พิมพ์

[raponsan]

คณะสงฆ์สวดเรียกขวัญ-ทำบุญ 7 วันเหตุระเบิด

คณะสงฆ์ร่วมกับหลายภาคส่วนทั้่งรัฐและเอกชน เตรียมงาน " รวมพลังคนไทย รวมหัวใจเพื่อชาติ" จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ครบ 7 วัน ในวันที่ 24ส.ค.นี้

วันนี้(21ส.ค.) ที่วัดสัมพันธวงศาราม กรุงเทพฯ พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) พร้อมด้วยพระราชญาณกวี(สุวิทย์ ปิยวิชฺโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก นายชยพล พงษ์สีดา รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) นายสุเทพ เกษมพรมณี รองอธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิไทยพึ่งไทย ได้ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน"รวมพลังคนไทย รวมหัวใจเพื่อประเทศไทย"พิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนาอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนชาวไทย

โดยพระพรหมเมธี กล่าวว่า มหาเถรสมาคมได้มีมติให้คณะสงฆ์ พศ. ภาครัฐ และเอกชนร่วมกันจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในวันที่ 24 ส.ค.ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยพิธีสวดมนต์จะเริ่มเวลา 18.00 น. ที่บริเวณหน้าโรงแรมอัมรินทร์พลาซา และมีพิธีบังสุกุลที่บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ และมีการวางดอกไม้พร้อมเทียนแก้ว เพื่อไว้อาลัยและทำบุญให้แก่ผู้เสียชีวิต

 

"การสวดมนต์ครั้งนี้คณะสงฆ์จะนิมนต์รองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฎ ได้แก่ พระพรหมเมธี พระพรหมดิลก พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเสนาบดี สวดเรียกขวัญให้คนไทย พร้อมอุทิศบุญกุศลให้ผู้เสียชีวิตในวาระครบ 7 วันด้วย"โฆษกมส.กล่าว

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ชาวพุทธจะได้ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ให้แก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และสวดมนต์เรียกขวัญกำลังใจให้แก่คนไทย ในยามที่เราทุกข์ เพื่อให้คนไทยมีพลังใจดำเนินชีวิต และผลักดันให้ประเทศเดินหน้าตามปกติสุข และขอพระพุทธคุณคุ้มครองให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้หายป่วย รวมทั้งสร้างขวัญให้ชาวกรุงเทพ รวมถึงแสดงรักความสามัคคีต่อกัน ซึ่งครั้งนี้จะมีภาคเอกชนในพื้นที่มาร่วมด้วย เช่น ห้างอัมรินทร์พลาซา มูลนิธิทำดี ห้างเกสรพลาซา โรงแรมเอราวัณ เป็นต้น นอกจากนี้จะมีการให้ประชาชนร่วมยืนไว้อาลัย ร้องเพลงชาติ สวดมนต์ และจุดเทียนวางดอกไม้รอบศาลพระพรหม รวมทั้งมีการร้องเพลงจากศิลปินแกรมมี่ เพื่อแสดงออกถึงความรักที่มีต่อผู้เสียชีวิต

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/343119