ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สปช.รุมถล่มซัดพระ "ใช้ผ้าเหลืองหากิน"  (อ่าน 1043 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สปช.รุมถล่มซัดพระ "ใช้ผ้าเหลืองหากิน"

สปช.รับทราบรายงานปฏิรูปศาสนา ด้านสมาชิกรุมถล่มซัดพระใช้ผ้าเหลืองหากิน-สอนผิดหลักพระธรรมวินัย เสนอตั้งก.ก.ร่างก.ม.จัดการทรัพย์สินวัด ด้าน 'เทียนฉาย'เบรก

24มี.ค.58 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ปรึกคณะกรรมาธการฯ ได้รายงานว่า ขณะนี้มีการใช้ผ้าเหลืองบังหน้าหากิน ละเมิดคำสอนพระธรรมวินัย ทางกรรมาธิการจึงมีข้อเสนอ คือ
     1.ให้มีการร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ ซึ่งจะต้องมีการจัดทำงบบัญชีทรัพย์สินของวัด ทรัพย์สินที่ได้ภายใต้ร่มกาวพัสตร์จะต้องเป็นของพระพุทธศาสนาโดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภิกษุและฆราวาสในการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดร่วมกัน
     2.ให้ปรับปรุงกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ หรือพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 โดยเฉพาะการปกครองสงฆ์ ควรจะมีการกระจายอำนาจ แทนการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ ซึ่งจะต้องให้คณะสงฆ์ที่อยู่ในวัดและประชาชนร่วมกันดูแลวัดและกิจการพุทธศาสนา นอกจากนั้นควรกำหนดให้วัดเป็นศูนย์กลางในการบริหารวัด การแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าอาวาส การปฏิบัติให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย
     3.ควรมีกลไกนำหลักการปฏิบัติตามพระธรรมวินัยมาบัญญัติให้เกิดความชัดเจน ว่าการปฏิบัติใดเป็นไปตามพระธรรมวินัยหรือไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย เพื่อให้มีการตรวจสอบป้องกันการบิดเบือนหรือแอบอ้างพระธรรมวินัย และ
     4.ปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ ให้ทันกับเหตุการณ์ เพื่อให้พระภิกษุสามเณรมีความเชื่อมั่นในระบบการศึกษา


 :41: :41: :41: :41:

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยให้มีการปฏิรูปศาสนา แต่เห็นว่าควรที่จะปฏิรูปในภาพรวม ไม่ใช่ปฏิรูปเฉพาะกรณี โดย นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา สมาชิกสปช. อภิปรายว่า องค์ประกอบของพุทธบริษัทสี่ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา มีแนวโน้มที่จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักการของพระพุทธศาสนา เพราะภิกษุบางรูปคิดว่าตนเป็นเจ้าของพระพุทธศาสนา

อีกทั้งยังมีผู้นุ่งห่มจีวรที่ไม่ถือว่าเป็นสงฆ์ เพราะมีความประพฤติไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย ปะปนอยู่กับคณะสงฆ์ จนนำมาซึ่งความเสื่อมเสียในคณะสงฆ์ เช่น พระบางรูปนุ่งผ้าจีวรจากอิตาลี พระสั่งอาหารจากภัตตาคารแทนการบิณฑบาตร พระบางรูปที่จะถือสันโดษ แต่กลับชักชวนให้ศาสนิกชนมาร่วมทำ “บุญนิยม” บริจาคมากได้มาก ใช้โฉนดวัดในการเรี่ยไรทรัพย์สินจากประชาชน หรือแม้กระทั่งออกโฉนดสวรรค์เพื่อกระตุ้นให้มีการบริจาคเงินแก่วัด พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ขัดกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงสมควรที่จะมีการปฏิรูปกิจการของศาสนจักรที่เป็นอยู่ขณะนี้


 :91: :91: :91: :91:

ด้านนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สมาชิกสปช. อภิปรายว่า มีประชาชนถามตนว่าคณะกรรมการฯ ชุดนี้ จัดตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร เพราะออกมาตอบโต้กับมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นการไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคณะกรรมการฯ ที่โต้เถียงกับพระสงฆ์ผ่านรายการโทรทัศน์เป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิด ขึ้นในพระพุทธศาสนา กระทั่งมีประชาชนกลุ่มหนึ่งอยากให้ยุติบทบาทของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกว่าไม่มีอำนาจในการยุบ

สุดท้ายคณะกรรมการฯ กลับยุติบทบาทของตนเอง ทั้งที่ผลักดันเรื่องนี้มาอย่างหนัก ถ้าเปรียบเหมือนมวยก็เป็นมวยบุกหนัก สังเวียนมี 6 ยก จะมายุติการชดในยกที่ 5 ได้ อย่างไร อย่างน้อยคณะกรรมการฯ ควรที่จะยกร่าง พ.ร.บ. เพื่อการปฏิรูปกิจการศาสนาและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาให้ แล้วเสร็จก่อน

 :03: :03: :03: :03:

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ สมาชิกสปช. อภิปรายว่า ตนมีข้อเสนอให้วัดจะต้องทำบัญชีทั้งหมด โดยไม่ต้องให้ไวยาวัจกรเป็นคนทำ อาจให้สถาบันการศึกษาช่วยทำบัญชีก็ได้ การที่เสนอให้วัดทำบัญชีเพราะทางวัดมีเงินบริจาคจำนวนมาก จึงต้องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาตรวจสอบ ส่วนวัดที่ทำเป็นพุทธพาณิชย์ ควรให้สำนักงานพุทธศาสนาเข้าไปตรวจสอบว่าการให้เช่า ทรัพย์สินหรือวัตถุมงคลนั้นเป็นอย่างไร

เพราะทุกวันนี้พระไม่ต้องเสียภาษีแต่ต่อไปวัดที่ให้เช่าวัตถุมงคลอาจต้องเสียภาษี เพราะถือว่าเป็นพุทธพาณิชย์ ส่วนพระที่ไม่ต้องเสียภาษีก็อาจจะยกเว้นพระที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท แต่ถ้าเกิน 24,000 บาท ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(ภงด.91) นอกจากนั้น ยังขอเสนอให้พระที่ไปเสพเมถุน ดื่มสุรา และขับรถซึ่งถือว่าปาราชิกต้องมีโทษทางอาญาด้วยหรือไม่ และไม่ควรให้พระที่ปาราชิกแล้วกลับมาบวชใหม่ได้อีก


 :29: :29: :29: :29:

นายวันชัย สอนศิริ อภิปรายว่า ตนขอพูดในฐานะเป็นเด็กวัด เป็นทนายว่าความให้เจ้าอาวาสมาหลายรูป เห็นว่าศาสนาอยู่เป็นสถาบันหลักของชาติ ถ้าผุกร่อน บ้านเมืองจะไปไม่ได้ ทั้งนี้ ข้อสรุปของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ไม่ได้เป็นการเหยียบย้ำซ้ำเติมศาสนา เพียงแต่บางเรื่องที่ประธานทำเป็นสายล่อฟ้าเกินไป แต่ก็ทำให้สังคมตื่นตัว แม้แต่วัดบางวัดยังตื่นตัวออกมาแก้ต่าง รวมถึงกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เป็นเรื่องที่ค้างคามา 2-3 ปีแล้ว พอประธานฯหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาจึงมีการคืนเงินให้กับสหกรณ์

นอกจากนี้ เรื่องสมบัติของวัด และของพระ ไม่น่าห่วงมากเท่าฆราวาสที่เข้ามาจัดการ ตนชี้นิ้วไปจุดใดของกทม.ก็มีหมด วัดบางวัดให้เช่าที่ตารางวาไม่กี่ 10 บาท แต่ฆราวาสนำไปประมูลขาย ให้เช่าตารางวาละเป็นแสน เรียกว่าเกาะหลังวัดทำมาหากินบนทรัพย์สินของศาสนา จากที่ดูการศึกษาของคณะกรรมการฯชุดนี้ ถ้าไม่มีการบริหารอย่างเป็นระบบจะพัง ยิ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแย่งกันเป็นผู้อำนวยการฯ เพื่อจะเอาเงินของเราไปหาผลประโยชน์บนทำเลทอง

จึงเห็นว่าน่าจะมีการบริหารเป็นระบบเสียใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้วัดและฆราวาสจัดการกันเอง ส่วนเรื่องการประพฤติผิดพระธรรมวินัยเอาสีกามาเสพเมถุน หลังจากจับศึกแล้วต้องดำเนินคดีและจับติดคุก ดังนั้นจึงเห็นว่าควรตั้งศาลรัฐธรรมนูญพระ เพื่อมาดูแลพระสงฆ์และเป็นไปตามที่นายเทียนฉาย บอกว่าต้องให้อาณาจักรมาปกป้องคุ้มครองศาสนา ไม่เช่นนั้นศาสนาจะไปต่อไม่ได้


 :32: :32: :32: :32:

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับรายงานของคณะกรรมการฯและข้อเสนอแนะของสมาชิกสปช.เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ดำเนินการต่อไป ด้วยคะแนน 186 ต่อ 7 งดออกเสียง 11 ต่อมานายวรวิทย์ ลุกขึ้นขอให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อยกร่างพ.ร.บ.จัดการทรัพย์สินของวัด แต่ถูกนายเทียนฉายแย้งว่ามติที่ออกมารวมทั้งรายงานและข้อเสนอแนะของสมาชิกถือว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งจะได้มีการประสานครม.ในเรื่องนี้ และทราบว่ารัฐบาลกำลังร่างกฎหมาย 2-3 ฉบับที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ซึ่งที่ประชุมไม่มีข้อท้วงติงใดๆ จากนั้นปิดประชุมในเวลา 18.15 น.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150324/203563.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ