ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เสวนาพุทธ 5 ประเทศมุ่งให้สังคมเข้าถึงหลักธรรม  (อ่าน 878 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เสวนาพุทธ 5 ประเทศมุ่งให้สังคมเข้าถึงหลักธรรม

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐรายงานมาจากโรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ กอล์ฟแอนด์สปารีสอร์ท จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่า ชมรมโพธิคยา 980 สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับมูลนิธิวีระภุชงค์ ได้จัดงานประชุมเสวนา "พุทธพลิกสุวรรณภูมิ สามัคคีทำ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ขึ้นโดยมี พระมหาผ่อง สะมาเลิก อายุ 101 ปี เจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อ ประธานศูนย์กลางองค์การศาสนสัมพันธ์ลาว (สปป.ลาว) เป็นประธานเปิดงาน มีประธานสงฆ์และพระธรรมทูตจาก 5 ประเทศได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว ไทย และเวียดนาม พร้อมอุบาสก อุบาสิกา เข้าร่วมประชุมจำนวน 300 รูป/คน และมีนายณัฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กล่าวต้อนรับ และนายชัช ชลวร ประธานชมรมโพธิคยา 980 กล่าวถึงการจัดงาน

ทางด้านนายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า ปัจจุบันคนในสังคมบางส่วนไม่เข้าใจในแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ขณะที่ชมรมโพธิคยา 980 ที่ก่อตั้งมาถึง 7 ปี ได้มุ่งเน้นในการสนับสนุนการทำงานของพระธรรมทูต การเสวนาครั้งนี้จึงได้อาราธนาประธานสงฆ์จาก 5 ประเทศเข้าร่วมหารือในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตในแดนสุวรรณภูมิ พร้อมอยากให้เกิดความเชื่อมโยงของชาวพุทธในดินแดนนี้ เนื่องจากในดินแดนสุวรรณภูมินับถือพุทธศาสนาทั้งหมด โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง


 :25: :25: :25: :25:

นายสุภชัย กล่าวต่อไปว่า จากประสบกาารณ์ที่ตนเป็นนักธุรกิจค้าขายในดินแดนสุวรรณภูมิมากว่า 25 ปี ได้เห็นว่าทุกประเทศมีปัญหาที่คล้ายคลึงกันคือ พุทธบริษัท 4 ไม่เข้าใจแก่นและหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และการสอนให้ชาวพุทธเข้าถึงแก่นได้นั้น เป้าหมายอยู่ที่คณะสงฆ์ เพราะพระสงฆ์เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย เป็นผู้ถ่ายทอดธรรมะ แต่ปัญหาคือพระสงฆ์ในแดนสุวรรณภูมิบางรูปไม่สามารถยกจิตต่อสู้กับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่ถาโถมเข้ามาได้ ทำให้หลงในลาภสักการะ ยศฐาบรรดาศักดิ์ จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดในธรรมะ รวมทั้งคณะสงฆ์ยึดระบบอุปถัมภ์มากเกินไป

นอกจากนี้นายสุภชัย ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุผลดังกล่าวชมรมโพธิคยา 980 จึงอยากให้เจ้าคณะผู้ปกครองมีหลักการในการบริหาร กันผู้ที่บวชเพื่อแสวงหาลาภสักการะออกจากคณะสงฆ์ และอยากเห็นชาวพุทธเข้าใจในแก่นธรรม จนนำไปสู่การปฏิบัติได้ รวมถึงยกตนขึ้นเป็นครูสอนคนอื่นให้เข้าใจได้ พร้อมกับสามารถเชื่อมโยงมิติทางศาสนาใน 5 ประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีในเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมตามาด้วย เพราะนี่คือหน้าที่ของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่จะต้องจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไปอีก 2,500 ปีตามพุทธกาล

 :96: :96: :96: :96:

ขณะที่พระมหาผ่อง สะมาเลิก กล่าวว่า ในฐานะที่อาตมามีอายุกว่า 101 ปี จึงอยากแนะนำว่าทำอย่างไรในการปฏิบัติธรรมของหมู่สงฆ์ในดินแดนสุวรรณภูมิ จะไปสู่เป็าหมายได้เร็วขึ้น จึงขอฝากให้พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ที่ได้มาเข้าร่วมเสวนาพยายามละสังโยชน์ 3 ได้แก่
     1. สักกายทิฏฐิ คือความเห็นเชื่อผิดในตัวตน
     2. วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัยไม่แน่ใจในพระรัตนตรัย และ
     3. สีสัพพตปรามาส คือความถือมั่นในข้อบังคับและข้อปฏิบัติที่ทำตามกันมาอย่างงมงาย
หากละ 3 สิ่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์คือว่าบรรลุโสดาแล้ว.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/524819
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ