ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การปฏิบัติดี ดีกว่าขอพร  (อ่าน 1182 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29299
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
การปฏิบัติดี ดีกว่าขอพร
« เมื่อ: กันยายน 25, 2015, 09:37:46 am »
0


การปฏิบัติดี ดีกว่าขอพร
โดย พระศรีรัชมงคลบัณฑิต

    ท่านสาธุชนคนดีทั้งหลาย ท่านอาจจะเคยได้ยินได้ฟังคำว่า “การปฏิบัติดี ดีกว่าขอพร” มาบ้าง ซึ่งก็มีความหมายแบบตรง ๆไม่ต้องไปแปลความหรือตีความอะไรให้มากไป เพราะการปฏิบัติดีก็มีความหมายว่า
    การทำดี การพูดดีซึ่งมาจากความคิดที่ดีนั่นเองส่วนการขอพรก็คือการขอให้อำนาจลึกลับอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนาจผู้วิเศษทั้งหลายทั้งปวงช่วยเหลือช่วยประทานช่วยให้ในสิ่งที่ตนมุ่งหวัง

    หลักการเข้าถึงพระพุทธศาสนาหรือหลักการเป็นชาวพุทธที่ดีนั้นมีหลายวิธี แต่ตรงนี้จะกล่าวสักหนึ่งวิธี คือ
    การศึกษาคำสั่งคำสอนของพระพุทธศาสนาให้รู้และเข้าใจอย่างถูกต้องถี่ถ้วนครบทุกกระบวนความ ซึ่งเรียกกันว่า ปริยัติ การปฏิบัติให้ดีและถูกต้องตามที่ได้ศึกษามาดีแล้ว และผลแห่งการปฏิบัติ เรียกว่า ปฏิเวธ เมื่อรวมทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เข้ากันก็จะส่งผลคือความสงบสุขอย่างแท้จริงแก่คนที่ปฏิบัติตามได้อย่างบริบูรณ์

    ท่านสาธุชนทั้งหลายนี้ก็ใกล้จะถึงวันที่ ๕ ธันวาคมอีกแล้ว ซึ่งเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวไทยที่นิยมไทยทุกหมู่เหล่า เป็นวันที่พระเจ้าแผ่นดินของพวกเราจะมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา(ปี) ซึ่งพสกนิกรชาวไทยทุกภาคส่วนทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ได้พากันจัดกิจกรรมนานาชนิดเพื่อเฉลิมฉลองเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในวโรกาสพิเศษนี้ และสิ่งที่เห็นจนคุ้นตาหรือได้ยินได้ฟังจนคุ้นหูก็คือการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้คัดค้านว่า การขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง ไม่ส่งผลอะไรเลยเพียงแต่อยากจะบอกว่า ยังมีสิ่งที่ดีกว่าการขอพร นั่นก็คือการลงมือปฏิบัตินั่นเอง


      ask1 ask1 ask1 ask1

     มีข้อสังเกตว่า คนไทยเราโดยมากมักจะมีการขอพรกันนานาต่างๆ เช่น การขอพรเพื่อให้บ้านเมืองเราเกิดความสงบร่มเย็นซึ่งหมายความว่า ไม่ให้มีการเข่นฆ่ากัน ไม่ให้ก่อความวุ่นวายในสังคมไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้จะมีการขอพร แต่ก็ยังคงมีการเข่นฆ่าทำลายล้างกันอยู่เหมือนเดิม และไม่มีทีท่าว่าเมื่อไหร่บ้านเมืองไทยเรานี้จะสงบร่มเย็นได้สักที ตามที่ท่านทั้งหลายก็คงจะเห็นกันตามสื่อต่าง ๆ นี้ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่า การขอพรไม่ได้ผลหรือไม่ให้ผลได้จริง จะเป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆก็แก้ปัญหาไม่ได้

     ต่างกันกับพระพุทธศาสนาซึ่งมีคำสอนเรื่องกรรม คือ การกระทำดีกระทำชั่วเป็นตัวชี้วัดเรื่องหรือสิ่งต่าง
ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร จะขอยกตัวอย่างเช่นพระพุทธภาษิตว่า
     กลฺยาณการี กลฺยาณํ  ผู้ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี
     อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเองเป็นที่พึ่งของตน 
     อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ สนฺโต สคฺคปรายนา คนไม่ดีจะไปตกนรก คนดีไปสวรรค์
เป็นต้น

     กรรมก็คือ การกระทำ เป็นคำกลาง ๆ ทำดีเรียกว่า กรรมดี ทำชั่วเรียกว่า กรรมชั่ว ซึ่งการกระทำโดยความหมายก็คือการลงมือปฏิบัตินั่นเอง ผลแห่งการปฏิบัติระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วจะตรงกันข้ามกันเสมอ กรรมดีส่งผลทางบวกกรรมชั่วส่งผลทางลบ




      เชิญท่าสาธุชนมาดูตัวอย่างปัญหาต่างๆ ในสังคมไทยโดยตรงหรือแม้ในสังคมโลก ที่เกิดจากฝีมือคนที่มีจิตใจต่ำทรามทำกันเช่น การเข่นฆ่ากัน ถ้าคนที่ไปฆ่าคนอื่นนั้นมันหยุดฆ่าเสียอย่างเดียว ก็ย่อมจะส่งผลได้ทันทีคือไม่มีใครถูกฆ่าเพราะไม่มีผู้ฆ่านั่นเอง เป็นผลที่เห็นได้ง่ายๆ จากการปฏิบัติหรือการกระทำของคน ถ้าคนที่ไปวางระเบิดหยุดวางก็ไม่ต้องมีการระเบิดสร้างความวุ่นวายสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน

     สรุปว่า การลงมือปฏิบัติย่อมจะแก้ปัญหาได้จริง เช่น การหยุดทำความชั่ว ความชั่วก็จะไม่มีไม่เกิดผล และก็ก่อปัญหาได้เช่นกัน เช่น การลงมือเข่นฆ่ากันก็ทำให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายได้จริง

     แม้ปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดจากคนเป็นผู้คิดผู้ทำก็เช่นเดียวกันถ้าคนที่นิยมชมชอบในการสร้างปัญหาเหล่านั้นหยุดเสียได้ด้วยตนเองที่มีจิตสำนึกที่ดีมีเมตตากรุณาต่อคนอื่นต่อเพื่อนมนุษย์ที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมด หรือภาครัฐมีมาตรการลงโทษที่เด็ดขาดเข้มแข็งเอาจริงต่อคนที่นิยมสร้างปัญหา ปัญหาต่าง ๆ ก็จะหมดไปได้จากมวลมนุษยชาติ

     ในทางตรงกันข้าม หากจะมีเพียงการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดความสงบร่มเย็น แต่คนเหล่านั้นก็ยังมีการปฏิบัติที่ผิดๆ อยู่ เช่น การฆ่า การทำลายล้าง การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ท่านทั้งหลายอย่าพากันคิดอย่าพากันหวังเลยว่า จะเกิดความสงบสุขร่มเย็นได้ ไม่มีทางจะเกิดมีได้


     ans1 ans1 ans1 ans1

    จากการยกตัวอย่างมาเพียงเล็กน้อยนี้จุดประสงค์ที่อยากจะบอกท่านก็คือ จะบอกว่า การปฏิบัติดีย่อมจะดีกว่าการขอพรแน่ เพราะการปฏิบัติดีเห็นผลได้ทันทีส่วนการขอพรไม่รู้ว่าตอนไหนจึงจะเห็นผลหรืออาจจะไม่เห็นผลเลยก็ได้

    ถ้าทุกคนในประเทศไทย หรือทุกคนในโลกช่วยกันร่วมกันลงมือปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อให้เป็นประโยชน์สุขอย่างแท้จริงทั้งแก่ตนและสังคมโดยภาพรวม ไม่มีใครฆ่าใคร ไม่มีใครลักขโมย ปล้นจี้ทุจริตคอรัปชั่นใคร ไม่มีใครประพฤติผิดก่อให้เกิดความเสียหายในคนอื่นในด้านเพศ ไม่มีใครโกหกหลอกลวงพูดไม่จริงหรือพูดส่อเสียดยุยงพูดเอาแต่ดีใส่ตัวเอาแต่ชั่วใส่คนอื่นต่อใคร ไม่มีใครดื่มของมึนเมาเสพยาเสพติดสารเสพติดเลย โลกมนุษย์เราจะมีสันติสุขได้ขนาดไหน

    ท่านสาธุชนทั้งหลาย เจ้าชายสิทธัตถะสำเร็จเป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกในสามแดนโลกธาตุได้ เพราะการลงมือปฏิบัติ ท่านที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงานล้วนได้มาจากการปฏิบัติ ไม่ใช่ได้มาจากการขอพร ไม่มีใครจะประทานพรให้ท่านได้ถ้าท่านไม่ลงมือกระทำ


โดยพระศรีรัชมงคลบัณฑิต อาจารย์ประจำคณะศาสนาและปรัชญา มมร
http://old.mbu.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=1097&Itemid=148
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การปฏิบัติดี ดีกว่าขอพร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 25, 2015, 06:26:50 pm »
0
 st11
        ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา