ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรมศิลป์เล็งส่งเศษอิฐ วัดพระธาตุ ตรวจอายุที่ห้องแล็บต่างประเทศ  (อ่าน 837 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29405
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



กรมศิลป์เล็งส่งเศษอิฐ วัดพระธาตุ ตรวจอายุที่ห้องแล็บต่างประเทศ

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้รับรายงานจากนายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 ว่าได้นำเศษชิ้นส่วนของอิฐเก่าที่อยู่ฐานล่างสุดของพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ไปตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก และพบว่ามีความเก่าแก่ยุคสุโขทัยซึ่งใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ของพระบรมธาตุเจดีย์ ที่ได้กล่าวถึงศาสนาในนิกายหินยานลังกาวงศ์ ซึ่งเป็นศาสนาในยุคแรกๆ ของไทย ดังนั้นจึงได้เร่งสั่งการให้นายอาณัติ ทำรายงานเรื่องดังกล่าวส่งมาที่กรมศิลปากร

“เศษอิฐดังกล่าว จะถูกส่งไปตรวจในแล็บต่างประเทศหลายแล็บ เพื่อกำหนดอายุทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิธีกำหนดอายุใหม่ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ จะกำหนดอายุของโบราณได้ชัดเจน และหากพบว่าอายุของพระบรมธาตุเจดีย์ มีอายุมากกว่า 1,000 ปีจริง ข้อมูลดังกล่าวนี้ จะมีผลที่ดีต่อการเสนอชื่อขึ้นเป็นมรดกโลกด้วย” นายอนันต์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดพระมหาธาตุฯ ตามตำนานระบุว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ.854 มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย โดยเจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลาและบาคู (นักบวช) ชาวลังกา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้ว และสร้างเจดีย์องค์เล็กๆ เพื่อเป็นที่หมายไว้ ต่อมาปี พ.ศ.1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (พระเจ้าจันทรภาณุ) ได้ทำการสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นทรงสาญจิ และในปี พ.ศ.1770 พระองค์จึงได้รับเอาพระภิกษุจากลังกามาตั้งคณะสงฆ์และบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ให้เป็นไปตามแบบสถาปัตยกรรมทรงลังกา อันเป็นแบบที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันคือ เป็นทรงระฆังคว่ำ


ขอบคุณข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/91960
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ