ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮือฮา!! พบถ้ำร้างอายุหลายร้อยปีสวยงาม หลังชาวจีนฝันเห็นถ้ำ-ตามหาจนเจอ  (อ่าน 1066 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ฮือฮา!! พบถ้ำร้างอายุหลายร้อยปีสวยงาม หลังชาวจีนฝันเห็นถ้ำ-ตามหาจนเจอ

พระอาจารย์ฯ นำสำรวจหลังพบถ้ำร้าง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ ที่ราชบุรี เล่ากันว่ามีชาวจีนเลื่อมใสพุทธศาสนา นิมิตเห็นถ้ำ ตามหาจนเจอ เข้ามาปฏิบัติธรรมในถ้ำจนเสียชีวิต จากนั้นมีพระสงฆ์มาจำพรรษา ต่อมาถูกปล่อยทิ้งร้าง ล่าสุดเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และศึกษาธรรมมะ แบบอิ่มบุญอิ่มสุข
         
วันที่ 20 พ.ค. พระอาจารย์ภานุพงษ์ ภูริญาโณ หัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมถ้ำขุนกุญชร พาผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจภายในถ้ำเขาขุนกุญชร หมู่ที่ 8 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นแนวเทือกเขาที่ยังพบว่ามีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ที่ปกคลุมเขียวขจี โดยถ้ำที่ค้นพบ เป็นถ้ำร้างมีอายุหลายร้อยปี จำนวน 2 ถ้ำ แบ่งเป็นถ้ำขุนกุญชรใหญ่ อิ่มบุญ และ ถ้ำขุนกุญชรเล็ก อิ่มสุข ซึ่งถ้ำอิ่มบุญ ภายในถ้ำ พบว่ามีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหินงอกหินย้อย มีการจัดแบ่งเป็นห้องๆ รวมแล้ว 6 ห้อง



โดยแต่ละห้องมีความหมายที่แตกต่างกันไป อาทิ แผ่นดินเงินแผ่นดินทอง เถาวัลย์พันเดือน หินลูกกตัญญู หินพระคุณแม่ ผนังเกาะเพชร หินเจ้าแม่กวนอิม หินปู่ฤาษี และหินงอกหินย้อยรูปสัตว์ในวรรณคดี อาทิ หินย้อยรูปม้า หินย้อยรูปช้างทรง หินย้อยรูปหญิงสาวชุดกี่เพ้า และยังพบสิ่งของเครื่องใช้สำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่เคยเข้ามาจำพรรษาภายในถ้ำแห่งนี้

ส่วนถ้ำอิ่มสุข ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มีการสลักชื่อไว้ว่า หลวงพ่ออิ่มสุข จากคำบอกเล่าถ้ำนี้เป็นถ้ำที่ถูกใช้เป็นพระอุโบสถสำหรับทำสังฆกรรมทางศาสนพิธีทางสงฆ์ และวันสำคัญต่างๆ และยังพบหินย้อยรูปสิงโตที่ยืนคำรามอยู่บนหน้าผา นอกจากนี้ยังพบทางเดินลงภายในถ้ำที่มีความลึกอีก กว่า 100 เมตร โดยภายในถ้ำมีการก่อสร้างบันไดและทางเดินที่ยังคงสมบูรณ์มั่นคงและแข็งแรง 
           


จากการตรวจสอบไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทราบว่าถ้ำดังกล่าวไม่ได้มีบรรจุไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวของตำบล หรือ ของจังหวัดราชบุรีแต่อย่างใด     

พระอาจารย์ภานุพงษ์ ภูริญาโณ เล่าว่า ถ้ำร้างแห่งนี้ จากการบอกเล่าและร่องรอยประวัติเดิมที่พบภายในถ้ำ ทราบว่าเดิมมีชาวจีนชื่อ บักง้วน แซ่โง้ว นั่งเรือสำเภามาจากเมืองจีน ซึ่งเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้เกิดนิมิตเห็นถ้ำ จึงได้ตามหา และพบเจอในที่สุด และได้ปฏิบัติธรรมถือศีลและประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมอยู่ในศีลภายในถ้ำจนเสียชีวิตอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้



ต่อมาได้มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาเป็นเวลายาวนานตามร่องรอยที่พบภายในถ้ำ และบางช่วงเวลาก็ถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน ซึ่งเมื่อได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะตำบลหนองกระทุ่มให้มาดูแลรักษาและอนุรักษ์ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา นำประชาชนให้เกิดความสงบทางใจและนำไปสู่การเกิดทางปัญญาตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จากความอุดมสมบูรณ์ภายในถ้ำ โดยเฉพาะหินงอกหินย้อยที่มีน้ำหยดน้ำไหลตลอดเวลา และบางส่วนเกิดหินงอกขึ้นจากพื้นด้วย นอกจากนี้ภายในถ้ำยังพบค้างคาวเกาะตามผนังถ้ำอีกจำนวนมาก ตนจึงอยากให้ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางธรรมชาติที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดราชบุรีด้วย นอกจากบริเวณโดยรอบถ้ำยังมีลิงอีกจำนวนนับร้อยตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถให้ทำบุญอาหารได้ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การเลี้ยงปลาคาร์พแสนเชื่องที่ให้อาหารด้วยขวดนม ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบเวลาที่ประชาชนเดินทางมาทำบุญ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาชมความงามของถ้ำดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 087-751 5265       



ด้านนายยงยุทธ์ ผลอเนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม เผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการพบถ้ำร้างดังกล่าว จึงได้เข้ามาสำรวจ พบว่าภายในถ้ำมีความสวยงามของหินงอกหินย้อย มีการจัดไว้เป็นสัดส่วน และมีร่องรอยของการเข้ามาปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ซึ่งจากการจำความได้เมื่อครั้งยังเด็ก เขาแห่งนี้มีช่องมีอุโมงค์สามารถเดินทะลุถึงกันได้ และมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมทำให้เกิดเป็นป่ารก และมาทราบข่าวว่ามีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาและก็ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่นจนมรณภาพ ทำให้ถ้ำแห่งนี้ต้องถูกทิ้งร้างไป

ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบล จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้ามาเพื่อช่วยกันฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดราชบุรีอีกด้วย ซึ่งการเดินทางสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 100 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอปากท่อเพียง 10 กิโลเมตร



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1463709613
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ