พิมพ์

[raponsan]

พบพระพุทธรูป-เทวรูปศิลปะขอมเก่าแก่

ชาวบ้านฮือฮาพบพระพุทธรูปเก่าแก่ลักษณะพุทธศิลป์ แบบขอมลพบุรี สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อายุเก่าแก่กว่าแปดร้อยปี จุดที่ขุดพบเคยเป็นโบราณสถานเก่าแก่ เร่งประสานกรมศิลป์ตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนางสุภาภรณ์ แน่นอุดร อายุ 22 ปี ชาว จ.มหาสารคามว่า ขณะออกไปดายหญ้าในไร่มันสำปะหลังได้ขุดพบพระพุทธรูปปางนาคปรก เนื้อสัมฤทธิ์ รวม 4 องค์ คาดว่าน่าจะมีอายุหลายร้อยปี หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่กระท่อมชั้นเดียว ยกพื้นสูง ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทุ่งนา บ้านหัวนาไทย หมู่ 4 ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม พบชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้พระพุทธรูป 4 องค์ที่เจ้าของบ้านอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในถาด พร้อมกับจัดดอกไม้ธูปเทียนสักการะบูชา จากการตรวจสอบพบเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะแบบขอม เนื้อสัมฤทธิ์ทั้ง 3 องค์ อยู่ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ 2 องค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 2 นิ้ว และ 2 นิ้วเศษ สูง 6-7 นิ้ว ส่วนอีก 1 องค์เป็นเทวรูป ในอิริยาบถยืน สูง 3 นิ้ว

นางสุภาภรณ์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำนาทำไร่ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมาออกไปดายหญ้าในไร่มันสำปะหลังพร้อมสามี ห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร ขณะที่ใช้เสียมดายหญ้าบริเวณคูดินที่ยกร่องขึ้นปรากฏว่า พบวัตถุรูปทรงประหลาดมีดินพอกติดแน่นรวม 4 ชิ้น โผล่จากพื้นดินขึ้นมาเล็กน้อยจึงนำกลับมาที่บ้าน จากนั้นใช้น้ำล้างทำความสะอาดพบว่าเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกโบราณ 3 องค์ และเทวรูปยืนอีก 1 องค์ จึงอัญเชิญประดิษฐานไว้ในที่อันเหมาะสม ก่อนที่จะพบพระพุทธรูปและเทวรูปทั้ง 4 องค์ ตนฝันเห็นพระพุทธรูปจำนวนมากติดต่อกันถึง 3 คืน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร หลังข่าวแพร่กระจายออกไปก็มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลเดินทางมาขอชมพร้อมสักการะบูชา ที่ผ่านมากรมศิลป์ยังไม่ได้เข้ามาตรวจสอบ มีเพียงหน่วยราชการบางหน่วยในจังหวัดเท่านั้นที่มาขอดู

ชาวบ้านที่มาสักการะบูชาพระพุทธรูปโบราณรายหนึ่งเล่าว่า บริเวณที่ขุดพบพระพุทธรูปทั้ง 4 องค์ เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของป่าโคกหัวซา เนื้อที่นับร้อยไร่ ปัจจุบันถูกชาวบ้านบุกรุกเข้าถือครองทำนา ทำไร่ สภาพป่าโคกหัวซา ปัจจุบันจึงเหลือไม่เกิน 4-5 ไร่ ป่าโคกแห่งนี้เคยเป็นวัดเก่าแก่อายุเกือบร้อยปี และภายในบริเวณป่าดังกล่าวเคยพบเศษซากศิลาแลง คาดว่าจะเป็นเทวสถานสมัยขอมอยู่กระจัดกระจาย แต่เมื่อหลายปี่ที่ผ่านมา มีการขนศิลาแลงในป่าแห่งนี้ไปใช้ประโยชน์ก่อสร้างฝายน้ำล้นปัจจุบันจึงไม่มีเหลืออีกต่อไป

ผศ.สมชาย นิลอาธิ อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยศิลปและวัฒนธรรมอีสานมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้ความเห็นว่า บริเวณแถบนี้มักจะพบร่องรอยศิลปะโบราณวัตถุสมัยลพบุรี หรือสมัยขอม อาทิ พวกกู่ที่สร้างด้วยศิลาแลง รวมทั้งรูปเคารพสำหรับพระพุทธรูปที่ขุดพบดูจากพุทธศิลปะ น่าจะอยู่ในยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่แผ่พระราชอำนาจเข้ามาในบริเวณนี้ ซึ่งปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมากอายุน่าจะอยู่ประมาณ 800 ปี.

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/326868