ขอพูดในภาษา ที่เข้าใจง่าย ๆ ของคนทำงาน จริง ๆ ก็แล้วกัน
ส่วนตัวนั้นเป็นแบบที่ 1 นะจึะ
แต่เรื่องนี้ มันต้องบอกว่า ชีวิตเราแขวนไว้กับงาน บริษัท ไม่มีหลักประกันว่า จะเลิกจ้างกันวันไหน ?
ชีวิตการทำงาน แบบที่ 1 นั้นบอกได้เลยว่า ถูกกดดัน ด้วย ครอบครัว เป็นส่วนใหญ่ .... คือเพื่อปากท้อง ส่วนตัวไม่ได้มีความรู้มาก บริษัทจากมาในราคา เริ่มต้น เพียง 4500 ทำงาน มา 20 ปี ได้เงินเดือน อยู่ ที่ 14000 บาท แต่ 4500 ต้องผ่อนบ้านเดือนละ 4500 เลี้ยงดู พ่อ แม่ ที่ไม่ได้ทำงาน อีก ดังนั้นเงินเดือนไม่ได้ใช้ประทังชีวิต เลย ต้องไปจ่ายให้กับธนาคารทันที ที่ เข้า คิดดูสิ ซื้อบ้านราคา 360000 สัญญาจ่ายกับธนาคารต่ำสุด 20 ปี คือ 4500 x 12 x 20 ( เงินต้น 360000 รวมดอกเบี้ย แล้ว เป็น 1080000 โหดไหม ?
ดังนั้น ชีวิตการทำงานที่หนัก เมื่อเจ้านายรู้ถึงความลำบาก ก็จำเป็นต้อง ปล่อย OT เพื่อช่วยลูกน้อง เราก็อาศัย OT นี่แหละ เป็นค่าอาหาร เลี้ยงดูตนเอง ทำงานวันละ 16 ชม. ( ดีนะที่ บริษัทเจ้านาย ช่วย แบบนี้ )
งานเยอะไหม ? ก็ต้องตอบว่า เมื่อเราต้องทำ OT แล้ว เจ้าของงานเขาก็ต้องจ่ายงานให้คุ้ม เพราะหลังจาก ชม ที่ 9 ไปแล้ว ค่าแรงจะเพิ่มเป็น 1.5 ของ เรียกว่า OT 16 ชม. แต่ถ้าเกิน 16 ชม. ไปจะเป็น 3 เท่า และถ้าเกิน 24 ชม. มันจะเป็น 3 เท่า + วันหยุด ถ้าไม่หยุดทำงานต่อ ก็จะกลายเป็น OT 1 คือ 1.5 เท่า
สูตร อย่างเงินเดือน เรา 4500 / 30 / 8 = ทำงาน ชม. ละ 18.75 บาท ในเวลาปกติ
แต่ถ้าทำเป็น OT 1 x 1.5 = ทำงาน ชม. ละ 28.125 บาท นี่คือ OT 1 ( 8 ชม แรก )
แต่ถ้าทำเป็น OT 2 x 3 = ทำงาน ชม. ละ 54.75 บาท นี่คือ OT 2 ( ทำ OT เกิน 8 ชม นับ ชม.ที่ เกินเป็น OT 2 X
แต่ถ้าทำเป็น OT 3 x 3 ได้วันหยุด 1 วัน หมายถึงทำ OT เกิน 16 ชม + ทำงานปกติ อีก 8 ได้วันหยุด 1 วัน คือต้องให้หยุด แต่ส่วนใหญ่ ก็จะไม่ได้หยุด เพราะถ้าหยุดงานปกติ จะสะสมทันที
โชคดีที่สายงาน ที่ทำเป็นงาน ด้านเอกสาร แต่ต้องอาศัยความรอบคอบเป็นอย่างมาก ทุกวันจะมีรายงานการผลิต ทุกแผนกเข้ามาที่หน่วยงาน เอกสารทุกอย่าง ต้องถูก คีย์ Data ให้ทันต่อการผลิต งานจึงมีทุกวันไม่หยุด แต่เนื่องด้วยบริษัทเป็นมหาชน จึงต้องหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ กะเป็น 4 กะ พนักงานทำงานกันอย่างต่อเนื่องทั้งปี ทำให้งาน 2 วัน เสาร์อาทิตย์ มันมากองอยู่วันจันทร์ เป็นจำนวน 2 วัน ทุกอาทิตย์อย่างนี้ เนื่องด้วยตำแหน่งนี้ มีตำแหน่งเดียว จึงไม่มีมือสอง มาทำงานอย่างคนอื่น OT ก็เลยต้องให้ไปทำงานวันเสาร์ หรือ อาทิตย์ 1 วัน ทุกสัปดาห์ นั่นเอง การทำ OT มีข้อดีคือ เลือกเวลาไป ตามใจ แต่ให้กลับก่อนตรงเวลาที่ OT 1 เท่านั้น ก็ต้องขอบคุณเจ้านาย ที่เมตตา ให้ทำงานมีเงินใช้อยู่
ทุกเดือนเท่ากับมีเงินเดิอนเพิ่มมา ที่ 900 บาท ทำงาน OT 1 28.125 บาท x 8 ชม x 4 วัน
นี่คือชีวิตของคนทำงาน แบบ Hard
พวกที่ทำงาน แบบนี้ ส่วนมาก็จะเป็น System product เช่น พวก ช่างซ่อมบำรุง เป็นต้น
ที่นี้พวก Smart นั้น กลับบ้านเลิกงานตรงเวลานั้น น่าจะมีสองประเภท
คือ 1. พวกสั่งงาน พวกเจ้านาย หัวหน้า พวกนี้เงินเดือนเยอะ สั่งงาน ให้คนอื่นทำ แล้วตัวเองก็กลับไป
2. พวกที่ทำงานเป็นกะ มีคนเปลี่ยน งานพวกนี้ ไม่มีสะสม มีคนรับงานเปลี่ยนกันทุกกะ ไม่มีเอกสารค้างคา แต่อย่างใดเพราะงานจบกันในกะ นั้น กะต่อไปก็รับช่วงทำงาน
ดังนั้นใครได้ วิถีงานแบบไหน ? ก็ต้อง บอกว่า ดี กว่า ตกงาน นะ เป็นโขคดี ของคุณที่เรียนมาดี
