ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “สุวพันธุ์” ห่วงธุรกิจบุญ ทำชาวพุทธเสื่อมศรัทธา  (อ่าน 1075 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



“สุวพันธุ์” ห่วงธุรกิจบุญ ทำชาวพุทธเสื่อมศรัทธา

“พระพรหมมุนี” ย้ำปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ต้องเริ่มที่พระสังฆาธิการปฏิรูปตัวเองก่อน ขี้ถ้าพระยึดพระธรรมวินัยเคร่งครัดจะไม่ทำให้ชาวพุทธเสื่อมศรัทธา ขณะที่ “สุวพันธุ์” ห่วงปัญหาธุรกิจบุญอาศัยวัดหาผลประโยชน์ สั่งพศจ.ตรวจทุกพื้นที่ หวั่นกระทบศรัทธาชาวพุทธ

วันนี้(24 ธ.ค.) ที่หอประชุม มวก 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) วิทยาเขตวังน้อย พระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวในการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการระดมความคิดเห็น เพื่อพัฒนาภารกิจงานคณะสงฆ์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ครั้งที่ 3 ว่า การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ต้องเริ่มจากการปรับปรุงตนเองเสียก่อน โดยต้องยึดหลักคำสอน พระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ซึ่งเชื่อว่าปัญหาต่างๆจะไม่เกิดขึ้น ส่วนบุคคลที่กระทำไม่เหมาะสมถือว่ามีจำนวนน้อย โดยเข้ามาอยู่ในพระพุทธศาสนาแล้วไม่สามารถปฏิบัติตามพระธรรมวินัยได้ หรือเรียกว่า อยู่โดยไม่ใช้ปัญญา

ดังนั้นเมื่อพระสังฆาธิการเห็นว่า บุคลากรในปกครองบกพร่อง ควรตักเตือนป้องปราม เพิ่มเติมในสิ่งที่ขาดให้เขาเหล่านั้นเข้าระบบตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งเชื่อว่า หากพระสงฆ์ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย และคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็จะรักษาศรัทธาได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องกลัวศาสนาอื่นๆมาทำร้ายและทำลายพระพุทธศาสนาของเราลงได้


 :96: :96: :96: :96:

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)กล่าวว่า รัฐบาลเน้นการปฏิรูปประเทศในระยะที่ 2 มีกรอบเวลาที่ชัดเจนถึงเดือนกรกฎาคม 2560 มีฐานสำคัญอยู่ 3 ส่วน คือ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้มีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานแล้ว ทั้งนี้การที่ตนนำมาเสนอต่อคณะสงฆ์ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนากับการปฏิรูปของรัฐบาล โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ถือเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น พศ. มจร. และคณะสงฆ์ ต้องสรุปผลเดินหน้าแผนปฏิบัติการ 1 ปี 6 เดือน ให้เกิดขึ้นสอดคล้องกับแผนรัฐบาล และจะต้องมีการทำแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ระยะ 20 ปีควบคู่ไปด้วย เพื่อใช้เป็นแผนปฏิบัติการสร้างความมั่นคงให้แก่พระพุทธศาสนา



นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องการบริหารจัดการวัดเป็นสิ่งที่ประชาชนจับตามอง หากวัดทำไม่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชนได้เป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดพบข้อมูลด้วยตนเอง จากการที่ได้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง มีเอกชนบางกลุ่ม เข้าไปอาศัยวัด หาผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยขอเช่าพื้นที่วัดประกอบธุรกิจบุญ ด้วยการตั้งพระพุทธรูป นิมนต์พระมารับสังฆทาน ตั้งตู้รับบริจาคบริเวณวัด แต่เงินบริจาคไม่ได้เข้าถึงวัดหรืออาจจะมีการแบ่งบางส่วนให้แก่วัด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง

"ที่สำคัญผมยังพบว่า มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ซึ่งสืบเนื่องจากเจ้าอาวาสรูปก่อน ส่งผลให้เจ้าอาวาสรูปใหม่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องจากภาคเอกชน ผมเห็นว่าหากปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อศรัทธาชาวพุทธ จึงได้แจ้งให้พศ.และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)เข้าไปดูแลแล้ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา รวมทั้งขอเน้นย้ำให้พศจ.ทั่วประเทศลงตรวจพื้นที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาของวัด และการส่งเสริมวัดให้มากขึ้น พร้อมหาทางช่วยแก้ปัญหาด้วย อย่าปล่อยให้วัดต้องเผชิญปัญหาตามลำพัง” นายสุวพันธุ์ กล่าว

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/369042
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


           ภาพลักษณ์โดยรวม....ก็อาจจะจริงอยู่นะ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา