ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปุจฉา..จะปฏิรูป พระพุทธศาสนาอย่างไร.?  (อ่าน 1128 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29485
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ปุจฉา..จะปฏิรูป พระพุทธศาสนาอย่างไร.?
« เมื่อ: มิถุนายน 18, 2015, 09:18:49 pm »
0


ปุจฉา..จะปฏิรูป พระพุทธศาสนาอย่างไร.?
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

วิสัชนา : เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา... ด้วยพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา เกิดจากพระปัญญาที่ตรัสรู้ชอบ มิได้สำเร็จด้วยความนึกคิด ซึ่งเป็นเรื่องประณีตละเอียดอ่อนต่อการเข้าไปพิจารณา แม้แต่ในหมู่พระอรหันตสาวกที่มีความเป็น เอตทัคคะ ...จึงไม่แปลกที่พระอรหันตสาวก ๕๐๐ รูป ซึ่งมีพระมหากัสสปเถรเจ้า พระอุบาลี และพระอานนทเถรเจ้า เป็นต้น ได้มีมติเห็นพ้องต้องกันว่า

“เราจักไม่บัญญัติ สิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้ทรงบัญญัติ เราจักไม่เพิกถอน สิ่งที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว เราทั้งหลาย จักสมาทานศึกษาสำเหนียกในสิกขาบททั้งหลาย ตามที่ทรงบัญญัติไว้...”

จึงเป็นที่มาของมติเถรวาทในการกระทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรก ณ ถ้ำสัตตบรรณคูหา ภูเขาเวภาระ แห่งพระนครราชคฤห์ ...ทั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความเคารพในพระธรรมวินัยดุจดังพระบรมศาสดา สมดังพระพุทธประสงค์ที่ให้ พระธรรมวินัยที่บัญญัติไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาของพุทธบริษัทแทนพระองค์ เมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานธาตุไปแล้ว... และนั่นคือ การแสดงออกถึงการถวายความเคารพในพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างสูงสุด

รากฐานของพระพุทธศาสนาจึงเข้มแข็ง มั่นคง ด้วยกำลังความศรัทธาอันตั้งมั่นในพระธรรมวินัยของเหล่าพุทธบริษัท โดยเฉพาะการน้อมรับปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ด้วยเข้าใจในความสำคัญว่า พระวินัยนี้คือ รากแก้วของพระศาสนา...


 :25: :25: :25: :25:

แม้ว่าการประกาศสืบอายุพระพุทธศาสนาจะดำเนินมาอย่างมีระเบียบแบบแผนตามอริยประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา แต่เมื่อมีปุถุชนคนหยาบไร้วาสนาเข้ามาสู่พระพุทธศาสนานี้ โดยไร้อุดมการณ์ธรรมมากขึ้นมีแต่การสร้าง อุดมการกิน มุ่งแสวงหาโลกธรรม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข สุดท้ายจึงทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง องค์กรพระพุทธศาสนาคือสถาบันสงฆ์สั่นคลอน ไร้คุณธรรม จึงนำไปสู่การสังคายนาในครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ ในมคธชนบท ชมพูทวีป ดังปรากฏข้ออธิกรณ์หรือเหตุที่นำไปสู่การสังคายนา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องกินอยู่หลับนอนเกลือกกลั้วกามคุณ มุ่งแสวงหาลาภอันมิควร เช่น เงินทองของมีค่า รถราม้าช้าง เรือกสวนไร่นา ฯลฯ อันเป็นวิสัยของปุถุชน...

พระธรรมวินัยหรือพุทธมติดั้งเดิมได้ถูกบิดเบือนให้ลบเลือนไปหลายส่วน ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาตามประสาจิตปุถุชนที่ห่อหุ้มด้วยกิเลส อธรรมวาที-อวินัยวาที เจริญขึ้นในศาสนจักร ธรรมวาที-วินัยวาทีกลับเสื่อมโทรมลง ดังปรากฏชัดเจนในพฤติกรรมที่องค์กรพระพุทธศาสนาเริ่มเดินสวนทางกับ


 st12 st12 st12 st12

พระธรรมวินัย... มีการตีความเข้าข้างตนเองและพรรคพวก เพื่อหาความชอบธรรมตามความชอบของพวกกู ...การถือปฏิบัติผิดเกิดขึ้นเป็นอาจิณณกรรม โดยเฉพาะการรับเงินทอง สั่งสมของมีค่า ขบฉันใช้สอยปัจจัยสี่ไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ฯลฯ ทั้งนี้ ยังไม่ต้องกล่าวถึง การท่องเที่ยวไปในที่อันไม่เหมาะควรแก่เพศสมณะ และความไร้มารยาท ไม่มีระเบียบแบบแผนของความเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังพุทธปรินิพพาน ๑๐๐ ปี ที่นำไปสู่การสังคายนาครั้งที่ ๒ ณ พระนครเวสาลี (วาลุการามมหาวิหาร)...

ดังที่เราได้เห็นมีความคิดอ่านบ้าๆ บอๆ ของบรรดาผู้อ้างตนเป็นบริษัทในองค์กรพระพุทธศาสนา ที่พยายามขยายความคิดและพฤติกรรมเข้าครอบคลุมปกปิดพระธรรมวินัย โดยเฉพาะการตั้งองค์กรศาสนาขึ้นมาปกครองศาสนจักร แต่ขาดความเคารพพระธรรมวินัยที่เป็นองค์แทนศาสดา...


 ans1 ans1 ans1 ans1

ดังนั้น พระธรรมวินัย จึงไม่เสื่อมสูญไปไหนในทุกกาลสมัย ทั้งนี้ด้วยการมีผู้ถือประพฤติปฏิบัติถูกต้องตรงตามธรรม สมควรแก่ธรรม… แต่องค์กรพระศาสนานั้นย่อมเกิด-ดับชำรุดทรุดโทรมไปได้ตามเหตุปัจจัย โดยเฉพาะหากละทิ้ง พระธรรมวินัย ที่เป็นตัวพระพุทธศาสนาที่แท้จริง

จึงควรแยกให้ออกระหว่างองค์กรหรือสถาบันพระศาสนากับพระพุทธศาสนาหรือพระธรรมวินัย ว่าเป็นคนละเรื่องกัน อย่าได้นำมาปะปน จนล่วงเกินไปปฏิรูปพระธรรมวินัย เดี๋ยวนรกจะกินกบาลเอา...


เจริญพร


ขอบคุณบทความจาก
www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/370710/ปุจฉา-จะปฏิรูป-พระพุทธศาสนาอย่างไร-
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ