ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 2335 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2015, 08:04:14 pm »
0


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

การที่เรามีสติระลึกรู้อยู่เสมอ ก็คือเรารู้สึกตัวอยู่เสมอ และนั่นก็คือ การภาวนา เหมือนเราสวดมนต์ทุกวัน ช่วงที่สวดมนต์ก็เป็นสมถะ - สมถะหมายถึง การตะล่อมจิตให้สงบ หรือการทำให้จิตจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ ซึ่งก็คือ การภาวนาเช่นกัน การรักษาศีล ก็คือการเริ่มต้นที่จะทำให้จิตเป็นสมถะอย่างหนึ่ง ถ้าจิตยังเป็นสมถะไม่ได้ก็ไม่มีทางที่จะทำให้จิตเป็นสมาธิได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร

ดังนั้น การเริ่มต้นทำสมถะจึงมีความจำเป็นมาก และสมาธิจะเกิดได้ก็ต้องฝึกจนเลยสมถะไปก่อน แต่คนเดี๋ยวนี้จะภาวนาเร็วๆ ไปวิปัสสนา ถ้าไม่เริ่มจากสมถะ จนทำให้จิตใจสงบได้ก่อน จะเอากำลังจากจิตที่ไหนไปพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ได้แต่ท่องบ่นกันไปแค่นั้น


 :96: :96: :96: :96:

เพราะการเห็นจริงแจ้ง คือ วิปัสสนา ไม่ได้มาจากการคิดเอา แต่มาจากการเห็นด้วยปัญญาจริงๆ เมื่อเห็นจริงจิตจึงปล่อยวางได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ หรือเรื่องความตาย ที่เราต้องประสบกันทุกคนอยู่แล้ว ไม่ว่าสูงต่ำดำขาว ใหญ่โตแค่ไหนก็เดินไปสู่ที่หมายปลายทางเดียวกัน ถึงตอนนั้นใครจะไปช่วยอะไรใครได้ มีแต่ตัวเจ้าของจะต้องช่วยตัวเจ้าของเองเท่านั้น

เหมือนเรามีภาระมาก แต่เราก็ไปแบกรับภาระคนอื่นมาอีกจะไหวไหม เรื่องศาสนา เรื่องจิตใจก็เหมือนกัน ถ้าเรายังควบคุมจิตใจ ควบคุมอารมณ์ของตัวเจ้าของไม่ได้ จะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

การภาวนา ไม่ต้องไปสนใจข้างนอก ทำเพื่อปรับปรุงแก้ไขตัวเราเอง โดยอาศัยสติ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ตาเห็น ก็รู้ หูฟังก็รู้ แล้วน้อมมาหาเจ้าของ ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ให้น้อมเข้ามา ให้มีสติระลึกรู้เพียงเรื่องเดียว จิตจะวิ่งไปทางไหนก็ตาม มันจะไปถนนเส้นไหนก็ตาม สุดท้ายเมื่อเรามีสติ มันก็จะวิ่งเข้ามาหาความรู้อยู่ดี เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องไปวิ่งตามความคิดที่ส่งออกไปทางตา ทางหู  ทางลิ้น หรือทางสัมผัส เย็นร้อน อ่อน แข็ง เราแค่รู้มันเฉยๆ

หากเราอยากมีความรู้ที่แท้จริง ก็ต้องมีสติ ถ้าเราวิ่งตามความคิดทุกอย่างก็เจอทุกข์ บางคนขึ้นโรงขึ้นศาลก็มี เพราะอะไร ก็เพราะระงับการส่งออกของความคิดไปทางตา หู จมูก ลิ้น ไม่ได้นี่แหละ แค่เรื่องหยาบๆ ยังละไม่ได้จะไปสู้กิเลสที่ละเอียดได้อย่างไร


 :25: :25: :25: :25:

จิตที่ส่งออกนอกนำทุกข์มาให้ ครูบาอาจารย์ท่านก็บอกไว้ ถ้าไปตามมัน คนมียศ มีตำแหน่ง บางคนเป็นถึงรัฐมนตรี ก็ยังส่งจิตไปถือเอายศ เอาตำแหน่งไปใช้ในทางที่ไม่ถูก ไปใช้ในทางเสียหาย จิตเดียวกัน สามารถนำไปใช้ในทางที่ดี และในทางที่ไม่ดีได้ สติก็เหมือนกัน อย่างโจรก็มีสติ แต่ใช้สติไปในทางที่ผิด โจรปล้นธนาคารโง่ไหม ไม่โง่แต่เขาใช้ปัญญาในทางที่ผิด มันไม่ใช่สัมมาทิฐิ หรือการกระทำที่ถูกต้อง

ฉะนั้น จะมียศฐาบรรดาศักดิ์ก็มีไป แต่ให้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม กับสังคม แล้วก็อย่าไปทุกข์ล่วงหน้าเพราะความคิด ก็เท่านั้นเอง


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150630/208886.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ