พิมพ์

[raponsan]

เจ้าคณะตำบล ยัน 'หลวงพ่อนุช' เหมาะสมรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่

เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน โต้กระแสค้านรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ แจง ยังไม่มีใครร้องเรียน ชี้ "พระปลัดนุช" เหมาะสมกับตำแหน่งแล้ว ด้านกรรมการวัดบ้านไร่สงสัยใครปล่อยข่าวคัดค้านหวังผลประโยชน์อะไร...

จากกรณีที่มีกระแสคัดค้านออกมาจากลูกศิษย์หลวงพ่อคูณบางส่วนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรีบแต่งตั้งพระครูภาวนาประชานารถ (หลวงพ่อนุช) หรือชื่อเดิม พระครูปลัดนุช รัตนวิชไชโย รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ หลังจากมีการมอบตราเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 58 ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน เปิดเผยว่า ตนยังไม่ทราบว่ามีใครคัดค้าน น่าจะเป็นเพียงข่าวลือมากกว่า เพราะยังไม่เห็นมีใครเข้ามาร้องเรียน แต่ตนปฏิบัติกิจตามอำนาจหน้าที่ และตามเสียงของคณะกรรมการ คณะสงฆ์ และชาวบ้านส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ ภายในวัดบ้านไร่ในช่วงนี้ ส่วนตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้น อยู่ที่อำนาจของท่านเจ้าคณะอำเภอ หรือคณะสงฆ์ ซึ่งเกินอำนาจหน้าที่ของตน แต่เบื้องต้นนี้จะต้องมีผู้นำของวัดบ้านไร่ในการดำเนินการต่างๆ ไปก่อน

เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน เปิดเผยต่อว่า พระภาวนาประชานารถ หรือ พระปลัดนุช รูปนี้ ท่านเป็นพระนักพัฒนาเหมือนหลวงพ่อคูณ โดยเฉพาะเป็นผู้ที่ร่วมสร้างวัดบ้านไร่กับหลวงพ่อคูณมาตั้งแต่ต้น แต่เพื่อความสะดวกแก่การประสานงานต่างๆ ระหว่างการสร้างวัดนั้น ท่านจึงได้ลาสิกขาบทไประยะหนึ่งและเมื่อสร้างศาสนสถานต่างๆ ในวัดบ้านไร่ โดยเฉพาะอุโบสถ 2 ชั้นนั้น ท่านจึงกลับมาอุปสมบทใหม่อีกรอบ และอยู่ช่วยงานหลวงพ่อคูณเหมือนกับเป็นเลขาฯ ประจำตัวอีกหลายพรรษา ก่อนจะย้ายไปจำพรรษาที่วัดหนองบัวทุ่ง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา และสร้างวัดจนมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำทองคำ ที่เคยเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ต่อมาได้ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาวิหารหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จนปัจจุบัน

 

ด้านนายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนัน ต.กุดพิมาน กรรมการวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนคัดค้าน แต่งสงสัยว่าคัดค้านเพราะอะไร เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ หรือกลัวเสียอำนาจตนไม่ทราบจริงๆ ส่วนเรื่องทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ ในส่วนที่เป็นของใช้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบาตร จีวร หรืออื่นๆ แม้กระทั่งน้ำปัสสาวะ น้ำล้างเท้าหลวงพ่อคูณ ครั้งสุดท้าย ตนได้นำมาจัดตั้งไว้ในห้องกระจกปลอดเชื้อ จุดที่หลวงพ่อนั่งต้อนรับญาติโยมทั้งหมด เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ชม หรือกราบไหว้บูชา ยังไม่มีใครมายื้อแย่งไปเป็นของตัวเองแต่อย่างใด

ขณะที่ นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ตนยึดคำสอนของหลวงพ่อ ให้ปล่อยวาง อย่ายึดติดใดๆ แม้แต่ท่านเองสอนให้ทุกคนเห็นว่า มีอะไรให้เขาไปให้หมด ร่างกายของท่านยังไม่ให้เก็บ แม้แต่อังคารยังให้ไปลอยแม่น้ำโขง ตนไม่รู้ว่าจะยื้อแย่งยึดติดกันไปทำไม ขณะที่คนยังแห่ไปเช่าวัตถุมงคลบนศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ตลอดเวลา เพื่อนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลแก่ตนองและครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด ได้เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน ประชุมที่วัดบ้านไร่ เวลา 14.00 น.วันนี้

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/499545

[raponsan]

มีมติแต่งตั้ง "พระครูปลัดนุช รัตนวิชไชโย" ขึ้นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่

คณะสงฆ์ อ.ด่านขุนทด เสนอตั้ง “หลวงพ่อนุช” อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ขึ้นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ขณะที่ศิษยานุศิษย์ยังหลั่งไหลมากราบหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณอย่างเนืองแน่น

 (17 พ.ค. 58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพแล้ว ทางคณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด นำโดยพระครูปราโมทย์ธรรมรส รองเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ก็ได้เรียกประชุมคณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 และที่ประชุมมีมติเสนอแต่งตั้งให้ พระครูภาวนาประชานารถ (หลวงพ่อนุช) หรือชื่อเดิม พระครูปลัดนุช รัตนวิชไชโย เจ้าอาวาสวัดหนองบัวทุ่ง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา อดีตเลขานุการหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขึ้นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เพื่อบริหารจัดการวัดตามระเบียบของคณะสงฆ์ต่อไป

สำหรับการบริหารจัดการงบประมาณของวัดบ้านไร่นั้นปัจจุบันมีบัญชีแยกออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

1.เงินงบประมาณของมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานมูลนิธิฯ โดยตำแหน่ง มีนายอำเภอด่านขุนทด เป็นเลขาธิการมูลนิธิฯ และนางปทุม กุลกำจร เป็นเหรัญญิกฯ ปัจจุบันมีเงินกองทุนอยู่ ประมาณ 47 ล้านบาท และคณะกรรมการมูลนิธิได้นำดอกผล มาใช้บริหารจัดการภายในวัดบ้านไร่ และบริจาคเพื่อสาธารณกุศล

2.เงินที่ประชาชนมาบริจาคให้เป็นการส่วนตัวของหลวงพ่อคูณ และ

3.เงินบริจาคในบัญชีของวัดบ้านไร่ ที่มี พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ประธานคณะกรรมการฯ และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ โดยมีนายธวัช เรืองหร่าย เป็นเหรัญญิก บริหารจัดการอยู่ แต่ทั้ง 2 บัญชีท้าย ยังไม่ทราบจำนวนเงินที่แน่ชัด

ส่วนบรรยากาศที่วัดบ้านไร่ วันนี้ได้มีศิษยานุศิษย์ จากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมากราบไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ตั้งอยู่หน้ากุฏิ บนศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ซึ่งหลายคนก็ได้ใช้โอกาสนี้เข้ามาเลือกเช่าวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณรุ่นต่างๆ จนแน่นศาลาการเปรียญ นอกจากนี้ศิษยานุศิษย์ ยังได้แห่เข้าชมพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่มีการจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าประวัติ และหลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งยังได้เข้าไปเยี่ยมชมวิหารเทพวิทยาคม ซึ่งเป็นศาสนสถานศิลปกรรมธรรมะร่วมสมัยอีกด้วย

ขณะที่ในเวลา 19.00 น.ที่วัดบ้านไร่ จะมีพิธีสวดอุทิศถวายหลวงพ่อคูณ ที่ศาลาการเปรียญ โดยการนำของคณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด และ นายธวัชชัย  แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน ซึ่งในพิธีดังกล่าวจะมีการนำเตียงนอน และเครื่องอัฐบริขารในวันสุดท้ายของหลวงพ่อคูณฯมาประกอบพิธี เพื่อให้ญาติพี่น้องของหลวงพ่อคูณ ศิษยานุศิษย์ และชาว อ.ด่านขุนทด ได้สักการะด้วย โดยกำหนดสวดอุทิศถวายเป็นระยะเวลา 100 วัน

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431856057