ตักบาตรข้าวเหนียว วิถีอันโดดเด่นของชาวหลวงพระบาง ที่วันนี้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นดี
ห้ามพลาด.!!...5 ไฮไลท์ไหว้พระ เมืองมรดกโลก“หลวงพระบาง”
โอ้เมืองหลวงพระบาง เจ้ายัง สบายดีบ่...
หลายปีจึงได้มาพ้อ ดลนานหนอเฮาจึงได้พบกัน
พ่อแม่พี่ป้าน้าอา เฮาเด้นา อยู่เกษมสำราญ
ปู่เยอ ย่าเยอ มิ่งมั่น สายน้ำคานสบาย สบาย บ่นา...
เพลง “สะบายดีหลวงพระบาง”(ท่อนแรก) แต่งโดย อุ่นคำ บันดาสัก
เมืองมรดกโลก หลวงพระบาง
“หลวงพระบาง” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่ง“หัวใจแผ่นดินล้านช้าง” ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้าง ที่วันนี้ยังคงความสำคัญอันโดดเด่นในหลากหลายมิติของสปป.ลาว ทั้ง ทางด้านประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีบ้านเมืองหลวงพระบางในปัจจุบัน
ที่สำคัญคือการที่หลวงพระบางยังอบอวลด้วยรอยอดีตอันรุ่งโรจน์ ทำให้เมืองนี้ได้รับการประกาศจากยูเนสโกในปี พ.ศ. 2541(ค.ศ.1995) ให้เป็น “เมืองมรดกโลก” ซึ่งเป็นดังการเปิดเมืองหลวงพระบางสู่มิติทางการท่องเที่ยว ส่งผลให้เมืองมรดกโลกหลวงพระบางกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญแห่งภูมิภาคอาเซียน
จากวันนั้นถึงวันนี้ หลวงพระบางได้ค่อยๆพัฒนาจากเมืองเล็กๆอันสงบงามที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น ดินแดน“ยูโธเปียของนักอุดมคติ”และเป็น“ธัมมิกสังคมแห่งสุดท้าย” เข้าสู่“เมืองท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ” ที่ยังคงมากไปด้วยเสน่ห์มนต์ขลังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนอยู่ไม่ขาดสายตาดกวางซี
เมืองท่องเที่ยว หลวงพระบาง
นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง จะได้สัมผัสเที่ยวชมกับแหล่งท่องเที่ยวทั้งในเขตเมืองมรดกโลกหลวงพระบางและนอกเมืองหลวงพระบาง โดยนอกเมืองมรดกโลกหลวงพระบางนั้นก็มี สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ อาทิ ถ้ำติ่ง น้ำตกตาดแส้ น้ำตกตาดกวางซี(ตาดกวางสี) และบ้านผานมแหล่งทอผ้าเลื่องชื่อของชาวไทลื้อให้เลือกซื้อเลือกหากัน
ขณะที่ในเขตเมืองมรดกโลกนั้น นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับตัวตนความเป็นหลวงพระบางอย่างเด่นชัดผ่านวิถีที่แนบแน่นในพระพุทธศาสนาของวัดวาอารามต่างๆและการ“ตักบาตรข้าวเหนียว”ยามเช้าอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตลาดเช้าอีกหนึ่งวิถีอันทรงเสน่ห์ของหลวงพระบาง
ได้ยลตึกเก่าอาคารบ้านเรือนอันสวยงามทั้งตึกสมัยอาณานิคมฝรั่งเศส รวมถึงตึกแบบจีน และห้องแถวและบ้านเรือนแบบลาว ที่อยู่บนถนนหลัก ถนนรอง และตามซอกซอยนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์อันชวนสัมผัสของเมืองแห่งนี้
ได้สัมผัสกับภาพบรรยากาศตลาดเช้าที่เป็นตลาดของคนท้องถิ่นอันเต็มไปด้วยสีสัน และตลาดกลางคืนหรือถนนคนเดินที่ปรับเปลี่ยนวิถีมาสู่การมุ่งขายนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักตลาดมืดหรือถนนคนเดินที่เน้นขายนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก
นอกจากนี้เรายังจะได้สัมผัสกับวิถีและบรรยากาศแห่งความเป็นเมืองท่องเที่ยวอันโดดเด่นของหลวงพระบาง ที่ในวันนี้ตึกรามบ้านเรือนหลายๆแห่งในวันนี้ก็ได้แปรสภาพไปเป็น โรงแรมที่พัก เกสต์เฮ้าส์ ร้านกาแฟ ร้านอินเตอร์เน็ต บริการทัวร์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ฯ อันถือเป็นความเปลี่ยนแปลงตามวงจรของโลกแห่งการท่องเที่ยวยุคโลกาภิวัตน์
5 ไฮไลท์ ไหว้พระ...ห้ามพลาด
สำหรับผู้มาเที่ยวหลวงพระบาง ผมขอแนะนำ “5 ไฮไลท์ ไหว้พระ...ห้ามพลาดแห่งหลวงพระบาง” ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมหลักในการสัมผัสกับเมืองมรดกโลกหลวงพระบางหอพระบาง ประดิษฐิษฐานพระบางพระพุทธรูปสำคัญสูงสุดแห่งสปป.ลาว
-ไหว้พระบาง พระพุทธรูปสำคัญสูงสุดของลาว
เริ่มกันด้วยการ“ไหว้พระบาง”-พระพุทธรูปสำคัญสูงสุดของลาว ที่ประดิษฐานอยู่ในบริเวณ“หอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง” โดยพระบางประดิษฐานอยู่ใน“หอพระบาง” ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าฝั่งขวา(ของอาคารพิพิธภัณฑ์) กับอาคารรูปแบบงานศิลปกรรมล้านช้างอันงดงามสมส่วน นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอก แต่ห้ามถ่ายรูปพระบางที่ประดิษฐานอยู่ภายในช่วงสงกรานต์จะมีการอัญเชิญพระบางมาแห่ให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ
“พระบาง” หรือชื่อเต็มคือ “พระบางพุทธลาวรรณ” เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ที่นอกจากจะเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่สุดของสปป.ลาว ทุกๆปีในช่วงสงกรานต์(บุญปีใหม่ลาว) จะมีการนำพระบางออกมาให้ชาวลาวและนักท่องเที่ยวได้ร่วมสรงน้ำกันอย่างชื่นมื่นอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงพระบางที่มีทางเดินขนาบต้นตาลนำสายตาเข้าไป
หลังจากไหว้พระบางเอาฤกษ์เอาชัยแล้วก็ไม่ควรพลาดการเที่ยวชมในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ที่ด้านหน้ามีตาลต้นใหญ่ขนาบซ้าย-ขวา อยู่ 2 ข้างทางเดินนำสายตาสู่หอพิพิธภัณฑ์ฯที่ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปผสมล้านช้าง ซึ่งอนุญาตให้ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอก ส่วนภายในห้ามถ่ายรูป ห้ามนำมือถือหรือกล้องถ่ายรูปเข้ามา
หอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง เป็นพระราชวังหลวงเดิมของเจ้ามหาชีวิต พอเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเก็บโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปสำริด กลองมโหระทึก ภาพเก่าแก่ บัลลังก์ ธรรมาสน์ และข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่หายากอีกหลากหลาย นับเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของหลวงพระบางที่มีผู้คนมาเที่ยวชมกันอย่างต่อเนื่องพระธาตุพูสี บนยอดพูสี มองเห็นโดดเด่นในหลายจุดของเมือง
-ไหว้พระธาตุพูสี หลักเมืองหลวงพระบาง
ตรงข้ามกับหอพระบางและอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งไฮไลท์ประจำเมืองหลวงพระบางนั่นก็คือ “พูสี” ที่ด้านบนมี“พระธาตุพูสี” ตั้งตระหง่านโดดเด่น
พระธาตุพูสีหรือพระธาตุจอมพูสี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2347 เปรียบดังหลักเมืองหลวงพระบาง ซึ่งใครที่มาหลวงพระบางแล้วไม่เดินขึ้นพูสีเหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงซุ้มจำปาบนทางเดินขึ้นยอดพูสี ณ ทางขึ้นฝั่งตรงข้ามกับหอพิพิธภัณฑ์
เส้นทางขึ้นพูสี มี 2 เส้นทางด้วยกัน แต่ว่าส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางที่อยู่ตรงข้ามกับหอพิพิธภัณฑ์ฯ โดยเส้นทางสายนี้เมื่อเดินขึ้นไปจะผ่านซุ้มดอกจำปา(ลั่นทม-ลีลาวดี)สุดขลังอายุนับร้อยปีไปสู่ยอดพูสีอันเป็นที่ตั้งของ“พระธาตุพูสี”พระธาตุศักดิ์สิทธิ์สีทองอร่ามคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางวิวเมืองหลวงพระบางริมฝั่งโขงยามหน้าฝน เมื่อมองลงมาจากยอดพูสี
นอกจากนี้บนยอดพูสียังถือเป็นจุดชมวิวขึ้นชื่อของเมืองหลวงพระบาง บนนี้เมื่อมองลงไปฝั่งหอพิพิธภัณฑ์ฯจะเห็นสายน้ำโขงไหลรี่ มีทิวทัศน์ของเขตเมืองอนุรักษ์ที่เป็นอาคารหลังคาจั่ว ไม่มีตึกสูง เพราะถูกความเป็นมรดกโลกควบคุม ดูสบายตา อีกทั้งในหน้าแล้งยังสามารถมองลอดผ่านซุ้มจำปาลงไปเห็น อาคารหอพิพิธภัณฑ์ฯตั้งเด่นอย่างสง่างามริมฝั่งโขง
ส่วนถ้ามองไปทางฝั่งตรงข้าม จะเห็นสายน้ำคานไหลเลี้ยวเคียงคู่กับทิวทัศน์บ้านเมืองที่แม้จะไม่หนาแน่น แต่ก็เติบโตขึ้นมากว่าเมื่ออดีตอยู่มากโขวิวเมืองหลวงพระบางฝั่งแม่น้ำคาน เมื่อมองลงมาจากยอดพูสี
-ไหว้พระธาตุหมากโมหนึ่งเดียวกับพระองค์หลวง ที่วัดวิชุน
จากถนนสีสะหว่างวงที่เป็นถนนเมนหลักทางการท่องเที่ยวกลางเมืองหลวงพระบาง ซึ่งมีหอพระบาง-หอพิพิธภัณฑ์และพูสี เป็น 2 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตั้งอยู่กันคนละฟากถนน ไฮไลท์ต่อไป ผมชวนไปยังถนนวิชุนราชเพื่อ“ไหว้พระธาตุหมากโมและพระองค์หลวง” ที่ “วัดวิชุนราช” อีกหนึ่งวัดที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แห่งหลวงพระบาง
วัดวิชุนราชหรือวัดวิชุน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2046 โดยพระเจ้าวิชุนราช เป็นที่ตั้งของ“พระธาตุหมากโม” หรือ “พระธาตุแตงโม” ที่แตกต่างจากพระธาตุทั่วไปเป็นรูปทรงแตงโมผ่าครึ่ง ตั้งเด่นอยู่ทางด้านหน้าวัดตรงข้ามของโบสถ์ของวัดแห่งนี้พระธาตุหมากโมกับรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์
นอกจากพระธาตุหมากโมแล้ว โบสถ์หรือ“สิม”ของวัดแห่งนี้ก็ถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยสิมวัดวิชุนสร้างด้วยงานศิลปกรรมสกุลช่างไทลื้อ และมีรูปแบบงานแกะสลักที่บานประตูเป็นศิลปะแบบเชียงขวางพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธรูปางสมาธิที่ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง
สิมวัดวิชุนมีความสำคัญในหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางและพระแก้วมรกต เคยเป็นที่ทรงพระผนวช(บวช)ของกษัตริย์ล้านช้างในอดีต ปัจจุบันยังคงความสำคัญไว้ด้วยการเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าองค์หลวง” พระประธานของวัดวิชุนที่เป็นพระพุทธรูปางสมาธิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง กับพุทธลักษณะอันดูขรึมขลังเปี่ยมศรัทธาพระยืนต่างๆในสิมวัดวิชุน
ภายในสิมวัดวิชุนในอดีตยังเคยทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์มาก่อน มาวันนี้ก็ยังคงเป็นที่เก็บสะสมศิลปวัตถุ โบราณวัตถุสำคัญๆมากมาย โดยเฉพาะพระพุทธรูปต่างๆ ทั้งพระพุทธรูปไม้ พระพุทธรูปสำริด และเศียรพระพุทธรูปที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดอันโดดเด่นอีกสิ่งหนึ่งของวัดวัดเชียงทอง สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง
-ไหว้พระวัดเชียงทอง สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง
มาถึงไฮไลท์สำคัญกับการไหว้พระและเที่ยวชม “วัดเชียงทอง” วัดงามที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้างที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว
วัดเชียงทอง สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2102-2103 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นับเป็นวัดสำคัญวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428พระองค์หลวง พระประธานวัดเชียงทอง
วัดเชียงทองมี “สิม”หรือ“โบสถ์” เป็นหัวใจของวัด ได้รับการยกย่องว่า เป็นสิมแบบล้านช้างสมบูรณ์ที่สุด ภายในประดิษฐาน“พระองค์หลวง” องค์พระประธานที่สร้างอย่างขรึมขลังสุดคลาสสิก ประตูสิมด้านหน้าเป็นงานแกะสลักไม้อันอ่อนช้อย ผนังด้านนอก-ด้านใน รวมถึงที่หน้าบัน ตกแต่งด้วย“พอกคำ”หรืองานลงรักปิดทองลายดอกดวงรูปต้นทองที่ผนังด้านนอกด้านหลังสิมวัดเชียงทอง
ส่วนผนังสิมด้านหลัง(ด้านนอก) ประดับลาย“ดอกดวง”หรือลายกระจกสี ทำเป็นรูป“ต้นทอง” ท่ามกลางสัตว์หลายชนิดกับตำนานนิทานพื้นบ้าน และที่มาของชื่อเมือง“เชียงทอง” ซึ่งเป็นชื่อเดิมของหลวงพระบาง
เช่นเดียวกับผนังด้านนอกของ “หอพระพุทธไสยาสน์” และ “หอพระม่าน” ที่ตั้งอยู่ด้านหลังสิม ก็มีการประดับลายดอกดวงเล่าเรื่องราวคติสอนใจจากนิทานพื้นบ้าน และภาพวิถีชีวิตชาวหลวงพระบางในอดีตเช่นกันยกพระขอพรในหอพระนอน
หอพระม่านกับหอพระพุทธไสยาสน์แม้จะตั้งอยู่คู่กันแต่ต่างกันตรงที่ “หอพระพุทธไสยาสน์ปกติจะเปิด” ส่วน“หอพระม่านปกติจะปิด”
สำหรับหอพระพุทธไสยาสน์ ภายในประดิษฐานองค์พระพุทธไสยาสน์หรือองค์พระนอนอายุเก่าแก่กว่า 400 ปีให้กราบไหว้สักการะบูชา รวมถึงมีพระพุทธรูปเสี่ยงทายให้อธิษฐานแล้วยก โดยขอให้ครั้งแรกยกขึ้น ครั้งที่สองยกไม่ขึ้น ถ้าทำได้ดังนั้นเชื่อว่าสิ่งที่ขอพรไว้จะสัมฤทธิ์ผลส่องดูองค์พระม่านที่หอพระม่าน
ส่วนหอพระม่านที่ปิดเป็นปกติจะมีช่องรูเล็กๆที่ประตูด้านหน้าให้นักท่องเที่ยวมองผ่านรูปเข้าไปเห็นองค์พระม่านประดิษฐานอยู่ภายในร่วมกับพระพุทธรูปองค์สำคัญอื่นๆรวมแล้ว 4 องค์ ซึ่งเชื่อว่าใครมองเห็นครบทั้ง 4 องค์ จะประสบโชคดีสมหวังตามคำอธิษฐาน
พระม่านถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญของหลวงพระบาง(เช่นเดียวพระบาง) เป็นที่พึ่งทางใจ ชาวลาวมักมาขอในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการให้หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยและการขอลูก ซึ่งทุกๆปีทางวัดเชียงทองจะนำพระม่านออกมาให้สักการบูชากันช่วงหลังสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 25-30 เมษายนราชรถในโรงเมี้ยนโกศ
นอกจากสิมและหอพระแล้ว วัดเชียงทองยังมี “โรงเมี้ยนโกศ” หรือ “โรงราชรถ” ภายในเก็บราชรถที่เคยใช้ในการอัญเชิญพระโกศของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ขณะที่ตรงบานหน้าต่างและบานประตูงดงามไปด้วยงานแกะสลักไม้ฝีมือของ“เพียตัน”(พระยาตัน)หนึ่งในสุดยอดช่างของลาว ที่หลายๆคนบอกว่า ท่านไม่ได้ใช้มือแกะ หากแต่ใช้“ใจ”บรรจงแกะสลักไม้ขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในงานสุดยอดงานศิลปกรรมแห่งดินแดนลาวมาจนทุกวันนี้งานแกะสลักไม้บานประตูอันสวยงามวิจิตรฝีมือเพียตัน
-ไหว้พระสงฆ์ ตักบาตรข้าวเหนียว
จาก 4 ไฮไลท์ไหว้พระพุทธรูป ไหว้พระธาตุ มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของหลวงพระบางที่มีความแตกต่างไปจากไฮไลท์ทั้ง 4 เพราะเป็นการไหว้พระที่มีชีวิตนั่นก็คือการไหว้พระสงฆ์ ไหว้พระภิกษุสามเณรกับการ“ตักบาตรข้าวเหนียว”
ตักบาตรข้าวเหนียว เป็นวิถีแห่งชาวหลวงพระบาง ซึ่งทุกๆเช้าหลังเสียงย่ำกะลอดังขึ้น(กะลอ : เครื่องตีของลาวมีลักษณะคล้ายกลอง) จากนั้นไม่นาน พระ-เณรตามวัดต่างๆ จะทยอยเดินเป็นแถวยาวเรียงหนึ่งออกมาบิณฑบาต ให้คนลาวทั้งชาวบ้าน ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จกข้าวเหนียวใส่บาตรกันอย่างอิ่มเอิบใจตักบาตรข้าวเหนียววิถีอันแนบแน่นในพุทธศาสนาอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวหลวงพระบาง
สำหรับเส้นทางตักบาตรหลักๆของนักท่องเที่ยวในหลวงพระบางนั้นอยู่บนถนนสีสะหว่างวง ไล่ตั้งแต่หน้าห้องกานไปรษณีย์(ห้องกานไปสะนี) ไปจนถึงหน้าวัดเชียงทอง
อย่างไรก็ตามด้วยความโด่งดังของการตักบาตรข้าวเหนียว ทำให้วิถีและรูปแบบของการตักบาตรข้าวเหนียวบางอย่างเปลี่ยนไป คือเดี๋ยวนี้การตักบาตรข้าวเหนียวดูคล้ายมหกรรม กลายเป็นแฟชั่นประกอบการถ่ายรูปขึ้นเฟซบุ๊ค ขึ้นไอจี ของนักท่องเที่ยวหลายๆคน แต่นั่นไม่ร้ายกาจเท่ากับพฤติกรรมคนถ่ายรูปหลายๆคน ที่เห็นแก่ตัว สักแต่จะถ่ายรูปเพื่อให้ตัวเองได้มุมดีที่สุด ได้ภาพสวยที่สุด(ตามความคิดของเขา) โดยไม่เกรงใจพระ-เณร ที่เดินบิณฑบาต ไม่เกรงใจคนใส่บาตร และไม่เกรงใจนักท่องเที่ยวด้วยกัน ที่สำคัญคือไม่เกรงใจ ไม่ให้เกียรติกับประเพณีอันดีงามนี้ๆตักบาตรข้าวเหนียว จากวิถีมาสู่กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
และนั่นก็คือ 5 ไฮไลท์ไหว้พระ...ห้ามพลาดแห่งหลวงพระบาง ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะกับบางสถานที่นั้น ว่ากันว่าถ้ามาถึงหลวงพระบางแล้ว ไม่ได้ไปเที่ยวชม หรือไม่ได้ไปร่วมสัมผัสถือว่ายังมาไม่ถึงหลวงพระบางโดยสมบูรณ์
ที่สำคัญก็คือ 5 ไฮไลท์เหล่านี้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวหลักอันขึ้นชื่อของเมืองมรดกโลกแห่งนี้แล้ว ยังล้วนต่างแสดงให้เห็นถึงวิถีของชาวหลวงพระบางที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีแห่งพระพุทธศาสนาอย่างแนบแน่นนับจากอดีตถึงปัจจุบันตึกเก่าในหลวงพระบางที่วันนี้หลายๆแห่ง มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังโตวันโตคืนในหลวงพระบาง
ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111923