พิมพ์

[raponsan]

'อดีตพระยันตระ' ปักหลักอยู่ในสหรัฐฯ เผย 'เณรคำ' ไปตามหาแต่ไม่เจอกัน

"อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ" เปิดใจกับ "ไทยรัฐ" อาศัยในป่าที่เมืองเครสเซนต์ ซิตี้ ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตระเวนสอนธรรมะตามหลักพระพุทธศาสนา “อดีตพระเณรคำ” ไปหาหลังมีปัญหา แต่ไม่ได้พบกัน เผยปีหน้าจะกลับเมืองไทยเยี่ยมบ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช อีกครั้ง

นายภาณุพล รักแต่งงาม ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานมาเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ ซึ่งไปปักหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และยังคงออกสอนธรรมะให้แก่ลูกศิษย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยตัวต่อสาธารณชน พร้อมยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ที่ร้านอาหารจิตลดา ถนนซันเซต นครลอสแอนเจลิส เมื่อตอนสายวันที่ 8 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง

นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำพระสงฆ์จากวัดสุญญตาราม เมืองเอสคอนดิโด รัฐแคลิฟอร์เนีย อีก 3 รูปมาฉันเพล ที่ร้านอาหารดังกล่าว โดยการดูแลของญาติโยมที่ติดตามมากลุ่มหนึ่ง นายวินัย หรือ อดีตพระยันตระ ซึ่งไว้ผมยาว มีหนวดเครายาวปล่อยหงอกขาว และห่มจีวรสีเขียวขี้ม้า กล่าวว่าปัจจุบันพำนักอยู่ที่วัดสุญญตาราม เมืองเอสคอนดิโด เป็นวัดที่สงบเรียบร้อย มีญาติโยมเดินทางไปทำบุญมิได้ขาด มีพระประมาณ 4-5 รูป และตนได้มอบหมายให้พระมนตรี ธนวังโส เป็นเจ้าอาวาสคอยดูแลเรื่องราวในวัดทุกอย่าง เพราะตนไม่ได้พักอยู่ที่วัด แต่อาศัยอยู่ที่ป่าเมืองเครสเซนต์ ซิตี้ ใกล้ป่าสงวนเรดวูด อยู่ทางตอนเหนือสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ติดพรมแดนรัฐโอเรกอน และจะเดินทางมาที่วัดสุญญตาราม ที่อยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย (ระยะทางห่างกันกว่า 700 ไมล์) เฉพาะเวลาที่วัดมีงานสำคัญเท่านั้น

“ตอนนี้อาตมาแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้ดูแล เจ้าอาวาสชื่อท่านเก่ง ชื่อพระมนตรี อาตมาให้ท่านดูแลวัดเพราะท่านสมองดีและจิตใจดี ถึงจะเดินไม่ได้ก็จริง เพราะบาดเจ็บที่ spinal cord (ไขสันหลัง) ตอนเกิดอุบัติเหตุเมื่อปี 2000 คือมันขาดไปเลย เพราะเอ็กซิเดนต์มันแรงมาก ฝ่ายตรงข้ามตายคาท่ี เกิดมาหลายปีแล้วตั้งแต่ปี 2000 ที่รัฐมินนิโซตา ตอนนั้นอาตมาเป็นคนขับรถ ท่านนั่งมาด้วยกัน แต่อาตมามีแค่กระดูกหัก และต้องผ่าตัดเพราะม้ามฉีก ขาใส่เหล็ก ตะโพกใส่เหล็ก เรียกว่าเหมือนเป็นโรบอต ไบโอนิกแมน” พระยันตระ อมโรภิกขุ กล่าว

อดีตพระยันตระ ตระเวนสอนธรรมะตามหลักพระพุทธศาสนาในสหรัฐฯ

นายวินัย หรือ อดีตพระยันตระ ซึ่งคงใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าอาตมาเหมือนพระ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า แม้ไม่ได้นุ่งห่มจีวรเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระในพระพุทธศาสนาเหมือนเดิมไม่แตกต่างเลย สีเป็นสิ่งสมมติ วัตรปฏิบัติต่างๆ ก็เหมือนเดิม ทำวัตรภาวนา รักษาศีลเหมือนเดิม เพียงแต่อาตมาอยู่ในป่า ไม่ได้ปลงหนวดปลงผม เหมือนมีอิสระ มีเอกเทศ สบายดี ส่วนกิจวัตรประจำวันระหว่างอยู่ในป่านั้นจะสวดมนต์ภาวนา เจริญข้อวัตรปฏิบัติ ไหว้พระสวดมนต์ เดินจงกรม หากมีเวลาจะเขียนหนังสือ ทำกิจวัตรไปตามปกติธรรมดาเหมือนพระทั่วไป

"เพียงแต่ไม่ได้ปลงผม ปลงหนวด สบายๆ บางทีก็ห่มสีกรัก บางทีก็ห่มสีเขียว บางทีก็ห่มเหลือง เอาแบบสบายๆ ปัจจุบันมีลูกศิษย์ลูกหาทั้งชาวไทย ชาวเอเชียและชาวอเมริกันเป็นจำนวนมาก ใช้หลักศาสนาพุทธทั่วไปสอนให้คนทำแต่ความดี เสียสละ ละวาง ให้เห็นสิ่งทั้งปวงไม่มีอะไรที่เป็นของควรยึดมั่นถือมั่น เพราะไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนในโลกนี้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ กล่าว

แม้ไม่ได้นุ่งห่มจีวรเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป แต่ยังทำวัตรภาวนา รักษาศีลเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่ข่าวของอดีตพระเณรคำ ที่เป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เรื่องราวของอดีตพระยันตระ ถูกพูดถึงตามไปด้วยว่าเหตุการณ์กำลังจะ “ซ้ำรอยกัน” นั้น อดีตพระยันตระ กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวเหมือนกัน อดีตพระเณรคำเคยมาหาที่วัดครั้งหนึ่ง ตอนยังไม่มีเกิดเรื่อง มาบอกว่าเคารพตน รู้จักทางหนังสือ ทางเทป มาตั้งแต่ยังเป็นเณร เป็นรุ่นน้องหลายปีนะ ห่างกันเยอะ อายุแค่ 30 ปีกว่า ตนจะ 64 ปีเต็มแล้ว

นายวินัย หรือ อดีตพระยันตระ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 14 ต.ค.นี้ และหลังจากเกิดเรื่อง อดีตพระเณรคำก็มาหาอีกครั้ง แต่ไม่พบตน เจอท่านเก่ง พบแต่เจ้าอาวาส เลยไม่ได้คุยกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสมองเรื่องการขอลี้ภัยของอดีตพระเณรคำหรือไม่ ว่าแตกต่างหรือเหมือนกับของตนอย่างไร อดีตพระยันตระตอบว่า ไม่อยากแสดงความเห็น เพราะไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง อีกทั้งไม่เคยคุยกับอดีตพระเณรคำในเรื่องนี้ด้วย

 

อดีตพระยันตระยังเปิดเผยอีกว่า ตั้งใจจะกลับไปอีกครั้งในปีหน้า เพราะการกลับไปครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว มีโอกาสไปที่บ้านเกิด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบอาจารย์เท่านั้น กลับไปคราวท่ีแล้ว ดีมาก เพราะมีทั้งพระทั้งญาติโยมมากันเต็มไปหมด คนที่ยังเคารพศรัทธา คนที่รู้จักยังอยู่เยอะ และตั้งปณิธานในการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ จะทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางวัดสุญญตาราม เมืองเอสคอนดิโด กำลังจะจัดงานใหญ่ 2 งาน คืองาน มุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 64 ปี พระอาจารย์ยันตระ อมโร ในวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. และงานกฐินสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. โดยมีอดีตพระยันตระเป็นหัวแรงสำคัญระดมปัจจัย เพื่อขุดบ่อน้ำบาดาลใช้อุปโภคบริโภคภายในวัด ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 30,000 เหรียญสหรัฐฯ.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/531205