พิมพ์

[raponsan]

๒ ปี แห่ง การสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติธรรมญาณสังวรบูชา

วิปัสสนาบนหน้าข่าว มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ เรื่อง ประเสริฐ เทพศรี ภาพ

อีกประมาณ ๒ เดือนกว่าๆ ก็จะถึงการพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วง ๑๔–๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๘

      พระวรชัย ทมวโร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานบำเพ็ญกุศลพระศพฯ เล่าถึงความคืบหน้าว่า ในส่วนของการบำเพ็ญกุศลครบ ๒ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๘ ในเวลา ๑๓.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการหล่อพระรูป เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ณ ลานพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร ต่อมาในเวลา ๑๔.๐๐ น.ก็เป็นพิธีบำเพ็ญกุศลครบ ๒ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ ณ ตำหนักเพ็ชร เรื่อยไปจนเสร็จพิธี แล้วในวันที่ ๒๕ ตุลาคมก็มีพิธีบำเพ็ญกุศลอีก ซึ่งในรายละเอียดก็รอฟังแถลงการณ์จากสำนักพระราชวัง ที่่จะชี้แจงให้ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง"

      อีกกิจกรรมหนึ่งที่พระวรชัย ขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมงานซึ่งได้จัดทำต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาก็คือ โครงการปฏิบัติธรรมญาณสังวรบูชา ครบ ๒ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยจัดกิจกรรมจิตตภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา น้อมอุทิศถวายเป็นพระกุศล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๖.๔๕-๑๘.๓๐ น. ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

       

       กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นโดยคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตลอดจนชมรมพุทธศาสนาขององค์กรหน่วยงาน และสถาบันการศึกษา ที่ต่างน้อมระลึกถึงพระเมตตาคุณ พระกรุณาคุณ ด้วยพระองค์ทรงประกอบพระศาสนกิจอันเป็นคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา สังคมและประเทศชาติเป็นอเนกประการพระเกียรติคุณปรากฏแผ่ไพศาลมาตลอดพระชนม์ชีพ จึงได้มีดำริจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในโอกาสดังกล่าวโดยอนุวัตรพระจริยาอันโดดเด่นของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ในด้านพระกรรมฐานมาเป็นแนวทาง จึงได้จัดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อให้สถาบันการศึกษา องค์กรทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับประทานพระเมตตาจาก เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาสนองพระเดชพระคุณ ผ่านกิจกรรมดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

       ๑.เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมอุทิศถวายเป็นพระกุศล แด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสครบ ๑๐๒ ปีนับแต่ประสูติกาลวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ และในวาระครบ ๒ ปี วันสิ้นพระชนม์ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๘
       ๒.เพื่อเป็นการสนองและขยายงานเผยแผ่ธรรมะในพระพุทธศาสนา และเป็นการเผยแพร่ พระธรรมนิพนธ์ทางพระพุทธศาสนา ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
       ๓.เพื่อให้สถาบันการศึกษา องค์กรทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับประทานพระเมตตาคุณจาก เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้แสดงออกถึงกตัญญูกตเวทิตาธรรมสนองพระคุณูปการ ผ่านทางกิจกรรมดังกล่าว
       ๔.เพื่อส่งเสริมเยาวชน และประชาชนให้ได้ปฏิบัติธรรม และเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นคุณประโยชน์เกื้อกูล

       

       พระวรชัย  อธิบายเพิ่มเติมว่า  โครงการนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชน ทางองค์กรหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนโครงการนี้กันมาก เนื่องด้วยทางวัดได้อนุวัตพระจริยาในส่วนที่เจ้าพระคุณสมเด็จท่านได้เดินทางไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ในสมัยที่ท่านยังทรงแข็งแรงอยู่ ทางคณะศิษยานุศิษย์ ก็เลยจัดโครงการนี้เพื่ออนุวัตพระจริยาตรงนี้มา

       "โดยในปีนี้จัดตลอดเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน รวม ๑๖ ครั้งด้วยกัน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทางวัดและเจ้าภาพก็ได้อาราธนาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในสายวิปัสสนากรรมฐานมาแสดงธรรม และนำปฏิบัติธรรม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ในเวลา ๑๖.๔๕ น.-๑๘.๓๐ น. ต่อด้วยการสวดพระอภิธรรม ก็ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมฟังธรรมและปฏิบัติธรรมกัน เพราะเป็นปีสุดท้ายที่เราจะทำถวายเจ้าพระคุณสมเด็จโดยพร้อมเพรียงกัน

         

       "วันแรกที่ผ่านมา คือวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ หลวงปู่อุทัย สิริธโร วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเป็นลูกศิษย์ลูกหากันอยู่ ท่านก็เมตตามาเป็นแสดงธรรมและนำปฏิบัติธรรม ก็เป็นความอัศจรรย์หลายๆ อย่าง ที่ตอนแรกไปนิมนต์นั้นเราไม่ทราบว่าท่านเกี่ยวข้องกับเจ้าพระคุณสมเด็จอย่างไร เราไม่ได้คิดตรงนั้น เราทราบแต่ว่า พ่อ แม่ครูบาอาจารย์เหล่านี้มีภูมิรู้ภูมิธรรม เราก็นิมนต์ท่านมาแสดง เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ เมื่อท่านมาแสดงธรรมแล้ว พ่อแม่ครูบาอาจารย์เหล่านี้ ต่างได้เคยถวายงานก็ดี ได้เคยพบปะกับพระองค์ท่านก็ดี ได้เคยเข้าเฝ้าพระองค์ท่านก็ดีโดยบังเอิญมาแล้ว

       "คือเราไม่รู้หรอก เพราะเราไม่ได้คัดเฉพาะที่รู้จักกับท่าน ว่าท่านเคยไปวัด ไม่ใช่ แต่พระกรรมฐานเหล่านี้ก็เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ รุ่นเก่าๆ เคยอุปัฏฐากอยู่ข้างๆ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มรณภาพไปแล้ว และบัดนี้ลูกศิษย์ลูกหาก็ขึ้นมาเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในรุ่นปัจจุบัน เป็นที่น่าอัศจรรย์ เพราะหลายๆ รูปมาพูดในพระตำหนักนี้ว่า เคยได้ถวายงานท่าน หรือเคยได้พบปะกับท่าน และสิ่งสำคัญก็คือ ทุกรูปมีความศรัทธาในองค์สมเด็จพระสังฆราชมาก ด้วยพระจริยวัตรที่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วยมุ่งมั่นเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็เลยทำให้โครงการ เมื่อปีที่ผ่านมาเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ

         

       “คำว่าประสบความสำเร็จก็คือ สามารถที่เราสามารถอนุวัตพระจริยาได้ส่วนหนึ่งและได้ทำให้พุทธศาสนิกชนนั้น ได้มาปฏิบัติธรรมโดยพร้อมเพรียงกัน” พระวรชัยกล่าว

      พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการอำนวยการจัดงานบำเพ็ญกุศลพระศพฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น งานหลักของวัดบวรนิเวศวิหารที่หลายๆ ฝ่ายเกี่ยวข้องก็คือ การพิมพ์หนังสือที่ระลึกในพระราชพิธีออกพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ

      “หนังสือมีทั้งหมดเกือบ ๓๐ เล่ม เป็นหนังสือหลักของพระพุทธศาสนา เป็นหนังสือโบราณ แล้วก็มีพระประวัติ พระศาสนกิจ พระเกียรติคุณสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งก็พยายามประมวลมาให้มากที่สุด และธรรมะของพระองค์ท่าน ...สำหรับในปีนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพิมพ์พระราชทาน คือเล่มที่ชื่อว่า "พระไตรรัตนคุณ" คุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชได้ทรงบรรยายไว้ แล้วเราก็ได้ถอดเทปมา จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พิมพ์พระราชทานในการพระราชทานเพลิงพระศพด้วย"

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดบวรนิเวศวิหาร โทรศัพท์ ๐-๒๖๒๙-๕๘๕๔

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20151005/214507.html