ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โต้กลับ พศ. โยนบาปชาวบ้าน ขอความเป็นธรรมไม่มีมาเฟีย  (อ่าน 966 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


โต้กลับ พศ. โยนบาปชาวบ้าน ขอความเป็นธรรมไม่มีมาเฟีย


ผู้อาศัยตึกย่านประตูน้ำ โต้กลับซัด พศ.หลัง ให้สัมภาษณ์สื่อสวยงาม อย่าโยนบาปให้ชาวบ้าน หากรู้ตึกจะพังจริง ทำไมส่งคนมารื้อชั้น 4 ไม่รื้อชั้น 7 มีเจตนาแฝงหรือเปล่า ขอความเป็นธรรมไม่มี“มาเฟีย”

จากกรณีตึกอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น อยู่บริเวณด้านหน้าติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใกล้แยกประตูน้ำ โดยมีการทำเป็นห้องให้เช่า จำนวน 16 ห้อง ต่อมามีการต่อเติมทำเป็นอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่ชั้น 4-7 โดยไม่มีการขออนุญาตจากเขตราชเทวี กระทั่งในเวลานี้ อาคารดังกล่าวเริ่มทรุดตัว แตกร้าว ล่าสุด “สำนักงานเขตราชเทวี” ได้มีหนังสือออกคำสั่งให้เจ้าของพื้นที่คือ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” (พศ.) รื้ออาคารที่ต่อเติมผิดกฎหมายออกไป แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จนขณะนี้ต้องมีการขึ้นป้ายเตือนขนาดใหญ่ 3 ภาษา เพราะบริเวณดังกล่าว มีประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินผ่านไปมาจำนวนมาก อาจได้รับอันตรายได้

ซึ่งนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานศาสนสมบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ออกมาระบุด้วยว่า มี “มาเฟีย” ได้รับประโยชน์จากการให้เช่าแผงลอยอยู่เบื้องหลัง โดยใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ แม้ว่ารมว.วัฒนธรรม จะสั่งดำเนินการตามกฎหมายแล้วก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 23 มี.ค. “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้รับการเปิดเผย นายประสาน พลอยแสงงาม หนึ่งในผู้พักอาศัยชั้น 3 ของตึกดังกล่าว ด้วยว่า ตามที่มีการให้ข้อมูลว่ามี “มาเฟีย” ได้รับผลประโยชน์ให้เช่าแผงลอย และใช้คนเป็นโล่มนุษย์นั้น ต้องการจะสื่อสารอะไร



เพราะตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางเขตราชเทวีได้ทำหนังสือแจ้งไม่ให้ค้าแผงลอยแล้ว ซึ่งเท่าที่ตนทราบ ตนมีหลักฐานว่าสำนักพุทธฯได้มอบอำนาจให้บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการ ซื้อ ขาย จำนอง บ้าน ที่ดิน เข้ามาดูแลต่อ ซึ่งในวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา มีคนเข้ามาติดป้ายขนาดใหญ่ 3 ภาษา ระบุว่า อาคารผิดกฏหมาย เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้า แต่ติดได้หวยมาก อันตรายมากด้วย และในวันที่ 17 มี.ค. มีคนมาติดให้ดึงอย่างที่เห็นในภาพ ซึ่งหากสำนักพุทธฯ จะเข้ามาช่วยเหลือจริงๆ ทำไมไม่มาดูแลตั้งแต่เกิดเรื่อง

“บ้านของผมมีสัญญาถูกต้อง ซึ่งจะครบในปี 2568 แต่ก่อนหน้านี้ผู้เช่าถูกขับไล่ตั้งแต่ปี 56 โดยให้เวลา 180 วันหลังจากที่มีหนังสือออกมา แต่ชาวบ้านเดือดร้อน อยู่ๆกลับถูกไล่ออกจากบ้าน อยากขอความยุติธรรม เขาจะลงทุนทำป้ายขนาดใหญ่ราคาสูงไปเพื่ออะไร ผมว่าไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท ถ้าเขาไม่หวังจะรื้อให้ได้รื้อให้ถึงที่สุด เพราะบริเวณนี้ใครๆก็อยากได้ที่ดิน ผมไม่รู้ว่าเขาจะรื้อแล้วเอาไปทำอะไร บ้านใครใครก็รักจริงไหม ที่เขาเข้ามาติดป้ายแบบนี้ ผมจะรู้สึกว่าเขาเป็นมาเฟียเสียมากกว่า และชั้น 4-7 เป็นอพาร์ตเมนต์ มันมีปัญหา คนเช่าจึงพากันทยอยย้ายออกตั้งแต่ปี 2549 และถูกตัดน้ำไฟจนร้าง ทรุดโทรม ซึ่งชั้น 1-3 ทางขึ้นลงแยกกับ 4-7”



ผู้เช่า ระบุ หนึ่งในผู้พักอาศัยชั้น 3 ของตึกดังกล่าว ยังเผยต่อว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ไปร้องที่สำนักพุทธฯขอให้หยุดการดำเนินการรื้อถอน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 3 ลงมา โดยวันดังกล่าวชาวบ้านไปกันจำนวนมาก และยังได้อัดเสียงที่คุยกับคุณอินทธพรไว้ด้วย ซึ่งเขาบอกว่าจะไม่ทำอะไรรบกวนผู้อาศัย ซึ่งตนอยากให้เข้าใจว่า ขณะนี้ชาวบ้านผู้อาศัยเดือดร้อนมาก ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าเขาห่วงชาวบ้านจริงๆ เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก้าวหน้ามากพอที่จะไม่ต้องทุบทั้งตึก หรือหากอันตรายและจำเป็นต้องรื้อจริงๆ ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ให้ชาวบ้านหรือไม่ รื้อแล้วเอาพื้นที่ไปทำอะไร แค่นี้ก็จะเห็นเจตนาของสำนักพุทธฯแล้ว

 “ถ้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผมว่าตึกไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ เขาจะอ้างว่าตึกพัง ต้องรื้อทุบตึก ไล่ที่ ไล่ชาวบ้านออก จะรื้อจริงๆ ทำไมรื้อชั้น 4 ไม่รื้อชั้น 7 ถ้าตึกจะพังจริงๆ คุณทำแบบนี้ตึกมันจะยิ่งพังไม่ใช่หรือ สำนักพุทธเอาปัญหาของตัวเองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มาโยนบาปให้ประชาชน พูดสัมภาษณ์กับสื่อสวยงามมาก ต่างจากการกระทำที่เบียดเบียนตลอด ให้ผมเลิกขายของแล้วจะไปอยู่ไหน ทุบโดยไม่บอกกล่าวคนด้านล่าง ไม่บอกเขต ตึกที่เขาหาว่าทรุดตัว ทำอะไรแบบนี้ได้หรือ ต้องมีวิศวะมาคุมหรือเปล่า” ผู้เช่า กล่าวถึงความเดือร้อน.




ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/bangkok/387483
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ