเทศอย่างน้อย 40-50 คน เช่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ มาร่วมกันพิจารณาหาเหตุผล ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ถ้าทำอย่างนี้ตั้งเเต่เริ่มเเรกก็เข้าใจว่า สปช.ทำหน้าที่ได้ถูกต้องที่สุด ตามประสงค์ของการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เเต่เนื่องจากว่า สปช.ชุดนี้มีทัศนคติดูหมิ่นเหยียดหยามคณะสงฆ์ว่าโง่ ง่อย ขี้เกียจ หลงลาภสักการะ ยศ ศักดิ์ เเละเริ่มกล่าวโจมตีมหาเถรสมาคมต่างๆ นานา เช่นไม่มีศักยภาพมากพอ ไม่สามารถดูเเลจัดการกันได้ ไม่มีความสามารถในการดูเเลจัดการผลประโยชน์ของวัด ทั้งที่เเท้จริง คณะสงฆ์มีระเบียบ มีกติกาในการดูเเลกันอยู่เเล้ว


 ask1 ans1 ask1 ans1

เหมือนจ้องมาจับผิดคณะสงฆ์?

ยังมีการใส่ร้ายคณะสงฆ์เรื่องของที่ดินบ้าง ทรัพย์สมบัติกลางบ้าง ซึ่งความจริงเเล้ว เมื่อมีวัดหนึ่งวัดตั้งขึ้นในป่าเขา ความเจริญก็เกิดขึ้นตามมาห้อมล้อมวัด วัดเลยจำเป็นต้องจัดสรรผลประโยชน์เหล่านั้น เพื่อเกื้อกูลพระศาสนา นำไปสร้างโรงเรียน สะพาน ไปช่วยประชาชน วัดที่เราทำทั้งหมด เพื่อช่วยประชาชนเท่านั้น วัดใหญ่ๆ เช่น วัดพนัญเชิง วัดโสธร วัดไร่ขิง วัดพระปฐมเจดีย์ วัดพระพุทธบาท เหล่านี้ เป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน มีหลวงพ่อดังๆ ต่างๆ ถามว่าถ้าไม่มีวัดเหล่านี้ การจ้างงานก็ไม่เกิดขึ้นทั้งหมดเเทนที่ สปช.จะเห็นศักยภาพของวัดกลับไปดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งนั่นคือการจับประเด็นผิดของ สปช.ชุดนี้

บางคนของ สปช.ชุดนี้ไม่ชอบวัดพระธรรมกายอยู่เเล้ว มีส่วนเกี่ยวพันฟ้องร้องกันตั้งเเต่สมัยสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน เเต่คดีความก็ไม่ชนะ นั่นก็เก็บสะสมเอาไว้เรื่องหนึ่ง

ประการที่สอง สปช. ชุดนี้ยังเข้าใจว่าวัดธรรมกายเป็นฐานของพรรคเพื่อไทย เป็นเสื้อแดง

โดย สปช.ชุดนี้หลายคนก็ขึ้นเวที กปปส. ความรู้สึกเหล่านี้จึงนำมาสู่การรื้อฟื้นคดีวัดพระธรรมกาย ประกอบกับมีขบวนการสกัดกั้นไม่ให้สมเด็จวัดปากน้ำขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ทั้งหมดบวกรวมกัน


 ask1 ans1 ask1 ans1

ข้อเท็จจริงในเรื่องพระลิขิตสังฆราช?

การหยิบยกเอาพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชซึ่งวินิจฉัยด้วยพระองค์เองไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมโดยพระองค์ก็ไม่ได้เข้าประชุมถามว่ามีสิทธินำมาใช้ไหมก็ต้องบอกว่าไม่ได้

เเต่ก็มีการหยิบยกเอาพระลิขิตนี้มาเป็นเครื่องมือ โดยทำลายศรัทธาของชาวพุทธ มีความพยายามจะโจมตีมหาเถรสมาคม เเต่ไม่มีประเด็น เลยเลือกโจมตีวัดพระธรรมกายก่อน หยิบมาเล่นกันใหม่ ซึ่งต้องถามนักกฎหมายเเละสังคมว่า ถ้าเรื่องถึงศาลฎีกาเเล้ว ระบุว่าไม่ผิด ถามว่าโจทย์พอใจไหม ถ้าไม่พอใจจะหยิบคดีมาฟ้องใหม่ได้ไหม ก็ต้องตอบว่าไม่ได้ เนื่องจากคดีถึงที่สุดไปเเล้ว

ทุกคนเข้าใจว่าพระลิขิตของสมเด็จของพระสังฆราชคือข้อวินิจฉัยที่สูงที่สุดแต่อย่าลืมว่าคดีนี้มันเข้าสู่มหาเถรสมาคมเเละก่อนถึงวันตัดสินวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราชมีพระราชภารกิจเป็นส่วนพระองค์ โดยพระราชภารกิจ ฉบับที่ 2 บอกว่า ไม่ขอเข้าร่วมประชุม ซึ่งแปลว่าอะไร พระองค์อาจจะเข้าพระทัยว่าพระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช วินิจฉัยแล้วจะต้องถูกต้อง จะต้องทำแบบนั้น เมื่อส่งเรื่องไปยังสมาคม โดยพระองค์ทรงมีพระลิขิตว่า ฉันไม่เข้าร่วมประชุม แปลว่าทรงบังคับให้สมาคมต้องวินิจฉัยตามนี้ใช่ไหม ซึ่งพระลิขิตนี้ถ้าเป็นนักกฎหมาย เขาจะบอกว่า เป็นพระลิขิตเเค่ส่วนพระองค์ โดยในสถานภาพเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่มิใช่เป็นประธานมหาเถรสมาคม ณ วันนั้น


 ask1 ans1 ask1 ans1

มีคนข้องใจคำวินิจฉัยเกี่ยวกับพระธัมมชโยของมหาเถรสมาคม?

การข้องใจเป็นเรื่องส่วนตัวทางมหาเถระก็ได้วินิจฉัยไปแล้วหากว่ากันตรงๆแล้วไม่มีใครไม่ข้องใจในการตัดสินในทุกคดีในทุกคดีหากโจทย์ไม่ได้รับอะไรที่สาใจแล้ว ความข้องใจนั้นไม่เป็นคดี ไม่สามารถเอาไปฟ้องใหม่ได้ ต้องดูไปตามกฎหมายว่าจะสามารถร้องเรียนอะไรได้อีกหรือไม่ หากกฎหมายมีช่องให้ร้องเรียนเพิ่มเติมก็ร้องเรียน

แต่ที่เห็นทุกวันมันไม่ใช่การร้องเรียน แต่มันคือการร้องแรกแหกกระเชอ มันไม่ได้เป็นการนำเข้ากระบวนการ แล้วทุกวันนี้ในโลกออนไลน์มันด่ากันง่าย พอฉันให้สัมภาษณ์ไปครั้งหนึ่ง ก็มีคนมาด่าเต็มไปหมดเลย


 ask1 ans1 ask1 ans1

อีกข้อกล่าวหาหนึ่งคือคนบอกว่าท่านเจ้าคุณฯออกมาปกป้องวัดพระธรรมกาย?

คดีของวัดพระธรรมกายต้องเเยกเป็นสองส่วนหนึ่งคดีฉ้อโกงทรัพย์เมื่อคณะสงฆ์ตั้งกระบวนการพิจารณา5ระดับตั้งเเต่ ตำบล อำเภอ จังหวัด ภาค เเละ มหาเถรสมาคม เมื่อท่านวินิจฉัยว่าไม่ผิด ก็จบสิ้นเเล้ว จะให้ท่านรื้อฟื้นได้อย่างไร ถ้ารื้อฟื้นใหม่มันก็ไม่ชอบธรรม เพราะเท่ากับยอมรับว่าอันเดิมมหาเถรสมาคมเป็นผู้ผิด

ส่วนกรณีของเงินสหกรณ์คลองจั่น นั่นเป็นอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งสมาชิกสหกรณ์ต้องเป็นโจทก์เเละฟ้องผู้บริหารประธานสหกรณ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ มหาเถรสมาคม ถ้าศาลรับคดีกรณีประธานสหกรณ์ฉ้อโกงทรัพย์ เอาเงินไปทำบุญวัดนี้ก็ต้องตั้งต้นกระบวนการสอบสวนเฉพาะกรณีซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ มหาเถรสมาคม

เมื่อส่งเรื่องถึงศาลเเล้วปรากฏว่าประธานสหกรณ์ฉ้อโกง หรือ พระธัมมชโยมีส่วนร่วมด้วย ศาลก็ต้องตัดสินว่า พระธัมมชโยโกง เมื่อศาลตัดสินจนถึงชั้นฎีกาเเล้ว ค่อยเอาเรื่องนี้ส่งถึงมหาเถรสมาคม ตรงนี้นั่นเเหละพระธัมมชโย จึงจะปาราชิก คำตัดสินของศาลมหาเถรสมาคมเถียงไม่ได้ เพราะว่าคดีมันประจักษ์เเล้วว่าฉ้อโกง เเค่นั้นเอง

เเต่การเอาพระรูปหนึ่งซึ่งคนทั้งหลายเรียกว่า พระธรรมกรวย มาเล่นงานวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครทำลายศาสนามากกว่ากัน เเละซึ่งไม่รู้ว่าท่านมีหน้าที่อะไร เรื่องของตัวเองไม่รู้ชำระเสร็จหรือยัง

  ask1 ans1 ask1 ans1

ที่ผ่านมาสังคมก็โจมตีวัดพระธรรมกายมาตลอด จัดการอย่างไร?

ก็ไม่ใช่โจมตีพระวัดพระธรรมกายอย่างเดียว โจมตีทุกองค์ที่มีปัญหา อย่างวัดพระธรรมกายก็ต้องเรียกมาตักเตือน ถ้าจะเล่นงานวัดพระธรรมกายไม่ยาก ลงชื่อเเละยื่นเรื่องมาที่คณะสงฆ์ว่ามีสิ่งที่มันผิดเพี้ยนจากหลักศาสนา

1.กรณีของการถวายข้าวพระพุทธบนสวรรค์วัดพระธรรมกายก็เพี้ยนไปให้มีการบูชาข้าวพระพุทธเจ้าอาวาสจะได้นำเอาไปถวายพระพุทธเจ้าบนโน้นพระพุทธเจ้านิพพานแล้วจะไปอยู่บนไหน ก็แสดงว่าคุณทำพระพุทธเจ้าให้เป็นแค่ลัทธิมหายานเท่านั้นเอง อันนี้ต้องเลิก ถ้าไม่เลิก ต้องวินิจฉัยว่าผิดเพี้ยน ถ้าเพี้ยนไปจากคำสอนแปลว่าอะไร แปลว่าบ้าไปแล้ว มันบ้าไปแล้ว แล้วใครเชื่อคนบ้าว่าเอาข้าวไปถวายพระพุทธเจ้าได้โดยปาฏิหาริย์ขององค์นี้ อันนั้นก็บ้าตาม ถือว่าใช้ไม่ได้

2.เรื่องเดินธุดงค์ ให้เลิกเสีย เพราะสิ่งที่กระทำไม่ใช่ธุดงค์ใน 13 ประการของพระพุทธเจ้า เป็นแค่จาริก เพื่ออวดภาพ สร้างภาพ และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนซึ่งพระสมัยก่อนเขาไม่ทำ ฉะนั้น การธุดงค์นี้จะเดินเป็น 10 รูป 20 รูปก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ไม่ใช่ธุดงค์พาเหรด สร้างความเดือดร้อน ต้องตักเตือนให้เลิกกระทำเสีย ถ้าไม่เลิกต้องลงโทษ คือ หนึ่งเลิกเป็นเจ้าอาวาส สองให้เลิกเป็นสมณศักดิ์เสีย ยกเว้นว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว แล้วถ้าใครนับถือคนบ้าก็เป็นบ้าไป ก็เป็นอีกลัทธิหนึ่งไป ต้องปลดออกจากคณะสงฆ์ไป ถ้าไม่เชื่อ ยังทำตามนั้น ถือว่าสร้างความเดือดร้อน ถ้าไม่เลิกก็ต้องกำจัดออกไป

3.การเทศนา อย่าหมกมุ่นแต่เรื่องการบริจาคเงินทอง วนเวียนมันอยู่นั่นแหละเรื่องการบริจาคเงิน เอาพอเหมาะพอควร พอดำรงอยู่ได้ ไม่ต้องดำรงทุน

4.เวลาสร้างพระพุทธเจ้า สร้างด้วยไฟเบอร์กลาส แต่เวลาสร้างหลวงพ่อสดใช้ทองคำ แปลว่า หลวงพ่อสดสำคัญกว่าพระพุทธเจ้าใช่ไหม ต้องถามอย่างนั้น ถ้าหลวงพ่อสดสำคัญกว่าพระพุทธเจ้าก็ใช้ไม่ได้ เพราะหลวงพ่อสดท่านก็นับถือพระพุทธเจ้า

5.พิธีอลังการงานกฐิน คนเป็นเจ้าภาพจะต้อง 30 ล้านขึ้นไปนี่ เลิกๆ เสียทีเถอะมันสะท้อนใจ

อาจจะต้องตักเตือนเป็นหนังสือไป และดูพฤติกรรมกันไป ถ้าไม่เลิกก็ปลด อันนี้เป็นคำสั่งสอนโดยสถานภาพของการเป็นนักปกครอง

 ask1 ans1 ask1 ans1

แต่ถ้าไม่ยอมรับฟัง?

กิจกรรมที่มันเกินเลยกว่าที่รับได้ ต้องมีการตักเตือนอย่างรุนแรง และมีการคาดโทษลงทัณฑ์ แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับก็ "บ้า" ไปแล้ว "ผิดเพี้ยน" ก็ต้องปลดออกไปให้หมด ใครร่วมขบวนการก็ต้องถูกปลดออก ถึงที่สุดแล้วก็ต้องมีการยุบวัดและส่งพระส่วนกลางไปเป็นเจ้าอาวาส ถามว่าแบบนี้จบไหม แบบนี้นี่จบเลย ส่วนเรื่องที่ดินก็มีกฎหมายควบคุมอยู่ ส่วนพระที่ไม่เกี่ยวข้องบวชด้วยศรัทธาก็อยู่เป็นพระลูกวัดต่อ แต่ถ้าไม่ชอบใจก็ต้องสึกกันไป

เมื่อวัดพระธรรมกายทราบเรื่องนี้เข้า ต้องปรับปรุงตัวเสียใหม่ ไม่ต้องรอให้เขาสั่งหรอก อย่าอวดดี อัดเข้าไปเลย อย่าไปเกรงใจ


 ask1 ans1 ask1 ans1

แสดงว่าที่ผ่านมา มส.ไม่ได้มีการจัดการกับวัดพระธรรมกาย?

ไม่ใช่ ช่วงนั้นสมเด็จฯ วัดปากน้ำท่านก็ยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง ต้องหันไปดูช่วงสมเด็จพระสังฆราชองค์เก่า ท่านทรงเป็นประธาน มส. คนก็พูดกันแต่ภายนอก ไม่นำมาสู่กระบวนการ ก็วิจารณ์กันแต่ภายนอกด้วยปลายนิ้วมือพิมพ์กัน

 ask1 ans1 ask1 ans1

ประเด็นเรื่องปฏิรูปพุทธศาสนา?

ต้องให้คณะสงฆ์พิจารณาของท่านเอง พระเเต่ละรูปมีความรู้ ประโยค 9 ระดับสูงทั้งนั้น เป็นศาสตราจารย์ เป็นด็อกเตอร์ มีการศึกษาด้านกฎหมายหลากหลายท่าน ทำไมไม่ให้ท่านร่วมกันร่างและนำเสนอไปผนวกกับรัฐธรรมนูญล่ะ และรายชื่อคณะกรรมการก็จะระบุว่าคณะกรรมการเหล่านี้ที่เป็นฆราวาสฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ที่ได้รับเชิญ ได้มาประชุมกัน และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อเข้าสภา ตัวแทนของพระซึ่งเป็นฝ่ายพระกับฆราวาสก็จะไปนั่งตอบปัญหาให้ว่าเพราะอะไร พระธรรมวินัยเป็นอย่างไร สามารถทำอย่างไรได้ในกรอบของพระ มิใช่สมมุติตนเองว่าเป็นนักวิชาการทางศาสนาและเป็นฆราวาส จะมาออกกฎหมายกดหัวพระ

พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ออกมาโดยให้พระทำอย่างนี้ เขาบังคับให้พระทำ นักวิชาการซึ่งอวดตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางศาสนา เคยทำอะไรให้ศาสนาบ้าง มีแต่จับผิดพระ ลากพระออกมาด่า โจมตี พระเกิดเรื่องทีไร ชอบเอามาสู่กระแสสังคมในเรื่องเลวร้าย ลากพระออกมาทำลายหมดโดยที่คดีนั้นยังไม่ได้จบลงไปเลย และสิ่งเหล่านี้ เมื่อเราไม่มั่นใจในพระและจะออกกฎหมายให้พระ ถ้าเกิดพระท่านบอกว่า พระทั้งประเทศรับไม่ได้กับพระราชบัญญัติที่ฆราวาสมาสร้างให้ จะทำอย่างไร

 ask1 ans1 ask1 ans1

ต้องให้พระสงฆ์มีส่วนร่วม?

อย่าลืมว่าพระเป็นผู้คุมพื้นที่ทั่วประเทศนะ 20,000 กว่าวัด ถ้าคุณร่างมาแล้วพระบอกว่าไม่เอาคำเดียว ไม่ปฏิบัติ ไม่สนใจ คุณจะตามจับพระทั่วประเทศเหรอ ทำอะไรถามพระกันบ้าง อย่าดูถูกพระมากนัก ประเทศชาติ นักปกครองทั่วประเทศที่ผลัดเปลี่ยนเวียนมาเป็นรัฐมนตรี ถามว่า รักษาประเทศชาติ พระศาสนาได้เท่าพระไหม การศึกษา ศีลธรรม การช่วยเหลือสังคมทั้งประเทศตกอยู่ในมือใคร ก็พระ พระทั้งนั้น แต่พอพระเกิดเรื่องคนหนึ่ง ก็จะเอาเรื่องพระคนนี้ที่ว่าโกงเอามาตีแผ่แล้วสร้างกฎหมายมาควบคุมพระทั้งหมด มันไม่ถูกต้อง

ให้พระท่านทำเองเท่านั้นเอง จะปฏิรูปเรื่องศาสนา ถวายโอกาส มส. แล้วท่านไปจัดการของท่านเอง แล้วส่งเรื่องมา ฆราวาสเป็นผู้ช่วยสนับสนุนเท่านั้น พระท่านไม่ทำเกินวินัยเด็ดขาด


 ask1 ans1 ask1 ans1

เหตุการณ์ที่เกิดจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหรือไม่?

ไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนหรอก มันเป็นจุดที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องออกมาปรามให้ทุกคนอยู่ในกฎหมาย และให้ทุกคนทำหน้าที่ไป ฝ่ายที่สงสัยความประพฤติของวัดพระธรรมกาย มีอะไรจะฟ้องร้องได้ก็ฟ้องร้องในกรอบของการดำเนินคดี ตามลำดับ ฝ่ายที่จะฟ้องร้องพระพุทธะอิสระก็ลองดูว่าอยู่ในกรอบหรือไม่

ต้องดูว่าใครเป็นคนผิดและใครที่เป็นคนป่วน


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425065748
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29379
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เจ้าคุณพิพิธ กับประเด็น ′ยกเลิกสมณศักดิ์′
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2015, 08:30:14 pm »
0


เจ้าคุณพิพิธ กับประเด็น ′ยกเลิกสมณศักดิ์′

ความขัดแย้งต่างๆของคนในสังคมนับเป็นเรื่องปกติอันเกิดขึ้นได้ในบ้านเมืองที่ให้อิสรภาพทางความคิด และหนึ่งในความขัดแย้งอันนำมาสู่ข้อถกเถียงในวงกว้างที่เห็นกันเจนตาขึ้นในเวลานี้ เห็นจะหนีไม่พ้นความขัดแย้งใน "แวดวงสงฆ์" ที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างเด่นชัดในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็นประเด็นยักยอกทรัพย์ รวมไปถึงพฤติกรรมอันอยู่ในข่ายไม่เหมาะสมบางประการของ "พระเทพญาณมหามุนี" หรือ หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมื่อปี 2540 ที่นำมาซึ่งมติของมหาเถรสมาคม ให้ปรับปรุงคำสอนของพระธรรมกายในที่สุด

อย่างที่ทราบกันว่าคดีความนั้นยืดยาวล่วงมาอยู่ 7 ปีเต็ม โดยที่ไม่มีมติให้พระธัมมชโยต้องปาราชิกแต่อย่างใด


 :96: :96: :96: :96:

อย่างไรก็ตาม กลับมาช่วงเวลาปัจจุบัน "คณะกรรมาธิการศาสนา" สปช. กลับชี้ว่าพระธัมมชโยนั้นต้องปาราชิก พร้อมกันนี้ พระพุทธอิสระก็เข้ายื่นหนังสือต่อ สปช. ขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินเงินทองของกรรมการ มส. ทุกรูป รวมถึงของพระธรรมกายและพระธัมมชโย กระทั่งรื้อคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกคำรบ

กล่าวสำหรับ "พระราชวิจิตรปฏิภาณ" หรือ "เจ้าคุณพิพิธ" นอกจากเป็นพระนักปกครองแล้ว ยังมีงานเผยแผ่ธรรมอีกมากมายทั้งทางรายการโทรทัศน์ สถานีวิทยุ และหนังสือพิมพ์ อาทิ รายการ ลีลาชีวิต, ธรรมรส-ธรรมอัฐ ทางสถานี NBT (ช่อง 11) กรมประชาสัมพันธ์, รายการพุทธิธรรมนำทาง ทางสถานี โมเดิร์นไนน์ (ช่อง 9) และ Global network จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นพระนักเทศน์ นักปาฐกถา นักอภิปราย และนักเขียนที่มีงานปรากฏมากที่สุดรูปหนึ่ง  ไม่แปลกเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับแวดวงสงฆ์ชื่อของ"ท่านเจ้าคุณพิพิธ"จะถูกคิดถึงเป็นลำดับแรกๆสำหรับการขอความเห็น

 ask1 ans1 ask1 ans1

อย่างการปฏิรูปในครั้งนี้ที่มีหลายคนตั้งคำถามและเสนอคงหนีไม่พ้นเรื่อง"ยกเลิกสมณศักดิ์"

"ไม่ได้ ยกเลิกสมณศักดิ์ไม่ได้" เป็นคำตอบอันชัดเจนจากเจ้าคุณพิพิธ "สมณศักดิ์ไม่ใช่เรื่องที่สงฆ์ตั้งขึ้นเอง แต่เป็นเรื่องของสถาบันสูงสุดได้ทรงบัญญัติขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูพระสงฆ์"

ฉะนั้น การพูดว่ายกเลิกสมณศักดิ์จึงเป็นคำพูดที่ง่าย แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสงฆ์ แต่เป็นพระราชอำนาจที่ทรงสถาปนาไว้เพื่อพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ศาสนาและสังคม


 ask1 ans1 ask1 ans1

แต่ทั้งหมดนี้นำมาสู่คำถามที่ใหญ่กว่าเดิมว่า "สมณศักดิ์ทำให้พระนั้นยังดำรงตนอยู่ในกิเลส แก่งแย่งชิงดีกันเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงกว่า?"

"พระท่านไม่ได้คิดอะไรหรอก ตอนบวชก็ไม่ได้คิดจะเป็นเจ้าคุณ หรือตำแหน่งอื่นๆ บวชมาเพราะความจำเป็น ความเลื่อมใส อยู่กันไปทำงานกันไป บางองค์ไม่อยากเป็นแต่ก็ต้องเป็น  ทรงถวายมาแล้วโดยการนำเสนอของคณะสงฆ์ ไม่รับได้ไหม ส่วนบุคคลใดที่เกียกตะกายอยากได้อยากมีมันก็ต้องมีบ้าง

"ในฝ่ายการเมืองมีไหม ฝ่ายบริษัทเราแก่งแย่งตำแหน่งกันไหม มันก็ต้องมีทุกที่ แต่อย่าเอาประเด็นเดียวมาตัดสินคนทุกคน"

 
ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 28 ก.พ. 2558
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425065748
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ