ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระสูตรปราบเซียน  (อ่าน 1148 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระสูตรปราบเซียน
« เมื่อ: กันยายน 08, 2015, 11:26:09 am »
0


พระสูตรปราบเซียน
คอลัมน์ : ชักธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง

ช่วงเวลา 45 ปี ที่พระพุทธองค์ทรงจาริกแสดงธรรมปักธงพระพุทธศาสนาอยู่นั้น มี 6 ศาสดาเจ้าสำนักใหญ่จับจองพื้นที่ศรัทธาของประชาชนอยู่ก่อนแล้ว พระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ เคยเป็นศิษย์เอกสำนักปริพาชก เมื่อบวชแล้วลงหลักปักฐานมั่นคง เป็นถึงพระอัครสาวก ขวา-ซ้าย

 :96: :96: :96: :96:

แต่ที่มาบวชเป็นพระแล้วเปลี่ยนใจสึกไปเป็นปริพาชก รู้จักกันในชื่อสรภปริพาชก...ก็มี
(พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน ตอนว่าด้วยพระสูตร กรมการศาสนา พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.2548)

สรภปริพาชกไปไหนก็เที่ยวคุยโม้เคยบวชแล้ว รู้ทั่วถึงธรรมของสมณศากยบุตรแล้ว (แต่เบื่อแล้ว) จึงหลีกไปจากพระธรรมวินัย พระผู้มีพระภาคเสด็จไปอารามปริพาชก ถามต่อหน้าที่ประชุม ที่รู้ว่ารู้ทั่วถึงธรรมของสมณศากยบุตรรู้อย่างไร ถ้าบกพร่องจะช่วยเติมให้ ตรัสถาม 3 ครั้ง สรภปริพาชกแสดง 3 อาการ
      1. พูดเลี่ยงไปเลี่ยงมา
      2. แสดงความโกรธเคือง
      3. นั่งนิ่งเก้อเขิน ก้มหน้าแสดงลักษณะของผู้ไม่รู้จริง ขี้โม้ให้ประจักษ์


 :25: :25: :25: :25:

ในแคว้นกาลามะ...เขตที่ชาวนิคมเกสปุตตะอยู่ เป็นชุมทางการค้าสำคัญจึงเป็นสถานที่ที่เจ้าลัทธิสำคัญ ต่างก็แวะเวียนไปแสดงวาทะยกย่องตัวเองข่มผู้อื่นเป็นทำนองว่ารู้จริงยิ่งกว่า

    เมื่อพระพุทธองค์จาริกไปถึง ชาวกาลามะก็ถามจะเชื่อใครดี
    “ดูก่อน ชาวลามะ” พระพุทธองค์ตรัส “จงอย่าเชื่อ...แต่เพียงว่า
    1. ฟังตามกันมา  2. นำสืบกันมา  3. โดยตื่นข่าวลือ  4. โดยอ้างตำรา  5. โดยนึกเดาเอา
    6. โดยคาดคะเน  7. โดยตรึกตามอาการ  8. โดยพอใจว่าชอบแก่ความเห็นของตน
    9. โดยเห็นว่าพอเชื่อได้ และ 10. โดยเห็นว่าสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา”
    หากจะเชื่อ...ให้สอบสวนจนรู้ (ผลดีผลร้าย) ได้ด้วยตนเอง

ในกรณีความดีความชั่วที่เถียงกัน เมื่อตายจะไปอยู่ในสวรรค์หรือนรก พระพุทธองค์สอนว่า หากได้เจริญพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แสดงว่าเป็นผู้มีจิตไม่ผูกเวร ไม่พยาบาท ไม่เศร้าหมอง มีจิตบริสุทธิ์ย่อมสบายใจได้
    1. ถ้าผลของความดีความชั่วมี ตนก็จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
    2. ถ้าผลของความดีความชั่วไม่มี ก็รักษาตัวให้มีความสุขได้ในปัจจุบัน

    ชาวกาลามะเลิกสงสัยหายสับสน กราบทูลว่าเห็นด้วยกับความวางใจหรือความอุ่นใจเกี่ยวกับโลกหน้าของผู้มีจิตอันไม่ผูกเวร


 st12 st12 st12 st12

เวนาคปุระ พราหมณคฤหบดี ชาวบ้านพราหมณ์ เห็นอินทรีย์และพระฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาคเจ้าบริสุทธิ์ผ่องใสนัก ทนไม่ไหว ต้องกราบทูลถาม
     ทรงใช้ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ เช่น อาสันทิบัลลังก์ได้ตามต้องการหรือไม่.?
    “ดูก่อนพราหมณ์” ทรงชี้แจง “ที่นั่งที่นอนแบบนั้นไม่ควรแก่สมณะ แต่เรามีที่...ที่ยิ่งใหญ่กว่า 3 อย่าง
     1. ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ที่เป็นทิพย์ อันได้แก่การเข้าฌาน 4
     2. ที่เป็นพรหม อันได้แก่การเจริญพรหมวิหาร 4 มีเมตตาเป็นต้น และ
     3. ที่เป็นอริยะ อันได้แค่การละราคะ โทสะ โมหะ”

     คำถามของเวนาคปุระพราหมณ์ มาจากความเชื่อเทพเจ้า...ครับ พระพุทธเจ้าของเราไม่ชี้ขาดมีจริงหรือไม่จริง แต่อาศัยความเชื่อนั้นเป็นพื้นฐานเติมเป็นคำสอนพุทธศาสนา


      ans1 ans1 ans1 ans1

     พระอินทร์นั่งหรือนอนในทิพยอาสน์ก็ทรงเป็นได้ พระพรหม ผู้ยิ่งใหญ่ในสามจอมเทพของพราหมณ์ (น่าจะคนละองค์กับท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์) ก็ทรงเป็นได้ หรือจะให้เป็นพระอริยะ เพียงละราคะ โทสะ โมหะได้ ก็ทรงเป็นได้
     
     แต่จะสั่งสมบารมีเป็นพระอินทร์ เป็นพระพรหม เป็นพระอริยะ ตามรอยพระพุทธองค์นั้นคงยากนัก ในระดับจิตปุถุชนอย่างสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ...เอาแบบชาวกาลามะ...รับ 10 คำสอน จงอย่าเชื่อ...เอาไว้ก็น่าจะพอ

     หากจะเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญจะพาลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ ก็ต้องใช้ปัญญา เอาความสงบเย็นเป็นสุขของบ้านเมืองเป็นเป้าหมาย...ถ้าแน่ใจ...ก็ช่วยกันยกมือผ่าน...ให้ไปเลย.


     กิเลน ประลองเชิง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/523288
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระสูตรปราบเซียน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 08, 2015, 12:05:46 pm »
0
พระสูตร นี้ เรียกว่า ถูกใช้ประโยชน์ มากที่สุดในสาย หนึ่ง ได้ยินบ่อยมาก

  :49: thk56
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ