« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2015, 10:35:18 pm »
0
เน็ตครองโลก!? สำรวจแผงหนังสือการ์ตูนซบเซา สายส่ง-ร้านค้าบอกตรงกันเริ่มอยู่ยากช่วงนี้มีกระแสวงการหนังสือการ์ตูนซบเซาลงเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด จากที่มีข่าวสำนักพิมพ์รายใหญ่ และร้านขายการ์ตูนทั่วไปหลายแห่งทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหลายร้านต่างมีความเห็นตรงกันว่ามาจากคอการ์ตูนหันไปอ่านการ์ตูนในอินเตอร์เน็ต
จากอิทธิพลของเทคโนโลยีสื่อโซเชียลมีเดียต่างส่งผลให้พฤติกรรมการอ่านการ์ตูนของคนยุคปัจจุบันนี้มีความแตกต่างหลากหลาย มีการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ให้อ่านฟรีผ่านช่องทางต่างๆ ตามอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเช่ายืม ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือราคาของหนังสือการ์ตูนที่ปรับสูงขึ้นตามกลไกตลาด
นายบุญช่วย มนตรี เจ้าของร้านขายหนังสือการ์ตูน “บุญช่วย ฟุตบาธ” ย่านสะพานควาย มีความเห็นว่าเป็นผลกระทบจากอินเตอร์เน็ต และราคาของหนังสือที่สูงขึ้น ปัจจุบันราคาหนังสือการ์ตูนถูกปรับขึ้นเป็นเล่มละ 55-60 บาทจากเดิมที่เคยขายเล่มละ 45 บาท ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อหนังสือน้อยลง ยอดขายลดลงมากกว่าแต่ก่อน โดยนายบุญช่วยเล่าว่า เมื่อก่อนตนเป็นตัวแทนส่งหนังสือให้กับร้านขายการ์ตูนใหญ่ๆประมาณ 5 ราย แต่ปัจจุบันเหลือส่งอยู่เพียง 2 ราย ขณะที่ร้านหนังสือการ์ตูนรายใหญ่ที่ส่งอยู่เป็นประจำก็ปิดกิจการ ต้องหันมาตั้งร้านขายหนังสือการ์ตูนเอง
"มันก็น่าจะส่งผลเยอะ แบบที่มีอินเตอร์เน็ตที่อ่านได้ ช่วงหลังๆตกลงไปเยอะครับ อย่างถ้ายอดเต็ม 100 ก็เหลือไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่ส่งหนังสือก็มี 5 เจ้า ตอนนี้เหลือ 2 เจ้า ที่เหลือ 2 เจ้ายอดก็ลดลงเยอะครับ"
ส่วนย่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านขายหนังสือขนาดใหญ่ และเฟื่องฟูมากในช่วง 5-10 ปีก่อนหน้านี้ โดยผู้ประกอบการก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยเห็นว่าเป็นเพราะอินเตอร์เน็ตและอีกส่วนก็คือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำด้วย
นายพาณิช มหาสุขพิบูล เจ้าของร้านจำหน่ายหนังสือการ์ตูน A.S.Book (เอ.เอส. บุ๊ก) ผ่านฟ้าลีลาศ เผยว่า พฤติกรรมการซื้อหนังสือเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อน เวลามีคนมาดูหนังสือส่วนใหญ่ก็จะซื้อทันที แต่ขณะนี้สังเกตได้ชัดว่ามีการคิดก่อนซื้อทุกครั้ง ส่วนยอดขายหนังสือที่จัดว่าขายดีที่สุดของยุคนี้ ยังไม่เท่ากับหนังสือที่มียอดขายอันดับกลางๆ ของเมื่อสมัย 5-10 ปีที่แล้วด้านนายบุญเชิด ศรีสุริยา เจ้าของร้านรุ่งเจริญ เผยว่า ยอดขายตกลงมาได้ 2-3 ปีแล้ว ถ้าเทียบกับปี 2540 ที่เกิดภาวะฟองสบู่แตก ซึ่งหลายคนต่างมีความเห็นว่าแย่แล้ว แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ถือว่าแย่กว่าช่วงฟองสบู่แตก
นอกจากนี้นายบุญเชิด ยังกล่าวอีกว่า จะลองขายหนังสืออีกไม่เกิน 5 ปี ถ้าหากยังไม่ดีขึ้นก็จะหันไปทำอย่างอื่นแทน เพราะตอนนี้ก็กำลังหาอย่างอื่นมาเพื่อรองรับแล้ว เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1438321702