ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ก้าวแรก.! วิศวกรสันติภาพ มุ่งแก้ "ต้นน้ำขัดแย้งสังคม"  (อ่าน 1013 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ก้าวแรก.! วิศวกรสันติภาพ มุ่งแก้ "ต้นน้ำขัดแย้งสังคม"
สำราญ สมพงษ์ นิสิตปริญญาโทสันติศึกษา มจร รายงาน

วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ที่จะถึงนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) จัดประสาทปริญญาบัตรระดับตรี-เอก โดยจะมีนิสิตทั้งพระและฆราวาสที่ผ่านมาการศึกษาเข้ารับเฉพาะส่วนกลางมากกว่า ๓ พันคน ในจำนวนนั้นมี "วิศวกรสันติภาพ" นิสิตปริญญาโทสาขาสันติภาพจำนวน ๒๗ รูป/คนรวมอยู่ด้วยเข้ารับ

หลักสูตรสันติศึกษา มจร นี้ ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง  มจร สถาบันพระปกเกล้าและสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเปรียบเสมือนปิรามิดหรือสามก้อนเส้าหรือสามเหลี่ยมสร้างสันติภาพที่แข็งแรง  โดยมีพระมหาหรรษา ธัมมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดี มจร  เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร


 :96: :96: :96: :96:

หลักสูตรดังกล่าวได้เปิดการเปิดการเรียนการสอนเป็นรุ่นที่ ๒ แล้วและกำลังเปิดรับสมัครรุ่นที่ ๓ อยู่ขณะนี้ โดยมีเนื้อหาการเรียนการสอนเกี่ยวกับทฤษฎีแนวความคิดสันติภาพ สันติวิธีในการบริหารจัดการความขัดแยัง และประนีประนอมระงับข้อพิพาษเป็นต้น โดยนำหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาเข้ามาบูรณาการซึ่งเรียกว่าเป็นการสร้างสันติภาพภายในใจ

พระมหาหรรษา เปิดเผยว่า นิสิตปริญญาโทสาขาสันติศึกษาที่จะเข้ารับปริญญาบัตรครั้งนี้ถือว่าเป็นรุ่นแรกเป็นรุ่นปฐมฤกษ์ หลังจากผ่านการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว แต่ก่อนจะเข้ารับปริญญาบัตรทางหลักสูตรได้มีการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศในวันที่ ๒๖ เม.ย.นี้ ก่อนที่จะพากันออกไปทำงานรับใช้สังคม และมนุษยโลกตามความมุ่งหมายของพุทธประสงค์ที่ว่า "เธอทั้งหลาย จงเที่ยวไป เพื่อเกื้อกูน เพื่อความสุข และเพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก"


 :49: :49: :49: :49:

"วันนี้พาวิศวกรสันติภาพที่ได้อยู่ร่วมกันและใช้ชีวิตในการศึกษาและพัฒนาตนเอง ปัจฉิมนิเทศนั้นมีการสวดมนต์เพื่อสันติภาพ การภาวนาเพื่อสันติภาพ และการภาวนาเสวนาเพื่อสันตินั้นนิสิตเหล่านี้จะเป็นนกพิราบคาบดอกบัวที่กำลังเบ่งบานออกไปรับใช้เพื่อนมนุษย์ ทำหน้าที่สมดังความคาดหวังของสังคมสืบไป" ผู้อำนวยการหลักสูตร กล่าวและว่า

สันติศึกษาตามแนวของมหาจุฬาฯนั้น มิใช่ "สันติภาพทางเลือก" แต่เป็น "สันติภาพทางรอด" ที่มนุษยชาติจำเป็นจะต้องศึกษา เรียนรู้ เพื่อจะได้เข้าใจ ทั้งหลักการ เครื่องมือ และแนวทางในการนำไปใช้ จุดแรกเริ่มคือ การเรียนรู้ และปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงสันติภาพที่ซ่อนตัวอยู่ภายในจิตใจ (Inner Peace) เพื่อพัฒนาจิตใจให้เข้าถึงสภาวะแห่งการรู้ ตื่น และเบิกบาน ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี"



หลังจากนั้นจึงขยายพื้นที่ของความสงบที่ซ่อนอยู่ภายในออกไปแบ่งปันให้แก่เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ดังพุทธปณิธานดังกล่าว เพื่อให้เพื่อนร่วมโลกได้เข้าถึงความรู้ ตื่น และเบิกบานดังเช่นที่เราได้สัมผัส หากมุ่งหวังจะค้นหาความสุขภายในใจและตั้งใจจะหยิบยื่นความสุขให้แก่สังคม และชาวโลก โปรดมาสมัครเรียนหลักสูตรปริญญาโท สาขาสันติศึกษาวันนี้จนถึงวันที่  ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สามารถดูรายละเอียดหลักสูตรฯ และโหลดใบสมัครได้ที่ www.ps.mcu.ac.th

ด้านพระศรีคัมภีรญาณ รองอธิการบดี มจร กล่าวในการบรรยายวิชาพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพให้กับนิสันติศึกษารุ่นที่ ๒ วันที่ ๒๖ เม.ย.นี้ความว่า "หลักการสร้างสันติภาพนั้นก็คือต้องทำให้เกิดความกลมกลืนด้วยเครื่องมือต่างๆ เพราะไม่เช่นนี้แล้วก็จะเกิดความขัดแย้ง แต่เครื่องมือในการสร้างสันติภาพทั่วไปนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายน้ำหรือปลายเหตุจึงทำให้นักสันติภาพเข้าไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุตกเป็นเครื่องมือและถูกลูกหลงก็มี แต่หลักสันติภาพเชิงพุทธนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นน้ำเป็นสำคัญ"


 :25: :25: :25: :25:

คนไทยได้สัมผัสกับความขัดแย้งแบ่งฝ่ายทางการเมืองพัฒนาเป็นความรุนแรงมาสิบปีกว่า แต่ก็รู้เพียงเท่านั้น โดยไม่เสาะแสวงหาว่า สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร แล้วก็เรียกหาความปรองดอง แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องการจริงหรือไม่หรือว่ามีผลประโยขน์แอบแฝง และก็ไม่แสวงวิธีการของการแก้ปัญหาที่จริงคืออะไร และที่ทำกันอยู่ขณะนี้ใช่วิธีการที่ถูกต้องหรือไม่

สำหรับผู้เขียนเมื่อเข้ามาเรียนหลักสูตรสันติศึกษา มจร นี้แล้วทำให้หายเครียดกับความขัดแย้งโดยเฉพาะทางการเมืองที่ผ่านมา  ได้รู้ว่าความขัดแย้งคืออะไร รู้สาเหตุเป้าและวิธีการของการบริหารความขัดแย้งนั้นเป็นอย่างไร และเข้าใจว่าที่พระอัสสชิแนะนำพระสารีบุตรสมัยเป็นฆราวาสว่า "ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ" แล้วทำให้พระสารีบุตรได้ดวงตาเห็นธรรมนั้นเป็นไปได้อย่างไร


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150426/205328.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ