พิมพ์

[ธัมมะวังโส]

ขอบคุณภาพจาก goosiam.com และ travelchoicetv.ran4u.com

"นั่งคิด นอนคิด ยืนคิด เดินคิด ในเรื่องการเผยแผ่พระธรรมกรรมฐาน มาหลายปี แต่คิดอย่างไรมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำงานด้านนี้ได้ด้วยกำลังของเราคนเดียว คือ ใช้คุณธรรมเราคนเดียว เพื่อให้เกิดรูปธรรมทางสังคม นั้นดูแล้วเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ส่วนตัวรู้ดีว่า ถ้าจะทำงา่นเผยแผ่ให้ได้ กำลังตามที่ปวารณาไว้ กับครูอาจารย์ นั่นหมายถึงการที่ต้องเพิ่มศิษย์ ที่เข้าถึงคุณธรรม นึกถึงครั้งพระพุทธกาลนั้น กลุ่มเผยแผ่พระธรรมล้วนมีคุณภาพ บรรดาพระอรหันต์ 60 องค์ แบ่งกันเดินสายออกไปจาก ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน 60 สาย จึงทำให้ เชือ้สายแห่งพุทธวงศ์ มีกำลัง อยู่ถึงทุกวันนี้ แต่วันนี้ กำลังของฉันคนเดียว ในสายการเผยแผ่สนับสนุนนั้นยังไม่สามารถสร้าง บุคคลากร ที่เข้าถึงธรรมได้ อันนี้ได้ตระหนักมาก ถ้าหากไม่มี การเผยแผ่มันก็คงหมดที่ฉัน ด้วย การปิดทองหลังพระแบบนี้ ย่ิงตอนนี้ เหมือนถูกบีบเวลาให้กระชับมากขึ้น ฉันได้ ถามคำถามไปที่ ศิษย์ หลายคนในช่วงนี้ว่า หากพระอาจารย์มีอันต้องจากพวกท่านไปเร็วขึ้น พวกท่านจะสานงานต่อกันได้ไหม ? ทุกวันนี้ยังไม่มีใครตอบฉันเลย ในคำถามนี้ ในขณะที่ฉันเริ่มจะหมดแรง ความเป็นครูอาจารย์ ก็มีข้อเสี่ยงหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการลองดี มีบ่อยมาก และมากขึ้น จากคนที่ปรารถนาดี และศรัทธา ยิ่งเราเป็นพระอายุน้อย ก็ไม่ได้รับความเกรงใจ จากผู้เยี่ยมเยือน ใส่กันเต็มที่ ประเภท ชกแบบเต็มกำลังไม่มีออมกำลัง ความหมายประมาณนั้น ยิ่งทำให้กาย อัตภาพบอบช้ำมากขึ้น ถึงแม้การเผยแผ่ ที่นี่มีคนเข้ามาศึกษากันเพิ่มขึ้นแต่ ก็หาสมาชิกร่วมทางโพสต์ ข้อความธรรมได้น้อยมาก หรือ ถึงกลับแทบไม่มี ส่วนที่มีก็ยังขาดคุณภาพ จนรู้สึกว่า ความรู้ของเรานั้น ส่งต่อไปยังลูกศิษย์ไม่เพียงพอ แม้ผ่านไป 8 ปี บางท่าน ก็ 10 กว่า ปี ก็ยังไม่สามารถอธิบายเนื้อความของ ธาตุกรรมฐาน ได้ ตรงตามคำสอนเดิมเลย

     ดังนั้น ยากจะบอกว่า กำลังของฉันคนเดียว ไม่ไปไม่ได้ ถ้าหากท่านทั้งหลาย ไม่เพียรภาวนา ตามทางที่ได้บัญญัติไว้ ความเข้าใจในสังสาระ มันก็เป็นไปไม่ได้ หรือ ในอีกทางคือ การกำจัดกิเลสของท่านทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ ถ้าท่านขจัดกิเลสได้ ตามขั้นตอนกรรมฐาน นั่นแหละ ฉันก็จักอนุโมทนา แด่ท่านทั้งหลายเป็นอย่างมาก การกำจัดกิเลสิ เริ่มจากเบาไปหาหนัก เบา ก็คือ ศีล ขจัดอุปสรรคแห่งศีล ต่อมา ก็เป็น นิวรณ์ ขจัดกิเลสแห่งสมาธิ ต่อมาก็เป็น อนุสัยกิเลส อันเป็นอุปนิสัคคแห่งปัญญา


     ท่านทั้งหลาย จงก้าวเข้ามาเป็นพุทธวงศ์ และสานต่องาน ของอนุพุทธะ ให้จบพุทธันดร ด้วยกันตามสมควรแก่ฐานะ และ ธรรมการภาวนาของท่านทั้งหลาย ด้วยกัน

    เจริญธรรม / เจริญพร

   ๑๙ พ.ค. ๕๘

 "


ขอบคุณภาพจาก kunnuch.com

[PRAMOTE(aaaa)]

    ขออนุโมทนาสาธุ ครับ

          หากได้บรรลุวิปัสสนา หนไหน แล้วละก้อ

             ก็รอพบครูอาจารย์  รับคำสั่งที่นั่นครับ


                หากว่า...ณ.วันนี้  ที่ยังตามัวและยังไม่แจ้งไม่ชัด  เดี๋ยวจะกลายเป็นเอาตัวเองออกไป

           แทนที่จะเป็นธรรมกลับเป็นอวดตัวเอง  หมายถึงเอาอวิชชาไปอวด

           เต็มที่ตอนนี้ ก็แค่ พลัส ต่อเติม คุยเป็นเพื่อน   เพื่อคงอัพเดดอีเมล ว่ายังอยู่นะแค่นั้น ครับ

          อย่างอื่นที่เป็นแบบรู้จริงรู้แจ้ง ยังคงทำไม่ได้ เพราะกลัวโทษปรามาส

     ตอนนี้บอกตามตรงว่า เห็นตรงนี้มาก   เลยไม่อยากใส่อะไรที่เป็นเนื้อหาธรรม

    เพราะรู้สึกว่า มันเหมือนเดินอยู่ขอบนรก  หวังว่าครูของข้าพเจ้า คงเข้าใจและไม่อยากให้ครูน้อยใจ

      ถ้าถึงตรงนั้นเต็มที่...และขอยืนยันว่าแบบจัดเต็ม

               ขออนุโมทนาสาธุ

                 

[fasai]

คิดว่า ครูคงไมน้อยใจ หรอกคะ  แต่คงเป็นเพราะปรารภ หาผู้สืบทอด ร่วมทางมากกว่า
เท่าที่อ่านบทความ ครูที่นี่แล้ว ไม่ใช่ พระธรรมดาแล้ว นะคะ บทความแต่ละบทอ่าน วิเคราะห์ อย่างคนมีปัญญา ก็พอทราบระดับ ของครูที่นี่แล้วคะ

 แต่ที่ท่านโพสต์อย่างนี้ แสดงว่าต้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือไม่ ช่วงนี้ ดูเหมือนท่านจะรู้อายุขัยตนเอง ด้วยนะคะ

  ขอขมาด้วยเจ้าคะ ถ้าเข้าใจผิด