ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อบต.กุดลาดโชว์ "ต้นเทียนพรรษาทองคำ" ถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ 1 เดียวในโลก  (อ่าน 1080 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อบต.กุดลาดโชว์ "ต้นเทียนพรรษาทองคำ" ถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ 1 เดียวในโลก

ตำบลกุดลาด ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2322 เป็นตำบลที่สร้างรากฐานขึ้นมาพร้อมกับตั้งจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2322 เพราะมีผู้เล่าว่า ผู้เฒ่าจางวาง อิทโครต กับผู้เฒ่าสุพรรณ นามวงศ์ เป็นหัวหน้าพากันอพยพมาจากหนองบัวลำภู มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านกุดลาด เนื่องจากเป็นแหล่งทำมาหากินได้สะดวกและอุดมสมบูรณ์ ตำบลกุดลาดมีกำนันปกครองซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นตำแหน่งขุนกุดลาดรักษา นับเป็นเกียรติแก่ตำบลสืบมา ตำบลกุดลาดตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานี ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับตำบลปทุม ตำบลกระโสบ เส้นทางผ่านทั้งตำบลประมาณ 18 กิโลเมตร อยู่บนเส้นทางสายตาลสุม-อุบลราชธานี หรือชาวบ้านเรียกถนนสมเด็จ โดยใช้นามหมู่บ้าน หมู่ 2 เป็นนามตำบล เหตุที่เรียกเพราะมีหนอง บุ่ง กุดมาก และไหลลงสู่แม่น้ำมูล จึงเรียกตามภาษาพื้นบ้านว่า “กุดลาด”

ปัจจุบันมี 14 หมู่บ้าน มีลักษณะชุมชนและวิถีชีวิตเป็นกลุ่มชุมชน ปฏิบัติตามประเพณีนิยม และองค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ร่วมกับชาวชุมชนตำบลกุดลาด ได้ร่วมกันจัดสร้างต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลักเข้าร่วมประกวดในขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสืบสานประเพณีอันเก่าแก่ของชาวอุบลราชธานี โดยเมื่อปี พ.ศ.2556 ที่ผ่านมา จัดทำต้นเทียนพรรษาสามมิติ ส่วนปี พ.ศ.2557 จัดทำต้นเทียนพรรษาทองคำ และในปีนี้ได้จัดทำต้นเทียนพรรษาทองคำ ถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เพื่อเข้าร่วมประเพณีแห่เทียนพรรษาวันที่ 31 กรกฎาคม 2558

 


นายกฤษรัตนชัย ทองเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า สำหรับต้นเทียนพรรษาทองคำถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ในปีนี้เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ต้นเทียนทั้ง 5 ต้น เป็นเทียนทองคำเพื่อนำมาถวายพระเจ้า 5 พระองค์ในวันเข้าพรรษา ส่วนด้านหน้าต้นเทียนแกะสลักเป็นภาพพญาหงส์ ซึ่งเป็นพาหนะพระนารายณ์

ต่อมาเป็นภาพแกะสลักเป็นพญา 3 เศียร ทั้งซ้ายและขวา รวมทั้งหมด 6 เศียร ประกอบด้วยพญานาคสะดุ้งรายล้อมฐานต้นเทียน ซ้ายและขวา และต้นเทียนทองคำอีก 5 ต้น
    สำหรับต้นที่ 1 จากด้านหน้าคือต้นเทียนทองคำถวายพระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 นามว่า พระกกุสันธะซึ่งมีไก่เป็นพาหนะ แกะสลักเป็นภาพลายไทยและภาพพุทธประวัติปาง “ชนะมารแม่พระธรณีบีบมวยผม”
    ต้นที่ 2 เป็นเทียนทองคำตั้งอยู่บนพญานาค นามว่า “พระโกบาคมณ์” ซึ่งมีพญานาคเป็นพาหนะ แกะสลักเป็นพุทธประวัติปาง “ประสูติ” และภาพลายไทยกนก 3 ตัว กนกก้านขด
    ต้นที่ 3 ต้นกลางซึ่งเป็นต้นเอก เป็นเทียนทองคำตั้งอยู่บนหลังพญาเต่าที่มีนามว่า “พระกัสสปะ” แกะสลักเป็นลายไทยกนก 3 ตัว กนกก้านขด กนกหัวนาค และเทพพนมประกอบกับภาพพุทธประวัติปางตรัสรู้
    ต้นที่ 4 เป็นต้นเทียนทองคำตั้งอยู่บนโคนามว่า “พระโคดม” (คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) แกะสลักเป็นภาพลายไทยและพุทธประวัติปางตรัสรู้ และ
    สุดท้ายคือต้นที่ 5 เป็นเทียนทองคำที่ตั้งอยู่บนราชสีห์นามว่า “พระศรีอาริยเมตไตรย” เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ซึ่งยังเป็นพุทธทำนายอยู่ ที่ยังไม่ปรากฏ ประกอบด้วยภาพแกะสลักพุทธประวัติปางตรัสรู้และภาพลายไทยที่ผสมผสานกลมกลืน อย่างงดงามวิจิตรบรรจง

 


นายกฤษรัตนชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับฐานด้านล่างสุดจะแกะสลักเป็นภาพเทวดา 8 องค์ หรือเทวดา 8 ทิศ ร่วมขบวนนำเทียนทองคำ 5 พระองค์มาถวายในวันเข้าพรรษาขององค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และสุดท้ายคือตำนานเล่าขานขององค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาดอยู่ด้านหลังสุด ซึ่งเป็นภาพแกะสลักของ “นางเภา-นางแพง”

ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกันมายาวนาน เดิมที “นางเภา-นางแพง” คือพญานาคแปลงเป็นหญิงสาวเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อขอหูกทอผ้าของชาวบ้านและจะขึ้นจากน้ำในเวลากลางคืน มีอยู่วันหนึ่งนางทั้งสองได้ขึ้นมาจากบึงน้ำเพื่อจะมาขอหูกทอผ้าจากชาวบ้านเหมือนเคยแต่ตอนนี้มันเป็นเวลามืดค่ำ ยายซึ่งเป็นเจ้าของหูกทอผ้าพิจารณาดูแล้วเห็นว่านางทั้งสองเป็นหญิงรูปร่างหน้าตางดงามจะปล่อยให้กลับโดยลำพังในเวลากลางคืนก็เป็นห่วงกลัวจะเกิดอันตรายแก่นางทั้งสอง เลยพูดขึ้นกับ “นางเภา-นางแพง” ว่าให้พักค้างคืนที่บ้านก่อน

 :29: :29: :29: :29:

นางทั้งสองตอบว่า พักก็ได้ แต่ยายต้องมาปลุกให้เราตื่นก่อนพระออกบิณฑบาตตอนเช้ามืด แต่ยายต้องการให้นางทั้งสองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และเดินทางกลับในเวลากลางวันจึงไม่ยอมไปปลุกตามที่ “นางเภา-นางแพง” ขอไว้ แต่ไม่ทราบว่าเป็นกรรมหรือเวรของนางทั้งสองเมื่อพระออกบิณฑบาตเสร็จ ยายเปิดประตูเข้าไปปลุกก็พบเป็นงูขนาดใหญ่สองตัวนอนขดอยู่กลางห้อง งูทั้งสองตกใจยายเป็นอย่างมากจึงรีบเลื้อยออกทางหน้าต่าง มุ่งตรงไปสู่บึงน้ำ

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่ปรากฏว่ามีใครพบเห็น “นางเภา-นางแพง” มายืมหูกทอผ้ากับชาวบ้านอีกเลย ชาวบ้านจึงเรียกบึงนั้นว่า “บุ้งนางเภา-นางแพง” ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ติดกับแม่น้ำมูลห่างจากบ้านกุดลาดทางทิศใต้ 800 เมตร ปรากฏให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน

 



ด้านนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้ร่วมกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 15-31 กรกฎาคม 2558 ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
 
 ans1 ans1 ans1 ans1

สำหรับการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาอุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ถาวรสืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยตามนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดให้ปี พ.ศ.2558 เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อเตรียมการและดำเนินการจัดกิจกรรมในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

    โดยมีกิจกรรมที่กำหนดไว้เป็นเบื้องต้น ได้แก่
    พิธีเปิดงานเทศกาลงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ในวันที่ 20 ก.ค.
    การจัดกิจกรรมแกะสลักประติมากรรมเทียนนานาชาติ วันที่ 15-31 ก.ค.
    กิจกรรมเยือนชุมชน ชมวิถีชีวิตวัฒนธรรมในการตกแต่งต้นเทียนพรรษา วันที่ 15-31 กรกฎาคม 2558
    กิจกรรมถนนสายธรรมสายเทียน วันที่ 27-31 ก.ค.
    กิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาการทำบุญเวียนเทียน วันที่ 30 กรกฎาคม 2558
    กิจกรรมการแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือ OTOP วันที่ 27-31 ก.ค.
    กิจกรรมการประกวดสาวงามเทียนพรรษา วันที่ 29 ก.ค.
    การแสดงประกอบแสงเสียง ขบวนแห่เทียนพรรษาในภาคกลางคืน และ
    กิจกรรมการประกวดต้นเทียนพรรษา ในวันที่ ก.ค.
    ส่วนกิจกรรมการตั้งต้นเทียนพรรษาที่เข้าประกวดจะตั้งแสดงระหว่างวันที่ 30 จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2558 และมีพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี 2558 วันที่ 31 กรกฎาคม 2558

 
ศรัณย์ วิชัย/อุบลราชธานี
http://www.banmuang.co.th/news/region/21719
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ