พิมพ์

[raponsan]

สาวซิ่งเก๋งหลับใน ชนเจ้าคณะตำบลพิษณุโลก มรณภาพ

ถึงกับช็อก!! สาวซิ่งเก๋งหลับใน ชนรักษาการเจ้าอาวาสวัดเสนาสน์เมืองพิษณุโลก มรณภาพคาที่ ขณะกำลังขึ้นรถจอดริมถนนไปซื้อจาวตาลไปฝากพระอีกรูปที่เรียนวิทยาลัยสงฆ์ฯด้วยกัน...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. พ.ต.ท.เสถียร อ่อนทอง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งอุบัติเหตุทางรถยนต์มีผู้เสียชีวิต ริมถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ฝั่งขาออกจากตัว อ.วัดโบสถ์ หลัก กม.ที่ 245-246 หมู่ 2 ต.วัดโบสถ์ จึงไปตรวจสอบพบร่างพระสมุห์ทวีทรัพย์ จนฺทาโภ นามสกุล พิกุลทอง อายุ 44 ปี เจ้าคณะตำบลท่างาม รักษาการเจ้าอาวาสวัดเสนาสน์ ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ นอนเสียชีวิต ในสภาพกะโหลกแตก ห่างไปประมาณ 8 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กง 7368 อุตรดิตถ์ จอดอยู่สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเปอโยต์ สีแดง ทะเบียน กท 7157 พิษณุโลก ในสภาพท้ายรถพังยับเยินเช่นกัน โดยมี น.ส.วธัญญา มูลจันทร์ อายุ 26 ปี ชาว ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ คนขับรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ

 

สอบถาม น.ส.วธัญญา เบื้องต้นทราบว่า ขับรถมาจาก จ.อุทัยธานี เพียงคนเดียว กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.อุตรดิตถ์ ขณะถึงจุดเกิดเหตุรู้สึกวูบเหมือนหลับใน มารู้อีกทีเมื่อรถได้ชนรถยนต์ของพระสมุห์ทวีทรัพย์ไปแล้ว

ด้านนายนพรัตน์ สุดสังข์ อายุ 69 ปี มัคนายกวัดเสนาสน์ ที่เดินทางมาที่เกิดเหตุ ให้การกับตำรวจว่า พระสมุห์ทวีทรัพย์ หรืออาจารย์จุก บวชมาได้ 18 พรรษาแล้ว และกำลังจะไปส่งรายงานที่วิทยาลัยสงฆ์พระพุทธชินราช ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก เนื่องจากกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี คาดว่าก่อนเดินทางไปวิทยาลัยน่าจะแวะหาซื้อจาวตาลไปฝากพระรูปใดรูปหนึ่ง แต่ก็เกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

 

ขณะที่นางชุรี ดิษฐ์เนตร์ อายุ 44 ปี แม่ค้าขายผลิตภัณฑ์จากตาล ที่ตั้งเพิงขายอยู่ริมทางบริเวณจุดเกิดเหตุ ให้การกับตำรวจว่า พระสมุห์ทวีทรัพย์ ขับรถยนต์เก๋งมาจอดเลยร้านตนไปนิดหนึ่ง แล้วลงมาหาซื้อจาวตาลแต่ที่ร้านตนไม่มี จึงเดินกลับไปที่รถ ขณะที่พระสมุห์ทวีทรัพย์กำลังเปิดประตูรถอยู่นั้น รถของ น.ส.วธัญญา ที่ขับมาจากตัว อ.วัดโบสถ์ ได้พุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์เก๋งทำให้พระสมุห์ทวีทรัพย์กระเด็นไปหัวฟาดกับพื้น ถนนเสียชีวิตดังกล่าว ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียด อีกครั้งที่ รพ.วัดโบสถ์ และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/515510