พิมพ์

[raponsan]

สุรินทร์จัดงานประเพณีแซนโฏนตา

อบจ.เมืองช้างร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์จัดงานประเพณีแซนโฏนตาเพื่อร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น10ตุลาคม2558นี้อย่างยิ่งใหญ่
 
จังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมอันดีงามที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนสืบเนื่องจากมีชนหลายเผ่าพันธ์มาอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งชนเผ่าเขมรชนเผ่าลาวและชนเผ่าส่วยซึ่งผลการอยู่รวมกันในสังคมที่ยาวนานทให้เกิดความกลมกลืนทางวัฒนธรรมประเพณีที่ถือปฏิบัติมายาวนานและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามนั้นคือประเพณี"แซนโฏนตา"ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของจังหวัดสุรินทร์ที่ชนเผ่าเขมรในท้องถิ่นได้ถือปฏิบัติกันยาวมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและสะท้อนให้เห็นถึงความรักถึงความกตัญญูของสมาชิกในครอบครัวทีมีต่อบรรพบุรุษของตนส่วนชนเผ่าลาวและส่วยก็ถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานเช่นกัน
 
 

ประเพณีแซนโฏนตาเป็นประเพณีหนึ่งที่มีความสำคัญและปฏิบัติสืบทอดติดต่อกันมายาวนานนับพันปีองชาวเขมรที่แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของลูกหลานที่แสดงออกถึงผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้วและเป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผีบรรพบุรุษ ปู้ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ เพื่อให้ลูกหลานญาติมิตรจะได้มารู้จักกันสร้างความสามัคคีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และสะท้อนให้เห็นถึงความรักความอบอุ่นของสมาชิกคนในครอบครัวความผูกพันวามกตัญญูของสมาชิกในครอบครัวเรือนและญาติและชุมชน

โดยจะประกอบพิธีกรรมตรงกับวันแรม14 ค่ำเดือน10ของทุกปีเมื่อถึงวันแรม14ค่ำเดือน10ลูกหลานญาติพี่น้องที่ไปประกอบอาชีพหรือตั้งท้องถิ่นฐานอยู่ที่อื่นไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็จะเดินทางกลับมารวมญาติมิตรเพื่อทำพิธีแซนโฏนตาในวันน้้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
 

"แซนโฏนตา"หมายถึงการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้มารับผลบุญกุศลที่ลูกหลานได้อุทิศส่วนกุศลไปให้และเมื่อถึงวันแซนโฏนตา(ตรงกับวันแรม14ค่ำเดือน10)ที่ชนเผ่าเขมรในท้องถิ่นจะถือว่าเป็นวันรวมญาติทุกคนจะหยุดทำภาระหน้าทีการงานทั้งหมดและนัดหมายไปรมกันณที่บ้านหรือที่เป็นจุดศูนย์กลางของครอบครัวโดยเฉพาะบ้านผู้ที่อวุโสที่สุดของครอบครัวพร้อมกับเตรียมของเซ่นไหว้เช่น ไก่ หมู เนื้อปลา ข้าวสาร ข้าวสวย ขนมกระยาสารท และข้าวต้ม หางยาวสะเฌอโฏนตาเพื่อไว้ผีบรรพบุรุษของตนเอง
 
 

ประเพณีแซนโฏนตานอกจากจะเป็นการอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ผีบรรพบุรุษแล้วยังเป็นกุศโลบายของบรรพบุรุษที่มีจุดมุ่งหมายให้ลูกหลานแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณและมีโอกาสได้พบปะญาติมิตรเพื่อสร้างปฏิบัติสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้พึ่งพาอาศัยกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั้งยังมีความเชื่อว่าวันแซนโฏนตานี้ถ้าไม่ได้จัดทำหรือลูกหลานคนใดไม่ได้ไปร่วมแซนโฏนตาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรโฏนตาอาจจะไม่พอใจส่งผลให้การทำมาหากินไม่ราบรืนจิตใจเป้นกังวลไม่เป้นสุขด้วยตวามเชื่ออย่างนี้ทุกคนจึงพยายามไปร่วมพิธีหรือไม่ก็จัดเครื่องเซ่นไหว้ที่บ้านตนถ้าจะมีภาระกิจมากมายอย่างไรเมื่อวันนี้มาถึงจะต้องไปให้ได้แล้วความเป็นสิริมงคลก็จะเกิดกับครอบครัวส่งผลให้มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานต่อไป
 

จากความสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมายาวนานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจังหวัดสุรินทร์องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์เทศบาลเมืองสุรินทร์สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดสุรินทร์จึงได้ร่วมกันจัดงานประเพณีแซนโฏนตาบูชาบรรพบุรุษเพื่อเป้นการอนุรักษ์ฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นกระตุ้นเตือนและสร้างจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมในประเพณีดังกล่าว
 
 

นายกิติเมศรว์ รุ่งธนิเกียรติ นายกอบจ.สุรินทร์ได้กล่าวถึงประเพณีแซนโฏนตาพร้อมกับเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียงทุกท่านมาร่วมงานทำบุญปรเพณีแซนโฏนตาบูชาบรรพบุรุษพร้อมกันในวันที่10 ตุลาคม2558บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์เวลา 14.00น.ต่อจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปทำพิธีเซ่นไหว้แซนโฏนตารบริเวณอนุเสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางซึ่งในงานนี้จะมีกิจกรรมมากมายเช่น การจัดขบวนแห่กระเฌอโฏนตาละเครืองจูนแซนโฏนตาโดยการประสานงานของสมาชกสภาอบจ.สุรินทร์ทุกเขตและขบวนอื่นๆประมาณนับ100 ขบวน

นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ยังมีการแสดงจากศิลปินพื้นบ้าน เจรียง กันตรึม ลิเก พร้อมกับการแสดงต่างๆจำนวนมากมายซึ่งงานนี้ถือว่าเป้นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกปีโดยปีนี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหัดสุรินทร์จะทำพิธีนำเครื่องเซ่นไหว้ที่มีจำนวนมากที่สุดพร้อมกับจะลงกินเนสบุคยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียวอย่าลืมอย่าพลาดอย่าละโอกาสอันดีงามมาดูมาชมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ผ้าไหมงามประคำสวยร่ำรวยปราสาทผัดกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรมพร้อมกับนำสิ่งของดีๆกลับบ้านได้ทั้งบุญได้ทั้งกุศลแล้วทุกคนจะลืมได้อย่างไรละครับ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.banmuang.co.th/news/region/27308