พิมพ์

[raponsan]

ยลโฉมกระทิง'พ่อคูณ'ดูแล แม่มะลิหาย-พบลูกทองแดง

หน.อุทยานฯเขาใหญ่ เผยข้อมูล "มะลิ" และ "ทองแดง" กระทิงป่า ที่ "หลวงพ่อคูณ" เคยเมตตาให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ภายหลังหายลึกลับ ต่อมามีผู้พบที่วังน้ำเขียว คาดเป็น "เจ้าทองแดง"

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น รับทราบจากทางเจ้าหน้าที่ว่า หลวงพ่อคูณ เป็นผู้ที่มีจิตใจรักสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ ท่านได้เมตตาให้ทางหน่วยดูแล ลูกกระทิงเพศเมียกำพร้าตัวหนึ่งเป็นอย่างดี กระทั่งผ่านไปหลายไปกระทิงตัวดังกล่าว ได้ไปอยู่รวมอยู่กับฝูงกระทิง ในป่าลึก และไม่มีใครเคยพบเห็นอีกเลย

 

สำหรับกระทิงตัวดังกล่าว มีชื่อว่า "มะลิ" เดิมมีชาวบ้าน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง ไปพบในป่าใกล้ แนวเขตอุทยานฯ ซึ่งขณะนั้นกำลังถูกหมาจิ้งจอกไล่กัด แทบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อได้ตัวมาแล้วทาง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานผากระดาษ (ขญ.2 ) บ้านเลือดไทย ต.หมูสี อ.ปากช่อง ได้นำมารักษา ก่อนเลี้ยงเอาไว้เพื่อรอปล่อยคืนสู่ป่า ขณะนั้นความทราบถึงหลวงพ่อคูณ ท่านได้เดินทางมาโดยรถตู้ จากวัดบ้านไร่ ด่านขุนทด เพื่อมาดูลูกกระทิงตัวดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีต ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ประธานกรรมการวัดบ้านไร่ และรองประธานมูลนิธิหลวงพ่อคูณ เดินทางมาด้วยกันเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2552

เมื่อหลวงพ่อคูณ เห็นก็ได้ตั้งชื่อให้ลูกกระทิงว่า "มะลิ" พร้อมมอบเงิน 14, 810 บาท เพื่อนำไปเป็นค่านมเลี้ยงดูอีกด้วย ซึ่ง นายตะวัน ศรีกานิล อดีตประธานชมรมกลุ่มรักษ์กระทิง ก็ได้ช่วยดูแล มะลิ จนเติบโตเป็นกระทิงที่เชื่องคน รู้ภาษา เดินกินหญ้าในบ้านพักเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์จนโต ซึ่งหลวงพ่อคูณ ก็ยังได้เดินทางมาดูมะลิ พร้อมนำกล้วยน้ำหว้าสดมามะลิกินด้วย

ภายหลัง "มะลิ" อายุได้ประมาณ 2 ปีเศษ ได้เริ่มหาคู่ผสมพันธุ์กับกระทิงหนุ่ม และคลอดลูกกระทิงเพศผู้ อยู่ริมชายป่าหน่วยผากระดาษ หลวงพ่อคูณทราบข่าวทางโทรศัพท์ จึงตั้งชื่อลูกกระทิงตัวดังกล่าวว่า "ทองแดง" ต่อมาทองแดงโตเป็นหนุ่มได้หายตัวเข้าป่าไม่กลับมาที่หน่วย และส่วนแม่มะลิ ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ไปตั้งปลายปี 2556 และไม่กลับมาที่หน่วยอีกจนถึงปัจจุบัน แม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะออกติดตามแต่ก็ยังไม่พบ มีเพียงการอ้างลอย ๆ ว่า มะลิ ติดฝูงกระทิงป่าอยู่ที่เขาแผงม้า บางกระแสบอก มะลิ ถูกอุ้มหายไปเพราะเป็นกระทิงที่เชื่องมาก

ด้าน นายชูเกียรติ ราชสิทธิ์ นายกสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ กล่าวถึง หลวงพ่อคูณ กับการเป็นผู้ให้ของหลวงพ่อคูณ ว่าหลวงพ่อเป็นผู้ให้มาโดยตลอด ทั้งการบริจาคให้หน่วยงานทางราชการ องค์กรต่าง ๆ แม้แต่การสร้างอาคารสำนักงานตำรวจทางหลวง ปากช่อง ก็ได้รับทุนทรัพย์จากหลวงพ่อคูณจัดสร้าง รวมทั้งยังเป็นผู้ที่มีเมตตาต่อคนและสัตว์ป่ามาโดยตลอด นี้คือความผูกพันของหลวงพ่อคูณกับสัตว์ป่าเขาใหญ่ ซึ่งทุกคนจะจดจำเอาไว้ตราบนานเท่านาน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสถิตย์ชัย งดกลาง อายุ 25 ปี ชาวบ้าน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาว่า "เจ้าทองแดง" น่าจะยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากล่าสุด ได้พบเห็นเจ้าทองแดงด้วยตาของตัวเอง อยู่ในเขตพื้นที่บ้านคลองทราย หมู่ที่ 8 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของ วันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยช่วงนั้น ตนขับรถทำงานในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นประจำ และได้ขับรถผ่านจุดที่เป็นถนนผ่านคลองน้ำ ที่มีฝายน้ำขนาดเล็กห่างจากถนนสายปากช่อง-วังน้ำเขียว ประมาณ 400 เมตร จังหวะนั้น ตนได้เห็นกระทิงตัวใหญ่ มีลักษณะเชื่อง ไม่เหมือนกระทิงตัวอื่น ๆ ที่พอเจอคนแล้วจะวิ่งหนีในทันที จึงได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บไว้ เบื้องต้นรู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ที่มีกระทิงลักษณะดังกล่าวอยู่ในพื้นที่

 

ภายหลังตนได้สอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง จึงได้ข้อมูลว่า กระทิงตัวดังกล่าว มีชื่อว่า "เจ้าทองแดง" เป็นลูกของ "แม่มะลิ" กระทิงที่หลวงพ่อคูณให้การอุปการะ โดยมีลักษณะพิเศษกว่าตัวอื่น คือเจอคนแล้วจะไม่วิ่งหนี ด้วยความเชื่องเพราะเคยอยู่กับคนมาก่อน ทั้งนี้ตนมีความศรัทธาในตัวหลวงพ่อคูณเป็นอย่างมาก มีเหรียญหลวงพ่อคูณอยู่หลายรุ่น หลังจากทราบข่าว หลวงพ่อละสังขาร ตนก็ติดตามอ่านข่าวของหลวงพ่อมาโดยตลอด กระทั่งในวันนี้ มาพบเห็นข่าวใน "เดลินิวส์ ออนไลน์" ระบุว่า กระทิงของหลวงพ่อหายไป จึงรีบแจ้งเบาะแส ในทันที

"ขอยืนยันว่าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา เห็นเจ้าทองแดงอยู่จริง ๆ อยากให้ประชาชนทราบว่า เจ้าทองแดง น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ถูกฆ่าตาย หรือ อุ้มหาย เจ้าหน้าที่น่าจะติดตามรอยได้ไม่ยาก ส่วนกระทิง แม่มะลิ นั้น ชาวบ้านบอกว่าไม่มีใครเห็น น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร...คงไม่ทราบได้ แต่เจ้าทองแดง นี้ ยืนยันว่า น่าจะมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน" นายสถิตย์ชัย กล่าว..

ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/regional/321805