พิมพ์

[raponsan]

ชวนสะสมบุญไหว้พระธาตุ

ศิลปวัฒนธรรม : ชวนสะสมบุญไหว้พระธาตุ สักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แผ่นดินนครพนมเป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาญาจักรศรีโคตรบูรณ์ ที่จารึกไว้ว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชตีเมืองเวียงจันทน์ได้ ดินแดนนี้เปลี่ยนเป็นชื่อ “มรุกขนคร” และต่อมาได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนเป็นชื่อ “นครพนม” ด้วยความเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมาก่อน ประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของมนุษยชาติจากหลายชนเผ่า ดังนั้นนครพนมจึงมีโบราณสถานและมีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มาก
 
ล่าสุดเมื่อวันก่อน กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้เดินทางไปเปิดงาน “ไหว้พระธาตุพนม เสริมบุญบารมีปีวอก” โดยพระธาตุพนมนับเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองนครพนมและเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวลาว ด้วยเป็นพระธาตุที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ โดยเชื่อว่าการบูชาพระธาตุพนมเปรียบเสมือนการได้สักการะบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันนำมาซึ่งบุญกุศลและความปลาบปลื้มเป็นสุขใจ
 

โดยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่างานครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงกิจกรรมแต่ถือว่าเป็นสิ่งพิเศษ เพราะเราถือว่าการท่องเที่ยววิถีไทยคือศาสนาวิถีพุทธ ดินแดนที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยคือทางภาคอีสานของเรา โดยเฉพาะจังหวัดนครพนม เราต้องการเปิดให้คนไทยอีกหลายๆ คนที่ไม่เคยเห็นสิ่งที่ไม่ใช่เพียงสวยงามเท่านั้น แต่ยังศักดิิ์สิทธิ์และนำมาซึ่งความสุขใจอย่างยิ่ง และอยากให้คนไทยทั้งหลายได้รู้และได้สัมผัส และเป็นไปได้ก็อยากเปิดสิ่งต่างๆ เหล่านี้สู่ประชาคมโลกด้วยเช่นกัน ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะคนทั่วไปก็จะรู้จักพระธาตุพนมอยู่แล้ว บางคนรู้จักแต่อาจไม่เคยมา และจะบอกว่ายังมีสิ่งอื่นๆ มีวัดที่ดีๆ อีกหลายวัด มีความสวยงามตามธรรมชาติที่หลากหลาย เราต้องการให้กิจกรรมนี้เป็นหนึ่งกิจกรรมในการเปิดนครพนม และสิ่งสวยงามต่างๆ เหล่านี้สู่คนไทยทั้งหมดเลย เวลาคนที่มาท่องเที่ยวแถบนี้ไม่ใช่มาดูและอยากให้มาร่วมกิจกรรมที่ดีงาม เช่นมาสวดมนต์ มาห่มผ้าองค์พระธาตุ เป็นต้น

ด้าน สมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมกล่าวว่า คนนครพนมคือว่าเป็นคนมีบุญเพราะมีองค์พระธาตุอยู่มากมายรวมถึงพระธาตุพนม พระธาตุที่เป็นที่สักการะบูชาของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนให้ความเคารพบูชา มีศิลปวัฒนธรรมของตัวเอง มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ที่ถือเป็นสะพานเชื่อมิตรภาพของทั้งสองประเทศ มีดินมีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีอากาศที่ดี สดชื่น มีเทศกาลไหลเรือไฟที่สวยงามถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด
 

ในขณะที่ อาจารย์คฑา ชินบัญชร ผู้เปิดตำนานพระธาตุประจำวันเกิดและพรีเซ็นเตอร์เที่ยว 12 เดือนสุขใจให้พลังชีวิต กล่าวว่า นครพนมถือว่าเป็นเมืองแห่งความสุขและสุขจริงเพราะได้ดัชนีชี้วัดว่าเป็นนครแห่งความสุขถึงสองปีซ้อน และจังหวัดนี้ก็มีความเชื่อว่าเทวดานพเคราะห์ประจำวันต่างๆ ปกปักรักษาคุ้มครองอยู่ จังหวัดนครพนมจึงมีพระธาตุครบทั้ง 7 วัน รวมถึงวันพุธกลางคืน เริ่มจาก

    - พระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำวันอาทิตย์ ซึ่งอานิสงส์ของการไหว้เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีิวิตให้เป็นผู้มีบุญบารมีจะทำให้ผู้คนเคารพนับถือมาก
    - พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันจันทร์ สักการะแล้วจะมีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงนวลแห่งจันทรา
    - พระธาตุศรีคุณ พระธาตุวันอังคาร อานิสงส์ของการไหว้จะก่อให้เกิดยศ ศักดิศรี โชคลาภเป็นทวีคูณ
 
    - พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันพุธกลางวัน ก่อให้เกิดความประสพชัยชนะ
    - พระธาตุมรุกขนคร เป็นพระธาตุประจำวันพุธกลางคืน บูชาด้วยข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัว ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม
    - พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี บูชาด้วยข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีแดง ธูป 19 ดอก เทียน 2 เล่ม อานิสงส์ของการไหว้ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการงาน ก้าวหน้าสมดังประสงค์
    - พระธาตุท่าอุเทน พระธาตประจำวันศุกร์ บูชาด้วยข้าวตอก ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีฟ้าหรือน้ำเงิน ธูป 21 ดอก เทียน 2 เล่ม อานิสงส์ของการไหว้จะให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ และสุดท้าย
     - พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเสาร์ บูชาด้วยข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีม่วง ธูป 10 ดอก เทียน 2 เล่ม อานิสงส์ช่วยเสริมบุญบารมีและมีอำนาจวาสนา ได้เป็นเจ้าคนนายคน
 

“อานิสงส์การกราบสักการะก็เทียบเท่าเราได้กราบสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยตัวเอง เมื่อได้เข้าวัดแล้วเราก็จะได้ฟังพระธรรมคำสอน หรือระลึกถึงพระธรรมคำสอนอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตามขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า และที่สำคัญเราก็จะได้ทำนุบำรุงพระสงฆ์ซึ่งถือว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก เนื้อนาบุญอื่นใดยิ่งใหญ่กว่าเป็นไม่มี เพราะฉะนัั้นการที่เราได้เดินทางจาริกแสวงบุญและได้กราบขอพรองค์พระธาตุต่างๆ ซึ่งอยู่ในวัดต่างๆ เราก็จะได้ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยไปด้วยในตัว” ผู้เปิดตำนานพระธาตุประจำวันเกิดกล่าวปิดท้าย
 
ขอบคุณภาพและบความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160114/220463.html

[PRAMOTE(aaaa)]

             สาธุ สาธุ ครับ