พิมพ์

[raponsan]

ไวรัสเมอร์สมาแล้ว เข้าไทย! สั่งเฝ้าระวัง 59 คน (ชมคลิป)

ชาวโอมานวัย75-จับตาจนท.รพ. ญาติ-ผู้โดยสารในเครื่อง-แท็กซี่ บิ๊กตู่ขออย่าตื่นตกใจให้ตามข่าว

พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สในไทยรายแรก เป็นชายชาวโอมานวัย 75 ปี หลุดรอดเข้าไทยมารักษาโรคประจำตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่มีการตรวจพบเชื้อและถูกนำตัวไปรักษาดูอาการที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุขติดตามตัวผู้สัมผัสโรค พบมี 59 ราย นายกฯขอ ปชช.อย่าตื่นตกใจ แนะให้ติดตามคำเตือนทุกระยะ

แม้กระทรวงสาธารณสุขจะวางแผนเตรียมรับมือหาวิธีป้องกันโรคเมอร์ส-โควี ที่ระบาดในเกาหลีใต้และตะวันออกกลาง อย่างหนัก โดยมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจสอบผู้เดินทางเข้ามาในไทยว่ามีติดไวรัสดังกล่าวมาด้วยหรือไม่ แต่ก็ยังปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อดังกล่าวหลุดรอดเดินทางเข้าประเทศไทยมาได้ เป็นชายชาวโอมานวัย 75 ปี

 

ทั้งนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 มิ.ย. นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เปิดแถลงข่าวถึงการพบผู้ป่วยชาวต่างชาติเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส รายแรกในประเทศไทย ว่า จากการคัดกรองผู้ป่วย ล่าสุดรับผู้ป่วยชายชาวโอมาน อายุ 75 ปี เข้ารับรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันเดียวกันนี้ โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวเดินทางมาจากตะวันออกกลาง ถึงไทยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ตั้งใจเข้ามารักษาโรคหัวใจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ระหว่างอยู่บนเครื่องบินไม่มีอาการใดๆ แต่เมื่อมาถึงไทย ชายดังกล่าวมีอาการ เหนื่อยหอบ มีไข้ ไอ จากมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวด ทำให้โรงพยาบาลเอกชน เก็บเชื้อของชายดังกล่าวส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบว่า พบเชื้อโรคเมอร์ส โรงพยาบาลเอกชนที่รับตัวไว้ จึงส่งผู้ป่วยมารักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยยังคงทรงตัว ส่วนญาติผู้ป่วยที่เดินทางมาพร้อมกันอีก 3 ราย

 

ขณะนี้ได้เข้ามาตรการเฝ้าระวัง และอยู่ในห้องกักตัวของสถาบันบำราศนราดูร นพ.รัชตะกล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการเฝ้าระวังโรค จะมีการติดตามผู้สัมผัสโรคเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้พบว่ามีทั้งสิ้น 59 ราย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ
    1.ญาติผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเอกชน
    2.ผู้ที่เดินทางมาร่วมกันบนเครื่องบินสองแถวหน้า สองแถวหลัง
    3.เจ้าหน้าที่ในโรงแรม และ
    4.ผู้ขับรถแท็กซี่
ทั้งนี้ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะเมื่อมีอาการผู้ป่วยก็เดินทางไปโรงพยาบาลทันที ในกลุ่มนี้มีทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และความเสี่ยงต่ำ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำจะให้เฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน 14 วัน โดยให้อยู่แต่ภายในบ้าน ส่วนผู้เสี่ยงสูงจะให้เฝ้าระวังอยู่ที่โรงพยาบาล คือ ญาติ ผู้ที่อยู่ในเครื่องบินสองแถวหน้าและหลัง ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ผู้ป่วยรายดังกล่าวถือเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ การพบโรคในครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีการสัมผัสกับคนจำนวนมาก

 

นพ.ธนะรักษ์ ผลิพัฒน์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สามารถติดตามผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยได้เกือบทั้งหมดแล้ว ในวันที่ 19 มิ.ย. จะมีการสอบสวนโรคเพิ่มเติมเพื่อหาว่ายังมีผู้สัมผัสอีกหรือไม่ ทั้งนี้จากการสอบสวนโรค ไม่พบว่าชายชาวตะวันออกกลาง มีประวัติสัมผัสสัตว์

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการตรวจพบเชื้อเมอร์สในผู้เดินทางมาจากประเทศโอมานว่า กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามขั้นตอนการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดในระดับสูงสุดตามมาตรการสากล เชื่อมั่นว่าจะควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด รักษาผู้ติดเชื้ออย่างดีที่สุด นายกรัฐมนตรีฝากเรียนพี่น้องประชาชนว่าไม่ควรตกใจกับเหตุการณ์ แต่จำเป็นต้องใส่ใจติดตามข่าวสารและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ยืนยันรัฐบาลได้ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีเผชิญเหตุ

 

วันเดียวกัน เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยได้ออกมาตรการป้องกันโรคระบาด 7 มาตรการ ประกอบด้วย การคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการลูกค้าภาคพื้น อาทิ การสังเกตอาการ ผู้โดยสารก่อนการเช็กอิน หากจำเป็นผู้โดยสารต้องมีใบรับรองแพทย์ มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ การเฝ้าระวัง สังเกตอาการของผู้โดยสารในระหว่างการเดินทาง

นอกจากนี้ยังมีมาตรการจัดเตรียมอากาศยานและฆ่าเชื้อโรค อาทิ การพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายในอากาศยานในระหว่างจอดที่สนามบิน มาตรการทำความสะอาดภายในเครื่องบิน เพิ่มการทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสภายในห้องโดยสาร มาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงาน โดยมีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลประจำเครื่องบิน การให้ความรู้ในการป้องกันสุขภาพแก่พนักงาน มาตรการด้านการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ อาทิ เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์และหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง และมาตรการด้านโภชนาการ อาทิ การคัดเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารที่สะอาดได้มาตรฐานและไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นพาหะของโรค

 

ส่วนที่เกาหลี วันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้แถลงว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเมอร์สโควี เพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 23 ราย และพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 165 ราย ซึ่งนับเป็นการระบาดของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางที่รุนแรงที่สุดรองจากซาอุดีอาระเบีย โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อมี 17 รายที่อาการยังน่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะที่นางมากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์กรอนามัยโลก (WHO) ยกย่องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ที่พยายามควบคุมการแพร่ระบาด และถือเป็นสัญญาณดีที่การติดเชื้อยังจำกัดอยู่แค่ในโรงพยาบาล ไม่แพร่กระจายสู่ชุมชน ส่วนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ เผยว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ และส่งผลแง่ลบต่อการฟื้นฟู

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รายงานด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขไทยได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อเมอร์ส-โควีรายแรกในประเทศไทย เป็นนักธุรกิจชายชาวโอมาน ไม่ระบุชื่อ วัย 75 ปี ที่เดินทางจากภูมิภาคตะวันออกกลาง มารับการรักษาอาการทางหัวใจในกรุงเทพฯ ผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้แสดงอาการเหนื่อยล้าและหายใจติดขัดหลังเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ โรงพยาบาลที่รักษาโรคหัวใจได้เคลื่อนย้ายตัวไปดูอาการที่สถาบันด้านเชื้อโรคเฉพาะทาง ใน จ.นนทบุรี พร้อมจับตาดูอาการสมาชิกครอบครัวอย่างใกล้ชิด

http://www.thairath.co.th/video/2015/06/18/52269.mp4

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/506115