ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระเถระเฉลยข้อสงสัย มหาทานของ ′หลวงพ่อคูณ′  (อ่าน 990 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระเถระเฉลยข้อสงสัย มหาทานของ′หลวงพ่อคูณ′

พระเทพวิทยาคม หรือ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ" เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ละสังขารไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

หลวงพ่อคูณยังได้ทำพินัยกรรม มอบศพให้แก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มข. และเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าให้จัดงานแบบเรียบง่าย เช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ นับเป็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวงที่หลวงพ่อคูณได้ฝากไว้ในยามที่ต้องละสังขาร ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่พุทธศาสนิกชนไทยจำนวนมากไปบริจาคร่างกายเพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มข.

การบริจาคสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณเพื่ออุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่นั้น แม้มีผู้ที่เห็นด้วยค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีข้อสงสัยจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย "พระราชวิมลโมลี" (ดำรง ทิฏฺฐธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดพายัพ จ.นครราชสีมา ให้ทรรศนะในทางธรรมว่า หลายคนสงสัยว่าที่หลวงพ่อคูณบริจาคร่างกายเพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ เหมาะสมหรือไม่ และถูกหรือผิด


 :25: :25: :25: :25:

อาตมามองว่าหลวงพ่อคูณท่านบำเพ็ญทานระดับอุปบารมี ซึ่งหมายถึงการให้เลือด เนื้อ อวัยวะในร่างกายตนนั่นเอง หลวงพ่อคูณท่านเป็นพระผู้ให้ เมื่อมีผู้มาขอ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ท่านก็ยินดีให้โดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาหลอก และท่านเป็นพระเกจิที่ไม่สั่งสมทรัพย์ ได้ปัจจัยมาเท่าไหร่ก็บริจาคหมด ส่วนที่หลวงพ่อคูณมีหนี้สินมาก เพราะเป็นหนี้ที่ท่านรับปากไว้กับผู้มาขอ ท่านให้ลงบัญชีเอาไว้ เมื่อมีปัจจัยก็ทยอยให้ไปตามคิวนั่นเอง

หลวงพ่อคูณทำให้เห็นเป็นแบบอย่างในการบำเพ็ญทาน และท่านอยากเห็นลูกศิษย์เจริญรอยตามในการเป็นผู้ให้ ส่วนการที่ท่านบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะท่านคิดว่าร่างกายของท่านยังเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ดีกว่าปล่อยให้มันเน่าเปื่อยไป ท่านจึงบริจาคให้กับทาง มข.เพื่อนำไปศึกษา


 st12 st12 st12 st12 st12

"อีกประเด็นหนึ่ง ถ้าท่านไม่ได้บริจาคร่างกาย อาจเกิดศึกแย่งชิงสรีระสังขารท่าน ในกลุ่มลูกศิษย์และกลุ่มประชาชน ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายตามมา หลวงพ่อท่านมองการณ์ไกล ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงระบุไว้ในพินัยกรรมอย่างชัดเจนว่า เมื่อมรณภาพแล้วให้นำสรีระสังขารมอบให้ มข.ภายใน 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าสรีระสังขารของท่านเป็นสมบัติของ มข.แล้ว เมื่อครบ 3 ปีให้นำไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น และนำเถ้ากระดูกลอยอังคารที่แม่น้ำโขง เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงใดๆ หรือเกิดการอุปโลกน์ว่ากระดูกของท่านกลายเป็นพระธาตุ"

"หลวงพ่อคูณท่านไม่ต้องการเช่นนั้น ท่านต้องการให้ทุกอย่างสงบ นี่เป็นเรื่องที่หลวงพ่อคูณวิเคราะห์ไว้เสร็จสรรพแล้วว่าเมื่อท่านมรณภาพจะเกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง ส่วนที่ประชาชนกังขาและลูกศิษย์หลายคนไม่อยากให้นำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปเชือดเฉือน หรือทำการใดๆ นั้น อาตมาอยากทำความเข้าใจกับญาติโยมว่าหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว และแพทย์นำสรีระสังขารไปศึกษาตามความประสงค์ของท่าน" พระราชวิมลโมลีกล่าว


 st11 st11 st11 st11

พระเทพเมธี (สมเกียรติ โกวิโท) เจ้าคณะภาค 9 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ กล่าวว่า การบริจาคสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ เป็นเรื่องที่ประชาชนและพระสงฆ์ตื่นตัวมาก หลังจากหลวงพ่อคูณได้ละสังขารแล้ว ท่านยังสร้างทานบารมีโดยการบริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษา ในมุมมองของคณะสงฆ์มองว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้ชาติและศาสนา

ผู้ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อคูณจะทราบดีในเรื่องคำสอนของหลวงพ่อคูณว่า "ให้รู้จักให้ ให้รู้จักพอ" ซึ่งท่านทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว ทั้งในเรื่องของการให้และเรื่องของความพอเพียง ทั้งนี้ คณะสงฆ์ไม่มีใครตำหนิในเจตนารมณ์อันดีงามของหลวงพ่อคูณ เพราะพระในนิกายมหายาน เมื่อมรณภาพแล้ว ได้เสียสละร่างให้เป็นอาหารของสัตว์เดรัจฉาน เปรียบเป็นการอุทิศร่างกายให้เป็นประโยชน์เช่นกัน เพราะเหตุนี้จึงทำให้ลูกศิษย์ของท่านหลายคนตัดสินใจบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ตามหลวงพ่อคูณ

"ในเรื่องภพชาติ บางคนอาจมีความเชื่อที่ผิดว่าการเสียสละร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ หรือบริจาคอวัยวะในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อตายไปแล้วจะเกิดเป็นคนพิการ ซึ่งตามหลักของพระพุทธศาสนา การไปเกิดในภพชาติใหม่ จิตเป็นตัวปรุงแต่งทั้งหมด ไม่ใช่ร่างกายเป็นตัวปรุงแต่ง ดังนั้น การที่หลวงพ่อคูณบริจาคร่างกายของท่านให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นการสร้างมหาทานอันยิ่งใหญ่ เมื่อท่านปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ การสร้างทานบารมีเช่นนี้จะทำให้ท่านถึงฝั่งพระนิพพาน" พระเทพเมธีกล่าว


 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลวงพ่อคูณ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่และเป็นพระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งของศาสนาพุทธในประเทศไทย เป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตากรุณาต่อประชาชนทุกผู้ทุกนาม โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ และท่านยังได้สร้างสาธารณประโยชน์มากมาย ท่านเป็นพระผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่สรีระสังขารของท่าน นับว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พระสงฆ์ของประเทศไทย

"พระธรรมโมลี" (ดร.พระมหาทองอยู่ ญาณวิสโธ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย พระอารามหลวง ต.ในเมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า อาตมาก็เคยเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคูณ เคยไปศึกษาเล่าเรียนกับท่านมาระยะหนึ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่พูดจริง ทำจริง เห็นมาอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น ไม่มีการชักแม่น้ำทั้ง 5 มาขยายความให้มากเรื่อง คำพูดคำสั่งสอนของท่านใช้ภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหง ไม่ถือยศถือตัว มีความจริงใจกับทุกคนที่เข้ามาหา ท่านสร้างบุญบารมีไว้เยอะมาก มีพระสงฆ์รูปไหนในประเทศไทย ที่ทำได้อย่างท่านบ้าง ถือว่ายิ่งใหญ่มาก

"ร่างกายของท่านนี้ เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นบุญบารมีที่คนรุ่นหลังจะได้สำนึกในสิ่งที่ท่านได้ทำไว้ ท่านสอนทุกคนให้เป็นคนเสียสละ จะสละมากสละน้อยก็เป็นไปตามกำลังศรัทธาที่มี ทำให้พุทธศาสนิกชนมีแต่ความชื่นชม ยกย่อง และศรัทธาในตัวท่านโดยเสมอมา"


 ans1 ans1 ans1 ans1

พระมหาคาวี ญาณสาโร เจ้าอาวาสวัดสะพานคำ ต.ธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร กล่าวว่า ในการบริจาคร่างกาย ท่านจะเน้นปัญญาความรู้ อยากให้นักศึกษาแพทย์ได้ความรู้ ซึ่งเมื่อก่อนการบริจาคร่างกายอวัยวะต่างๆ น้อยมาก เพราะคนไทยบางทีก็มีความเชื่อว่าถ้าบริจาคร่างกายตายไปเกิดมาในชาติหน้าร่างกายจะพิการไม่ครบสมบูรณ์ แต่แนวคิดของหลวงพ่อคูณเมื่อบริจาคร่างกายไปแล้วก็สามารถแก้คตินี้ได้ ต้องมีผู้ที่มีความเชื่อในระดับสูงพานำจนทำให้คนแห่แหนไปบริจาคในร่างกายเพื่อเป็นทานและได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่

การบริจาคร่างกายของหลวงพ่อคูณ เป็นการสร้างมหาทานอันยิ่งใหญ่ เป็นแบบอย่างและทางเลือกสำหรับผู้ปรารถนาบำเพ็ญทานให้ถึงที่สุด


ที่มา : มติชนรายวัน 24 พ.ค.2558
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432462071
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ