พิมพ์

[raponsan]

Unseen ลำปาง! ′พระพุทธรูป′ผุดเหนือเขื่อนกิ่วลมที่แห้งเหลือแต่ทุ่ง!

(8 ก.ค. 58) จากสถานการณ์น้ำในเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ ความจุ 106 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 34 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุ นับเป็นปริมาณน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ และในช่วงระยะ 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เกิดฝนตกหนักลงมาในพื้นที่ ทั้งตัวเขื่อน และพื้นที่เหนือเขื่อน จากภาวะฝนทิ้งช่วง จึงทำให้ปริมาณน้ำลดลงเรื่อยๆ แต่ทางเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง ยังมีความจำเป็นที่ต้องระบายน้ำออกเฉลี่ยวันละ 1 – 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และส่งทำน้ำประปา จนทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

จากสภาพน้ำในเขื่อนที่ลดต่ำลงมามาก ทำให้พื้นที่เหนือเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง จากปกติที่จะมีน้ำเต็มพื้นที่กักเก็บในทุกด้าน แต่ทว่าพื้นที่เหนือเขื่อนกลับกลายเป็นพื้นทราย และสันดอนโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นบริเวณกว้าง และเริ่มที่จะกลายเป็นป่าหญ้ารกร้างขึ้นมา จากน้ำในเขื่อนที่แห้งเหือดลงไป จนสัตว์เลี้ยงสามารถเดินลงไปกินหญ้าได้

รวมไปถึงพระพุทธรูปลอยน้ำ และศาลาธรรมพญานาคลอยน้ำ ของสถานปฎิบัติธรรมโกษาไทรย้อย ของวัดพระธาตุบ่อส้ม ม.3 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ที่เคยสวยงาม และถือว่าเป็น UNSEEN IN ลำปาง ด้านการท่องเที่ยวว่า มีความสวยงามของพระพุทธรูปสีขาวลอยน้ำ และศาลาธรรมลอยน้ำ

แต่ขณะนี้ภาพเหล่านั้นได้หายไปหมดแล้ว พื้นน้ำเหลือแต่พื้นทราย และสันดอนโผล่ให้เห็นโดยรอบ ทำให้แพ และโป๊ะลอยน้ำต่าง ๆ ต้องจอดอยู่บนพื้น เพื่อรอให้น้ำกลับมามีเต็มพื้นที่กักเก็บของเขื่อนกิ่วลมอีกครั้ง

ขอบคุณภาพจาก http://www.posttoday.com/local/north/374887

สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนกิ่วลมปกติจะมีน้ำในเขื่อนเข้ามาถึงริมตลิ่งของวัดพระบาทบ่อส้มทำให้พระพุทธรูปลอยน้ำและศาลาธรรมพญานาคลอยน้ำดูเหมือนลอยอยู่กลางน้ำ เนื่องจากน้ำในเขื่อนล้อมรอบ ในระดับน้ำความลึกกว่า 3 เมตร แต่จากภาวะฝนที่ทิ้งช่วงนาน และไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อน ทำให้น้ำได้แห้งเหือดลงไปนานกว่า 4 เดือนแล้ว ทำให้ในช่วงนี้ จึงไม่ค่อยมีประชาชน และนักท่องเที่ยว เดินทางมายังวัด เพื่อนั่งเรือข้ามไปยังพระพุทธรูปลอยน้ำ และศาลาธรรมพญานาคลอยน้ำ  เพื่อเที่ยวชมวิวที่สวยงามของพระพุทธรูปลอยน้ำ ทำให้บรรยากาศที่วัดในช่วงนี้เกิดความเงียบเหงาอย่างมาก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436323298