ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมโภชพระอาราม 188 ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร  (อ่าน 944 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 29354
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สมโภชพระอาราม 188 ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

บรรยากาศการจัดงาน “สมโภชพระอาราม 188 ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ตลอดทั้ง 3 วัน เมื่อวันที่ 11-13 ม.ค.2559 ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยสีสันและความครื้นเครงภายใต้กลิ่นอายของงานวัดกลางกรุง

พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธัมมจิตโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส นำแนวคิดเรื่อง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้านศาสนา มาเป็นแกนหลักในการจัดงาน โดยไม่ลืมผนึกกำลังชาวชุมชนย่านกะดีจีน ช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญทำให้งานในปีนี้ประสบความสำเร็จเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

พระพรหมบัณฑิต เคยย้ำไว้เสมอว่า ความสำเร็จของการจัดงานสมโภชวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลากหลายประการ แต่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ของชาวชุมชน ดังนั้นหลักการสำคัญที่ใช้ คือการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม หรือที่ เรียกว่า “บวร” ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ บ้าน วัด และราชการ (หรือโรงเรียน)



หมายความว่า ทุกภาคส่วนต้องทำงานอย่างสอดประสานกัน และหลักการนี้เองที่ทางวัดยึดถือมาโดยตลอด จนทำให้ได้รับรางวัล ยอดเยี่ยม (อันดับ 1) หรือ Award of Excellence ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โครงการบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ และ พรินทร์ปริยัติธรรมศาลา จากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์แลวัฒนธรรมแห่งสห ประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ในปี 2557

สำหรับงานสมโภชพระอาราม 188 ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร มุ่งเน้นให้ประชาชน เข้าร่วมงานได้เห็นถึงความสัมพันธ์ในมิติด้านศาสนาและวัฒนธรรมที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่านอกเหนือจากจะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธนาค พระพุทธฉาย พระพุทธรูปพันปียุคขอมโบราณ หลวงพ่อแขก ซึ่งถือเป็นศักดิ์สิทธิ์ คู่วัดเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่

พร้อมชื่นชมความงามของปูชนียสถานเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็น “พระบรมธาตุมหาเจดีย์ และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลา” หนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก องค์การยูเนสโกแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่หาชมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นตลาดโบราณที่รวบรวมความอร่อยจากอาหารหลากหลายรสชาติของชุมชนเก่าแก่ย่านคลองสาน-กะดีจีน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชน 3 ศาสนา 4 ความเชื่อ ได้แก่ พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และอิสลาม รวมกว่า 70 ร้านค้า



ผู้เข้าร่วมชมงานยังได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงสืบสานวัฒนธรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโขน ละครชาตรี รำโทน โยสลัม จีนรำพัด ตาลีกีปัส โตกลิ้ง กิงกาหร่า ศิลปะการต่อสู้อย่างแม่ไม้มวยไทย พลอง-ไม้สั้น

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันประกอบอาหาร 3 ศาสนา 4 วัฒนธรรม ย่านกะดีจีน ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิปลาทูทอด บัวลอยไข่หวาน ขนมจีนแกงคั่วโปรตุเกส กุสรัง ข้าวหมกไก่ และ ฟูยี การประกวดลิเกชาดก การแข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ การประกวดร้องเพลงไทย ลูกทุ่ง ส่งเสริมศีลธรรม และการประกวดวาดภาพ เรียกได้ว่างานนี้ อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มตา และอิ่มท้องกันไปถ้วนหน้าเลยทีเดียว



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1453022450
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ