พิมพ์

[raponsan]

ญาติโยมหวังปาฏิหาริย์ เจ้าอาวาสวัดชำโสม หายตัว กลับวัดปลอดภัย

คดี เจ้าอาวาสวัดชำโสม หายตัวลึกลับ คืบหน้า!!! ตร.มุ่งลักพาตัว เชื่อทำเป็นกลุ่มหวังชิงทรัพย์ ด้านญาติโยม ยังหวังปาฏิหาริย์ ให้เจ้าอาวาสรอด

ความคืบหน้ากรณี พระครูสุพัฒนกิจอุดม หรือ หลวงพ่อทวีป สันตะจิตโต อายุ 90 ปี เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม หรือ วัดชำโสม ม.10 ต.แสลง อ.เมือง จ.จันทบุรี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมเงินสดกว่าแสนบาท สมุดบัญชีธนาคาร และรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กท 9190 จันทบุรี ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี ที่ 16 ก.ค.58 ผ่านมา

วันที่ 21 ก.ค.58 จากการสอบถามความคืบหน้าไปยัง พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากการทำงานเร่งติดตามคดีของเจ้าหน้าที่ ทั้งชุดสืบสวน จาก สภ.เมืองจันทบุรี และกองบังคับการตำรวจภูธร เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว การสืบสวนมีความคืบหน้าอย่างมาก ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ได้เบาะแส จนพบว่า ก่อนวันที่ 16 ก.ค.58 ที่ พระครูสุพัฒนกิจอุดม จะหายตัวไป มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เบื้องต้น มีข้อมูลทราบว่า เป็นแก๊งมิจฉาชีพ และเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้กับวัด และได้มีการแจ้งความดำเนินคดี ในพื้นที่หลายจังหวัดภาคอีสาน และภาคตะวันออก

จึงได้แบ่งชุดการทำงานของเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่หาเบาะแสและเฝ้าดูพฤติกรรม โดยการหายตัวของพระครูสุพัฒนกิจอุดม นั้น ตำรวจมุ่งปมการลักพาตัวเพื่อชิงทรัพย์แน่นอน แต่จนถึงขณะนี้ ไม่มั่นใจว่า พระครูสุพัฒนกิจอุดม จะยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องที่ญาติโยม และชาวบ้าน เชื่อกันว่า คนสนิท ที่เป็นคนขับรถส่วนตัวซึ่งเป็นสาวใหญ่ ของพระครูสุพัฒนกิจอุดม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้ ทางตำรวจสืบสวน ได้เชิญตัวมาสอบปากคำแล้ว แต่ไม่พบว่า มีพิรุธ จึงได้ปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราว

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดโสมนาราม หรือวัดชำโสม เพื่อเฝ้าดูบรรยากาศ ซึ่งก็พบว่า มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ญาติโยม ผู้นำชุมชน ชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาเกือบ 100 คน ตลอดจนเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นสหธรรมมิตร ของพระครูสุพัฒนกิจอุดม จากหลายวัดเดินทางมารวมตัว เพื่อเฝ้าติดตามความคืบหน้า การค้นหาตัวพระครูฯ หลังจาก ลูกศิษย์บางคนถึงกับหันไปหาความเชื่อ พึ่งพาไสยศาสตร์ ทั้งร่างทรง เพ่งกระแสจิต เพื่ออยากรู้เจ้าอาวาส ยังมีชีวิตอยู่ และหวังหาเบาะแส เท่าที่จะทำได้ ก่อนจะร่วมกันออกตามหาทั่วบริเวณนั้นๆ ทั้งสวนยางพารา สระน้ำ พื้นที่ทั่วบริเวณรอบวัด แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของ พระครูสุพัฒนกิจอุดม แต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้าน ถือเป็นวิธีการตามความเชื่อแบบของชาวบ้าน ไม่รอพึ่งพาการทำงานของเจ้าหน้าที่

โดย นางดาวเรือง เจริญทรัพย์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1237 ต.คลอง 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลานของ พระครูสุพัฒนกิจอุดม ที่เดินทางมายังวัด กล่าวความรู้สึกว่า ตั้งแต่ที่ตนเองทราบข่าว พระครูสุพัฒนกิจอุดม หรือหลวงลุง ได้หายตัวไปอย่างลึกลับหลายวันแล้ว ตนเองก็เดินทางมาจันทบุรี และส่วนตัวเชื่อว่า การหายตัวไปของหลวงลุง น่าจะมีคนใกล้ชิดรู้เห็น ซึ่งตนเอง ฟังได้ข้อมูลส่วนหนึ่งจากชาวบ้าน พอทราบว่า มีการพุ่งเป้าไปยังสองผัว-เมีย อดีตคนขับรถของหลวงลุง ที่ลาออกไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่ทั้งสองคน จะฝากฝังสาวใหญ่ให้มาขับรถแทนไม่ถึงปี จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยทั้งสามคน เคยประวัติ ปัญหาเรื่องของหนี้สิน และเคยไปมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องเงินของอีกหลายวัดในจันทบุรี ก่อนที่จะมาอยู่กับหลวงลุง ซึ่งตนเองเชื่อว่า การหายตัวไปของหลวงลุง เป็นการลักพาตัวเพื่อหวังทรัพย์สิน แต่ทั้งนี้ เรื่องของคดีก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนต่อไป ว่า ทั้งสามคนจะมีส่วนกับการหายตัวไปของหลวงลุงในครั้งนี้หรือไม่

นางดาวเรือง กล่าวอีกว่า ตนเองยังมีความเชื่อว่า หลวงลุงจะยังคงมีชีวิตอยู่ แม้จะหายตัวไปหลายวันแล้วก็ตาม ที่ผ่านมาบางครั้งก็ต้องพึ่งพาเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นสหธรรมมิตร ของหลวงลุงจากหลายวัด เพื่อดูโชคชะตาว่า หลวงลุง จะเป็นเช่นไร อยู่ที่ไหน และภาวนาให้มีคนพบเจอ หรือให้หลวงลุงกลับวัดด้วยความปลอดภัย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/513103