พิมพ์

[raponsan]

นักวิชาการเชื่อพระธาตุเมืองคอนมีอายุพันปี-เป็นองค์แรกของสยามประเทศ เชื่อมโยงอินเดีย-ศรีลังกา

วันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กรมศิลปากร ทำการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณใกล้ฐานพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช พบว่า แผ่นอิฐที่ขุดค้นมีอายุเก่าแก่ที่สุดอยู่ในช่วงระหว่าง 1,000-1,100 ปี แสดงให้เห็นว่าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชได้ก่อสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า1,000 ปี ส่งผลให้มีกระเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจดีย์พระบรมธาตุเก่าแก่จริงหรือไม่

ผศ.ดร.สืบพงศ์ ธรรมชาติ ผู้อำนวยการอาศรมวัฒนธรรม สำนักศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามเรื่องราวขององค์พระบรมธาตุเจดีย์มาโดยตลอดทั้งที่ศึกษาจากตำนานซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่มาจากฐานความเป็นไปบ้าง ถึงแม้จะมีคนบอกว่าเป็นเพียงตำนาน อันนั้นถือว่าเป็นการวิเคราะห์วิจารณ์ไปตามความคิดของเขา ย่อมมีการมองต่างมุม แต่ตนเชื่อว่าตำนาน หรือเรื่องประวัติศาสตร์บอกเล่าที่เป็นลายลักษณ์ ที่อยู่ในตำนานพระบรมธาตุ เป็นหลักฐานสำคัญอย่างยิ่ง  เพราะจะสอดคล้องกับ สิ่งที่เป็นโบราณวัตถุและโบราณสถานทั้งที่ในนครศรีธรรมราช อินเดียและศรีลังกา

 

“ตอนที่ไปติดตามเรื่องจตุคามรามเทพที่ประเทศศรีลังกา ได้เจอองค์พระบรมธาตุมีลักษณะเกือบเหมือนกับพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช มีขนาดใหญ่ประมาณ 6-7 เท่าของนครศรีธรรมราช มีความเก่าแก่ หลายคนได้สรุปว่าพระบรมธาตุองค์นี้คือที่มาของพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นแบบองค์ระฆังคว่ำเหมือนที่นครศรีธรรมราช น่าจะสร้างในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช (จันทรภาณุ) และที่ประเทศอินเดีย ถ้ำอาชันต้า (ทางใต้) มีการแกะสลักถ้ำเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรม คล้ายๆวิหารหรือโบสถ์ และมีพระพุทธเจ้าอยู่ในถ้ำ จำนวนหลายถ้ำ พบพระพุทธเจ้าปางต่างๆมีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก รวมถึงองค์เจดีย์ที่ไม่ต่างจากที่นครศรีธรรมราชเช่นกัน ซึ่งมีรูปโค้งขึ้นข้างบนแต่ไม่มียอดเหมือนที่นครศรีธรรมราช”

ผศ.ดร.สืบพงศ์ กล่าวและระบุว่า เมื่อศึกษาสิ่งที่จารึกเรื่องราวเอาไว้พบว่าถ้ำอาชันต้าเริ่มขุดแต่งมาตั้งแต่ พ.ศ. 340 เสร็จประมาณปี พ.ศ. 800 ภายในมีสิ่งที่สวยงามทางด้านพุทธศาสนา สิ่งเหล่านี้เป็นการยืนยันว่า นครศรีธรรมราชเพิ่งมีความสัมพันธ์กับอินเดีย แต่มีมานานแล้ว จึงมีความเชื่อว่าคนทางภาคใต้ กับอินเดียใต้ และมีการติดต่อกันมาอย่างยาวนาน ตรวจได้จากคัมภีร์มหานิเทศที่บอกว่า “ ตำมะลึงคำ “ เป็นเมืองการค้าสำคัญของทางนี้เมืองหนึ่ง และมีชื่อตะโกล่า ชื่อเหล่านี้ล้วนอยู่ทางภาคใต้ ชัดเจนที่คำว่าตำมะลึงคำก็คือนครศรีธรรมราชนั่นเอง

ผศ.ดร.สืบพงศ์ กล่าวอีกว่า นครศรีธรรมราชไม่ได้เพิ่งมีพระบรมธาตุเจดีย์แต่ต้องมีมานานแล้ว อาจจะหลังที่ศรีลังกา โดยเฉพาะรูปที่ได้รับอิทธิพลจากเจดีย์ที่วัดอาชันต้า ประเทศอินเดียสิ่งต่างๆเหล่านี้ชี้ถึงความเก่าแก่ของพระบรมธาตุเจดีย์ของนครศรีธรรมราช การอัญเชิญพระธาตุจากอินเดียใต้ของเจ้าชายธนกุมารกับพระนางเหมมาลามาที่นครศรีธรรมราช จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะพระโสนะอุตระ มาจากอินเดียเป็นพระธรรมทูตสายที่ 8 มาที่ภาคใต้เมื่อ พ.ศ. 2035 เพราะฉะนั้นจึงมีความเชื่อว่าพระธาตุที่มานครศรีธรรมราชต้องมาก่อน พ.ศ. 1000 หรือก่อนช่วง พ.ศ. 500 ด้วยซ้ำไป

“มีการบอกกล่าวกันว่า เจ้าชายธนกุมารกับพระนางเหมมาลาอัญเชิญพระธาตุไปศรีลังกาบังเอิญพายุพัดเรือเข้ามาติดชายฝัง เพราะฉะนั้นเมื่อพระธาตุมาอยู่ที่หาดทรายแก้วตามตำนานพระบรมธาตุกล่าวเอาไว้ การสร้างเจดีย์องค์เล็กๆ ที่นครศรีธรรมราชต้องมีมานาน พอมาถึงสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (จันทรภาณุ) ได้ทรงบูรณะครั้งใหญ่ เชื่อว่าเป็นแบบทรงลังกาคว่ำแบบปัจจุบัน น่าจะ พ.ศ. 1600 กว่าๆ แต่สิ่งที่น่าจะเก่าแก่กว่านั้นคือ พระธาตุองค์เล็กที่อยู่ภายในมีอายุที่เก่าแก่กว่านั้นแน่นอน ดังนั้นที่มีผู้สรุปว่าพระธาตุมีอายุเกิน 1,000 ปี ตนจึงเชื่อและเห็นด้วย” ผศ.ดร.สืบพงศ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ผศ.ดร.สืบพงศ์ กล่าวว่า พระบรมธาตุไม่ได้มีสมัยสุโขทัยเพราะหลักฐานในศิลาจารึก หลักที่ 1 บอกไว้ชัดเจน “สังฆราชปราชญ์เรียนจกปิฎกไตรหลวกกว่าปู่ครูในเมืองนี้ ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราช“ จึงแสดงให้เห็นว่านครศรีธรรมราชมีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีตแล้ว พ่อขุนรามคำแหงซึ่งปกครองต่อจากพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ราว พ.ศ. 1800 หลังจากนี้มาก

ดังนั้นหลักฐานต่างๆที่มาจากการขุดเจาะ จะหาตรงไหนมาก็แล้วแต่มันสอดรับกันหมดแล้วในขณะนี้ ใครจะมาบอกว่าพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเพิ่งสร้างนั้น หรือไม่เก่าแก่ไม่จริง ตนเชื่อว่าจริงและน่าจะเป็นองค์แรกๆของประเทศไทย หรือสยามประเทศด้วยซ้ำ ถ้าไม่เช่นนี้พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชคงไม่เป็นแบบให้กับสุโขทัย อยุธยา หรือ ศรีสัชนาลัย พระธาตุทางโน้นทั้งหมดรูปแบบมาจากนครศรีธรรมราชไม่มีใครกล้าเถียงในเรื่องนี้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/91567