ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เจ๊กปนลาวในไทย : คนไทยถูกปิดกั้น "จากคนชั้นสูง" มิให้ทำการค้ามานานนับพันๆปี  (อ่าน 1119 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29435
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เจ๊กปนลาวในไทย
คอลัมน์ สยามประเทศไทย โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

เจ๊กปนลาวในไทย ไม่พอใจพฤติกรรมหลายอย่างที่น่ารังเกียจของนักท่องเที่ยวจีน ขณะเดียวกัน สังคมญี่ปุ่นก็ไม่พอใจพฤติกรรมหลายอย่างที่น่ารังเกียจของนักท่องเที่ยวเจ๊กปนลาวจากไทย

เจ๊กปนลาว มีพัฒนาการความเป็นมาเก่าแก่ตั้งแต่ยุคก่อนอยุธยา แต่มีมากสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อมีการอพยพมาไทยมากขึ้นของคนจีน ที่ไทยเรียกเจ๊ก [แขกกับเจ๊ก เป็นคำเดียวกัน มีความหมายอย่างเดียวกัน]


ask1 ask1 ans1 ans1


จีนในไทย

บรรพชนจีนในไทยยุคแรกๆ สมัยต้นรัตนโกสินทร์ คุณภาพดีก็มี และขาดคุณภาพก็ไม่น้อย นิธิ เอียวศรีวงศ์ บอกไว้ในหนังสือปากไก่และใบเรือ (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2527) ดังนี้

    "ประชากรจีนในประเทศไทยเป็นประชากรที่มีคุณภาพในแง่หนึ่ง.........แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็เป็นประชากรที่ขาดคุณภาพ กล่าวคือ เป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จในทางสังคมหรือเศรษฐกิจในประเทศจีน ไม่เป็นคนมั่งมีพอที่จะโอนทุนจากประเทศจีนมาเริ่มกิจการในประเทศไทย มีแต่แรงงานเท่านั้นที่ถูกขนย้ายมาสู่ประเทศไทย.......

     มิใช่คนที่ประสบความสำเร็จทางการศึกษา จนสามารถสอบผ่านการสอบระดับต่างๆ ของจีน จึงไม่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมอันดีเลิศของจีนเลย หากเป็นคนจีนที่ขาดการศึกษา และเขลาต่อศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของจีนเอง
     การอพยพเข้ามาของคนเหล่านี้ จึงไม่ส่งผลหรือมีอิทธิพลในด้านวัฒนธรรมชั้นสูงของจีนแก่ไทย

     ยิ่งกว่านี้ เพราะขาดความผูกพันกับสังคมไทย อย่างน้อยก็ในชั่วอายุคนแรก ต้องการแต่จะแสวงหากำไรทางวัตถุศฤงคาร จึงพร้อมจะประกอบกิจการใดๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงคุณค่าต่อสังคม เหมือนคนที่ถูกถอนรากถอนโคนจากประชาคมของตนเองทั่วไป"


 ask1 ans1 ask1 ans1


คนไทยกับการค้า

คนและรัฐในไทย มีพัฒนาการเติบโตเกี่ยวข้องการค้าอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ
    (1.) อยู่บนเส้นทางการค้าโลกระหว่างจีนกับอินเดีย
    (2.) เคลื่อนย้ายไปๆ มาๆ กับโยกย้ายผู้คนเผ่าพันธุ์ต่างๆ และทรัพยากรจากดินแดนลุ่มน้ำโขง ลงลุ่มน้ำเจ้าพระยา

    แต่ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยไม่ให้ความสำคัญ จนไม่พูดถึง 2 เรื่องนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และสถาบันที่มีการเรียนการสอนประวัติศาสตร์โบราณคดี มีแต่ผู้เชี่ยวชาญอินเดีย แต่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญจีน

    ไทย-จีน ลงนามความร่วมมือจัดทำแผนปฏิบัติการทางวัฒนธรรม พ.ศ.2558-2560 โดยมีข้อตกลงร่วมกันหลายเรื่องหลายกิจกรรม แต่ที่สำคัญๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ร้องรำทำเพลง (ไทยรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 7 เมษายน 2558 หน้า 15) ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณคดี ซึ่งเกี่ยวข้องกันมาก และจำเป็นมากต้องศึกษาเอกสารจีนโบราณ


    คนไทยถูกปิดกั้นจากคนชั้นสูงมิให้ทำการค้ามานานนับพันๆปี มีอยู่ในประวัติศาสตร์
    แต่ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (กำหนดโดยคนมีอำนาจยุคโน้น) ไม่พูดถึงข้อด้อย เลยไม่รู้จักและไม่เข้าใจตัวเอง


     ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

    หอการค้าไทย บอกว่าภาครัฐและภาคเอกชนของไทยจำเป็นอย่างยิ่งต้องร่วมกันสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อขับเคลื่อนไทยไปสู่การเป็นผู้นำ แล้วพัฒนาไปสู่การเป็นชาติแห่งการค้าในอาเซียน และพัฒนาธุรกิจบริการของไทยไปสู่ระดับโลก ถ้ายังไม่ทำวันนี้ ในอนาคตไทยจะแข่งขันไม่ได้ (ไทยรัฐ ฉบับวันพุธที่ 1 เมษายน 2558 หน้า 9)

     หอการค้าไทยคงเหนื่อยไม่น้อย หรืออาจเหนื่อยเปล่าที่หมายจะให้ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนขับเคลื่อนให้ไทยเป็นชาติแห่งการค้าอาเซียน


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432530709
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ