ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หรือว่าโลกนี้มีแต่คนบ้า : วิปัสสนาบนหน้าข่าว  (อ่าน 2248 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29290
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 

หรือว่าโลกนี้มีแต่คนบ้า : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
โดยพิสุทธิ์ เกรียงบูรพา

วันนี้ขออัญเชิญคำ ท่านอาจารย์พุทธทาส มาเป็นหัวเรื่องหน่อยเถอะ แรกๆ ที่เคยฟังท่านพูดคำนี้ ก็คิดอยู่ในใจว่า แรงเกินไปไหมหนอ? วันเวลาผ่านไปอีกหลายสิบปี ผมกลับรู้สึกว่า มันช่างเป็นคำที่เหมาะสม กับโลกมนุษย์ในปัจจุบัน ที่กำลังถูกปั่นให้หมุนด้วยแรงกาม และถูกหล่อเลี้ยงด้วยอำนาจเงินตรา ผลประโยชน์ทั้งสิ้น จริงๆ

'คนบ้า' ในที่นี้ ท่านพุทธทาสมิได้หมายความเพียง คนประเภทบ้าเป็นการส่วนตัวไม่เบียดเบียนทำร้ายใครแม้แต่ตัวเอง เช่น คนถอดเสื้อ ผมเพ้ารุงรัง ไม่อาบน้ำ เดินกลางถนนตามที่เราเห็นกันจนชินตา คนเช่นนั้น มันไม่น่ากลัวเท่ากับ 'คนบ้าทางจิต ทางวิญญาณ' หรอกครับ พวกเขาเหล่านั้น มีสภาพเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่แหละครับ อาจจะดูเป็นปกติทุกอย่าง กว่าจะรู้ได้ว่า 'บ้า' ก็ต่อเมื่อได้พูดจากัน ใกล้ชิดสักระยะหนึ่ง หรือบางครั้งกว่าจะรู้ได้ก็สายเกินไปแล้ว ดังเช่นหลายกรณีที่เป็นข่าวดังกัน แบบที่ทำร้ายตัวเอง ก็เช่น

    - พยาบาลสาว โรงพยาบาลย่านรามคำแหง ฉีดยาตาย เพราะชอกช้ำใจถูกแฟนหนุ่มแสบ ลวงรัก ตบทรัพย์จนหมดตัว
    - เด็กชายวัยรุ่น ผูกคอตาย พ่ายรักสาววัยรุ่นโรงเรียนเดียวกัน
    - วัยรุ่นชาวไต้หวัน กระโดดตึกจากชั้น ๒๗ ประชดแม่ ไม่ให้เล่นไอโฟน ๖


 :41: :41: :41: :41:

ส่วนประเภท 'บ้าระห่ำ' ทำให้คนอื่นต้องตายไปด้วย ก็เช่น ที่สหรัฐอเมริกา วัยรุ่น ๓ พี่น้อง ทะเลาะกันเรื่องอาหาร ขณะกำลังกินร่วมกัน พี่คนกลางวัย ๑๓ โกรธจัด วิ่งไปหยิบปืนมายิงน้องวัย ๘ ขวบเสียชีวิต และยิงพี่วัย ๑๖ บาดเจ็บ ก่อนยิงตัวเองตาย?

สายการบินเยอรมันที่จู่ๆ ก็ลดระดับความสูงจาก หลายหมื่นฟุต เหลือเพียง ๑๐๐ ฟุต พุ่งชนหุบเขาแอลป์ในฝรั่งเศส ตายยกลำร่วม ๑๕๐ ชีวิต สืบค้นพบว่าผู้ช่วยนักบินเจตนาปรับลดระดับความสูงเพื่อฆ่าตัวตาย โดยไม่ใส่ใจว่าจะมีผู้อื่นมาตายร่วมด้วย
 
ผู้บริหารเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้จ้างวานฆ่าพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด อย่างโหดเหี้ยม จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระเลย ท่านเป็นพระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บวชมา ๒๐ พรรษา นอกจากอุปัฏฐากพ่อแม่ครูบาอาจารย์แล้ว โดยส่วนตัวท่านเป็นพระปฏิบัติอย่างเข้มข้น วัดท่านก็เล็กนิดเดียว เป็นวัดที่โยมแม่ท่านซื้อที่ดินถวาย โยมพ่อของท่านก็มาบวช แล้วท่านก็ต้องดูแลทั้งหลวงพ่อของท่านและโยมแม่ซึ่งป่วยอยู่ นอกจากนี้ ท่านช่วยเหลือชาวบ้านแก้ภัยแล้ง ช่วยสร้างโรงพยาบาลเพื่อสงฆ์อาพาธ และฆราวาสผู้ป่วยที่ยากจนจะได้ไม่ต้องเสียตังค์ค่ารักษาพยาบาล แล้วอยู่ๆ ท่านก็ถูกฆ่าเพราะความคิดอันธพาลของโยมนักธุรกิจคนนั้น .... นรกเท่านั้นที่รออยู่ พวกนี้ช่างหาเรื่องมาให้พระแท้ๆ เลย !!


 :91: :91: :91: :91:

โอ้ว ... มนุษย์หนอ มนุษย์ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แรงจูงใจอะไรนะ ทำให้เขากล้าวางแผนลงมือฆ่าพระดีๆ รูปหนึ่ง ภาพข่าวที่มือปืนมาขอขมาต่อหลวงพ่อสุข (พระที่เป็นพ่อจริงๆ) นั้น ใครได้ดูแล้ว ก็อดที่จะสะเทือนใจและตื้นตันมิได้  ที่สะเทือนใจ ก็เพราะฆาตกร กล้าลงมือเด็ดชีพได้ลงคอ ทั้งๆ ที่ท่านเป็น “พระสงฆ์” ส่วนที่ ตื้นตันใจ ก็เพราะ หลวงพ่อท่าน ปราศจากอารมณ์โกรธ อารมณ์เศร้าโศกฟูมฟาย ท่านกลับรับการอโหสิกรรมอย่างสุขุม เยือกเย็น ซ้ำยังเทศน์สอนเล็กๆ ตบท้ายด้วยการให้พรแก่ ฆาตกรใจโหดผู้ปลิดวิญญาณพระลูกชายของตน อย่างเปี่ยมเมตตาโดยแท้จริง ...

    อืมม ... ช่างเป็นภาพชีวิตที่อาจเรียกน้ำตาใครต่อใครได้มากมาย (รวมทั้งตัวผู้เขียนด้วยคนหนึ่ง)
    ก็เพราะอะไรเล่า .... ถึงได้มีข่าวโหดร้าย ทำลายกัน แสดงออกซึ่งความเห็นแก่ตัว พยาบาท แสดงอำนาจ บาตรใหญ่ในตัวกูของกู กันถึงขนาดนั้น ไม่เว้นวัน ... ก็เพราะโลกนี้มันเต็มไปด้วยคนบ้านั่นเอง


 :96: :96: :96: :96:

คนบ้าธรรมดา ที่มีอาการทางจิต-ประสาท เราอาจจะพึ่งพาจิตแพทย์ ยาแผนปัจจุบัน ช่วยรักษาได้ แต่คนบ้าทางจิตทางวิญญาณ นี่สิครับ เราจะใช้อะไรเยียวยาได้? ก็คงมีแต่ธรรมะจากพระบรมศาสดานั่นเองที่แก้ไขได้จริงๆ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ๑.จะแก้ไขได้ทันท่วงทีหรือไม่ ๒.บุคคลนั้นจะเข้าใจแก่นธรรม พอจะนำไปใช้งานได้หรือเปล่า ๓.จะมีพระหรือผู้นำทางจิตวิญญาณ ช่วยบอกสอนแนวทางนำร่องแก่พวกเขาได้ไหม? ผมฝากไว้ ๓ ประเด็นนี้ล่ะครับ

    ว่าไปแล้วทุกวันนี้มันช่างน่าเป็นห่วงทั้ง ๓ ประเด็นเลยล่ะครับ
     เพราะ 'พระ' ผู้นำทางจิต ทางวิญญาณทั้งหลายส่วนหนึ่ง ก็กลับกลายเป็นคนบ้าเสียเอง ตัดไม่ขาดจากโลกธรรม ทั้งๆ ที่ครองเพศบรรพชิตมาหลายสิบปีแล้ว พระบางรูปก็กลายพันธุ์เป็นพระขี้โลภ มีเงินเป็นร้อยล้าน พระบางรูปก็ขี้ปด พูดจาโกหก ตู่อ้างพระธรรมแบบผิดเพี้ยน พระบางรูปก็ติดใจ ข้องเกี่ยวกับโยม ชอบเทศน์สอนแต่เรื่องผิวๆ ประจบโยม แล้วเลี้ยวเข้าสู่การเรี่ยไรทุกทีไป พระบ้ายศบ้าศักดินา รับนิมนต์ก็แต่คนมีตังค์ แต่ไม่เคยดูเลยว่า พวกนี้มีตังค์มาจากอะไร ไม่ยอมเทศน์ให้ลดละกิเลส แต่เทศน์ให้รวยเอาๆ นี่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาเลย


      :25: :25: :25: :25:

     พระพุทธศาสนาสอนแต่เรื่อง ลด ละ เลิก ไม่มีหรอกที่สอนให้เอา เอา เอา
     ปุถุชนคนหนา อันเป็นประชากรส่วนใหญ่ของโลก ก็ไม่สนใจธรรม ธรรมจึงเข้าไม่ถึงคนซะที ดั่งคำ หลวงปู่มั่น (ภูริทัตโต) ท่านพูดไว้ไม่มีผิด เมื่อคนไม่สนใจธรรม ธรรมจึงเข้าไม่ถึงคน คนกับธรรมจึงแยกกันไปคนละส่วน ครั้นพอพระสุปฏิปันโนจะเทศน์ธรรมอันลึกซึ้งให้ฟัง ก็ไม่ต่างอะไรกับเทน้ำลงบนหลังหมา มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน!!!

     ส่วนปัญญาชน กัลยาณชน ผู้ประหนึ่งเป็นบัวใกล้พ้นน้ำ เห็นทุกข์ทางโลกแล้ว จึงหันมาสนใจธรรม แต่บางครั้ง บางท่าน ก็พลาดท่า ขาดสัมมาทิฐิเป็นจุดเริ่มต้น จึงยังสับสน ท่องบ่นทฤษฎีกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง คน (หรือพระ) ประเภทนี้ อาจจดจำตำรา พุทธพจน์ ได้มากมาย กล่าวบรรยายอภิธรรมได้ไม่แพ้ท่านมหา แต่กลับเอาตัวไม่รอด เมื่อเกิดวิกฤติทางอารมณ์ พายุกิเลสโหมกระหน่ำ ในยามอ่อนการปฏิบัติภาวนา จึงไม่อาจมี 'สติ' ไวพอ ที่จะขนเอาธรรมาวุธมาใช้ได้ทันท่วงที สักที


      ans1 ans1 ans1 ans1

     ด้วยเหตุนี้และเหตุนี้โลกเราจึงยังเต็มไปด้วยคนบ้า มากขึ้น มากขึ้น ทุกชั่วโมง ทุกนาที
     แต่อย่างไรก็ดี เราๆ ท่านๆ ก็ต้องระวังมิให้เป็น 'บ้า' ตามโลกไปด้วยอีกคน

             โอ้ว ... ใครว่า ฉันบ้า ไปกับโลก
             เขาลิงโลด โดดดีใจ ยามลุผล
             เขาร้องไห้ ฟูมฟาย ยามอกตรม
             จิตฟู-แฟบ วกวน ระทมใจ
             หมดโอกาส จิตสะอาด เป็นปรกติ
             ขาด “สติ” ที่แก่กล้า ไม่หวั่นไหว
             ถ้าไม่หัด ฝึกจิต ปฏิบัติใจ
             ปริยัติ อัดอย่างไร ก็ไม่ถึงธรรมฯ


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150403/204105.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ