ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'มศว' แนะวิธีกินเจ ให้มีสุขภาพกาย - ใจดี เสริมเทคนิค วิธีการกินอย่างมีความสุข  (อ่าน 910 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 



'มศว'แนะวิธีกินเจให้มีสุขภาพกาย - ใจดี


'มศว'แนะวิธีกินเจให้มีสุขภาพกาย - ใจดี เสริมเทคนิค วิธีการกินอย่างมีความสุข เตือนระวังคาร์โบไฮเดรต - ไขมัน -โซเดียมที่มากเกิน

1 ต.ค.2558 ผศ.ดร.นันทรัตน์ ณ นครพนม อาจารย์ประจำสาขาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์การเกษตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า เทศการกินเทประจำปี 2558 จะเริ่มขึ้นในวันที่ 13 – 21 ต.ค.นี้ หลายคนเตรียมตัวเพื่อจะกินเจเพื่องดเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ จึงอยากให้ผู้ที่ตั้งใจจะกินเจในปีนี้ลดการกินเนื้อสัตว์ก่อนมีเทศกาลสัก 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพเข้าสู่การไม่กินเนื้อสัตว์เป็นเวลา 9 วันในช่วงเทศกาล เพราะการไม่กินเนื้อสัตว์จะทำให้เราเป็นไข้หรือไม่สบายได้ เนื่องจากในเนื้อสัตว์มีโปรตีนและกรดอะมีโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งในโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรค เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนน้อยลง เราก็จะเป็นหวัดหรือไม่สบายได้ง่าย

 :49: :49: :49: :49:

ด้วยเหตุนี้เองคนที่กินเจจึงต้องกินอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองหรือนมถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองมีโปรตีนและกรดอะมีโนใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ แต่อยากให้เลือกกินงาหรือนำถั่วเหลืองที่ผสมงาดำด้วย เพราะในงาดำมีกรดอะมีโนที่มีชื่อว่าเมโธโอนีนที่มีมากกว่าในถั่วเหลือง หากนำถั่วเหลืองผสมงาดำจะได้โปรตีนและกรดอะมีโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน และในงาดำยังมีแคลเซียมด้วย

นอกจากนี้ยังมีหมี่กึง ซึ่งเป็นแป้งโปรตีน ที่ทำจากแป้งสาลี นิยมนำมาทำอาหารที่หลากหลายมาก คนกินเจจะกินแต่หมี่กึงโดยไม่กินโปรตีนเกษตร จะทำให้ขาดโปรตีน เพราะกระบวนการผลิตโปรตีนเกษตรนั้น จะมีการเติมกรดอะมีโนที่สำคัญต่อร่างกายเข้ามาด้วย ถ้าเราไม่กินโปรตีนเกษตร จะทำให้ร่างกายขาดโปรตีนและกรดอะมีโน ในหนึ่งมื้ออาหารที่กินเจจึงต้องดื่มนมถั่วเหลืองผสมงาดำ ถั่วเหลือที่เป็นเมล็ด หรือเต้าหู้ในมื้อนั้นๆ จะทำให้คนที่ตั้งใจกินเจได้สารอาหารครบถ้วน





     “ส่วนคนที่มีภาวะไตหรือเป็นโรคไต แต่ะไม่ได้อยู่ในภาวะที่ต้องลดโปรตีน คนที่เป็นโรคไตนั้นส่วนใหญ่เขาจะได้รับดปรตีนจากไข่ขาว แต่ในช่วงเทศกาลกินเจ ถ้าคนเป็นไตมีความตั้งใจอยากกินเจ ต้องระมัดระวัน เพราะในถั่วเหลืองมีฟอสเฟส โดยเฉพาะในเต้าหู้ ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ คนเป็นไตจึงต้องพึงระวัง อย่ากินอาหารเจด้วยความเพลิดเพลิน ให้กินแต่น้อยและมีสติ เพื่อไม่ให้มากเกินความจำเป็นของคนที่เป็นโรคไต

     ที่เป็นปัญหามากๆ ของคนที่กินเจ นั้นอยู่ที่การได้คาร์โบไฮเดรต ไขมันและโซเดียมที่เกิน โดยเฉพาะคนที่มีความดันโลหิตสูง มีโอกาสอ้วน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง จึงอยากให้สังเกตตัวเองว่าแต่ละมื้ออาหาร ไม่ควรจะกินข้าวเกิน 2 ทัพพี ซึ่งคนกินเจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยอิ่ม จึงกินอาหารอื่นๆ ที่เป็นแป้งเพิ่มขึ้น ดังนั้นให้ลดข้าวลงและอาจจะไปกินอย่างอื่นได้ ไม่ควรกินอาหารทอดมากนัก หรืออาหารเจที่เป็นหมี่ซั่วควรกินไม่เกิน 1 กำมือครึ่ง ถ้าต้องนำผัดหมี่ซั่วแช่เย็นเพื่อนำมากินในมื้อต่อไป ควรเอาไขมันขาวที่เกาะกับเส้นออกไปก่อน ก็จะช่วยให้ไขมันในมื้อนั้นลดลงได้

     สำหรับกลุ่มกับข้าวที่เป็นผักดองจะมีเกลือโซเดียมในปริมาณที่มาก แนะนำว่าผู้ประกอบอาหารเจขาย หรือต้องทำอาหารกินเอง ควรนำผักดองมาล้างจะช่วยให้เกลือโซเดียมลดลง วิธีการกินก็สำคัญมากควรใช้ตะเกียบคีบ เพื่อจะได้คีบอาหารได้น้อย เป็นการจำกัดอาหารได้อีกทางหนึ่ง ถ้าเรายึดวิธีการที่ได้แนะนำ มีสติ และปรับวิธีการใช้ชีวิตในแต่ละมื้ออาหาร จะทำให้เรามีความสุข จิตใจสงบในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้อย่างแน่นอน”


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20151001/214412.html
http://ho.files-media.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ