กลอนบทนี้ไม่ทราบเป็นผู้ใดแต่งไว้
เพราะสมัยอาตมา เป็นสามเณร ก็เคยมาท่องเล่นแล้ว
![](http://gotoknow.org/file/papangkorn/jungle003.jpg)
กลดคันหนึ่งนี้หรือคือปรางค์มาศ
มีเสื่อขาดเปรียบที่นอนอันอ่อนนุ่ม
มีมุ้งห้อยย้อยยานต่างม่านคลุม
มีบาตรอุ้มเฉกเช่นเป็นโรงครัว
มีจีวรแทนเครื่องทรงอลงกต
มีศีลพรตเป็นมงกุฏที่สวมหัว
มีขันติเป็นพระขรรค์มั่นกับตัว
ความดีชั่วคือราชการงานนานา
มีปัญญาเป็นอำมาตย์อันปราดเปรื่อง
มีสติเป็นเครื่องที่ปรึกษา
อาณาเขตโดยรอบขอบเขตหนึ่งวา
คือพาราของเราเฝ้าครอบครอง
สมาธิซิเป็นทรัพย์นับแสนโกฏิ
ความสันโดษเป็นเพชรนิลสิ้นทั้งผอง
อีกช้างม้าวัวควายทั้งนายกอง
ก็คือของที่ใส่ในย่ามมา
เสียงจิ้งหรีดคือดนตรีที่ขับกล่อม
อยู่พรั่งพร้อมข้างที่พระเคหาส์
มีความว่างเป็นราชินีศรีราชา
อันว่าองค์กษัตราคือตัวเรา
คงสุขจริงสิ่งใดไหนจะเปรียบ
แม้จะเทียบกับใครไม่อายเขา
ความสุขอื่นหมื่นแสนไม่แม้นเรา
คงเป็นเจ้าพาราครานี้เอย...
จากหนังสือประสบการณ์ทางวิญญาณแห่งศิษย์พุทธะ
ของหลวงปู่พุทธอิสระ วัดธรรมอิสระอ้อน้อย