ชาวกาญจน์ดำนารอบพระเมรุ ร่วมถวายเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชฯ
ชาวกาญจน์ร่วมกันดำนา และปลูกข้าวแบบขั้นบันได 4 ชั้น รอบสถานที่สร้างพระเมรุจำลองที่วัดเหนือ เพื่อเตรียมถวายเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่เป็นชาวกาญจนบุรีแต่กำเนิด ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ พร้อมกับพิธีที่วัดบวรฯ...
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.58 ที่หอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ฝั่งตะวันตก ภายในวัดเทวสังฆาราม พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นประธานใน ทำพิธีดำนา ปลูกข้าว แบบขั้นบันไดสูง 4 ชั้น โดยรอบสถานที่สร้างพระเมรุจำลอง เพื่อเตรียมถวายเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ โดยมีนางสุภา คชวัตร หลานของสมเด็จพระสังฆราชฯ นางลำใย สิริเวชชะพันธ์ คณะกรรมการวัดและกรรมการบริหารหอพระประวัติ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน และประชาชนชาวกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน และประชาชนชาวกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีที่วัดเทวสังฆาราม
พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม เปิดเผยว่า ชาวกาญจนบุรี ได้ร่วมกันสร้างพระเมรุจำลอง ด้านบนสุดจะเป็นที่ตั้งพระโกศของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ การดำนา ใช้ข้าวพันธุ์หอมกาญจน์จากบ้านดอนเจดีย์ ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยวิธีปลูก จะปลูกล้อมรอบลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได 4 ชั้น ชั้นที่ 4 ติดกับที่ตั้งพระโกศ เป็นต้นข้าวที่ออกรวงแล้ว และเมื่อถึงเวลาถวายเพลิงพระศพ ก็จะออกมาเป็นสีทองเหลืองอร่ามสวยงาม ชั้น 3 เป็นต้นข้าวในลักษณะที่กำลังเติบโตออกรวง ชั้นที่ 2 เป็นข้าวที่กำลังเติบโตสีเขียวขจี แต่ยังไม่ออกรวง และชั้นล่างสุดคือชั้นที่ 1 เป็นต้นข้าวในลักษณะที่ปักดำใหม่พิธีดำนา ปลูกข้าว แบบขั้นบันไดสูง 4 ชั้น โดยรอบสถานที่สร้างพระเมรุจำลอง
เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม กล่าวต่อว่า เหตุที่นำข้าวพันธุ์หอมกาญจน์มาปลูก เพื่อประดับรอบเมรุแทนไม้ดอกไม้ประดับ เนื่องจากทางวัดและคณะกรรมการวัด รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นพ้องกันว่า เพื่อเป็นการแสดงถึงสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งการนับถือศาสนาพุทธของชาวไทย อีกทั้งยังต้องการให้ชาวกาญจนบุรี และคนไทยทั้งประเทศ ได้เห็นคุณค่าของข้าว ที่ชาวนาได้ปลูกกันมาเป็นเวลาช้านาน แบบหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน จึงทำให้ทุกคนได้กินข้าวเป็นอาหารหลักมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้าวเปรียบเหมือนพระแม่โพสพ เทวีแห่งข้าว ที่ชาวพุทธต่างเชื่อถือกันมาช้านาน ว่าที่ไหนมีพระแม่โพสพ ที่นั้นจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร นี่คือที่มาของการนำข้าวมาปลูกเพื่อประดับรอบเมรุ ก่อนที่จะมีพิธีถวายเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในวันที่ 16 ธันวาคม 2558สำหรับพันธุ์ข้าวที่นำมาปลูก คือ ข้าวพันธุ์หอมกาญจน์
สำหรับวัดเทวสังฆราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) จะทำพิธีตามหมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค. 2558 เช่นเดียวกับทางวัดบวรนิเวศวิหาร ทุกประการ เพราะชาวกาญจนบุรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากพระองค์ มีชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรีแต่กำเนิด และเคยบวชเรียนศึกษาพระธรรมอยู่ที่วัดแห่งนี้ มาตั้งแต่เป็นสามเณร. ขอบคุณภาพข่าวจาก
https://www.thairath.co.th/content/537619