ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “พระนอนจักรสีห์” ปางไสยาสน์ใหญ่ยาวที่สุดในไทย มีทองแท่ง ๑ กำมือยาว ๑ เส้นเป็นแกน  (อ่าน 1380 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์เหยียดเต็มวิหาร


“หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์” ปางไสยาสน์ใหญ่ยาวที่สุดในประเทศ มีทองแท่งขนาด ๑ กำมือยาว ๑ เส้นเป็นแกน!!!


ในจำนวนพระพุทธรูปที่มีผู้คนศรัทธา ไปเคารพบูชาไม่ขาดสาย และเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศนั้น หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์ อยู่ระดับต้นๆด้วยองค์หนึ่ง หลวงพ่อเป็นรูปของพระพุทธเจ้าปางไสยาสน์เทศนาปาฏิหาริย์แก่อรินทราหูผู้เป็นยักษ์ เพื่อลดทิษฐิอรินทราหูที่ถือตนว่ามีร่างกายใหญ่กว่ามนุษย์ พระพุทธองค์ทรงเนรมิตร่างกายให้ใหญ่กว่ายักษ์ หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์จึงเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่โต ยาวถึง ๑ เส้น ๓ วา ๒ ศอก ๑ คืบ ๗ นิ้ว หรือ ๔๗ เมตร ๔๐ เซนติเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ยาวที่สุดในประเทศ หันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ
       
พระนอนจักรสีห์เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มาก เก่าเสียจนประวัติกลายเป็นเรื่องลี้ลับ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างมาแต่เมื่อใด มีแต่ตำนานที่เป็นนิทานปรัมปรากล่าวว่าสร้างโดย สิงหพาหุ เจ้าเมืองสิงห์ หรือสิงห์บุรี ที่มีพ่อเป็นสิงห์ เมื่อรู้ว่าผู้ให้กำเนิดเป็นสัตว์ สิงหพาหุก็มีความอับอาย จึงได้ฆ่าพ่อตาย ต่อมารู้สึกตัวสำนึกบาป จึงได้สร้างพระพุทธรูปเป็นการขอขมาโทษ ก็คงทำนองเดียวกับพระยาพานที่ฆ่าพระยากงพระบิดา แล้วสร้างพระปฐมเจดีย์สูงชั่วนกเขาเหินเป็นการไถ่บาปนั่นแหละ พระพุทธรูปที่สิงหพาหุสร้างนี้ ได้ใช้ทองคำแท่งขนาดเท่ากำมือ ยาว ๑ เส้น เป็นแกนกลางพระพุทธรูป
       
พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุยืนยาวมาหลายชั่วคน จนผุพังกลายเป็นเนินดิน กาลนานต่อมา ท้าวอู่ทอง แต่จะใช่องค์เดียวกับที่สร้างกรุงศรีอยุธยาหรือเปล่าตำนานก็ไม่ได้บอกไว้ กล่าวแต่เพียงว่าเป็นผู้นำขบวนพ่อค้าผ่านมา และพบแกนทองคำฝังอยู่ในเนินดิน ทั้งทราบเรื่องราวที่เล่ากันมาว่าสิงหพาหุสร้างพระพุทธรูปไว้ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาและเห็นแก่ประโยชน์ของพระพุทธศาสนา จึงชักชวนกันสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ โดยใช้แท่งทองคำอันเดิมเป็นแกน ซึ่งก็คือหลวงพ่อพระนอนจักรสีห์องค์นี้ แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐานอีกเหมือนกันว่า สร้างครั้งใหม่นี้เมื่อใด เป็นแต่สันนิษฐานกันว่าสร้างมาก่อนกรุงศรีอยุธยาแน่นอน
       
ส่วนวัดที่หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ ก็ไม่มีหลักฐานว่าสร้างมาแต่เมื่อใดเหมือนกัน และได้ชื่อตามหลวงพ่อไปด้วยว่า “วัดพระนอนจักรีสีห์วรวิหาร” ทั้งตำบลที่ตั้งก็ได้ชื่อว่า ตำบลจักรสีห์ อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี

       
ผู้คนมาเคารพบูชากันไม่ขาดสาย


ประวัติของหลวงพ่อและวัดเริ่มปรากฏในพงศาวดารใน พ.ศ. ๒๒๙๗ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ได้มีพระราชศรัทธาทรงปฏิสังขรณ์องค์พระ แล้วสร้างวิหารครอบและสร้างโบสถ์ เมื่อแล้วเสร็จก็มีการจัดงานฉลองอย่างเอิกเกริก
       
ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จมานมัสการพระพุทธไสยาสน์ และได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุต่างๆ โดยพระบรมไตรโลก (อ้น) วัดสุทัศน์เทพวราราม ได้ทูลขอพระราชทานเงินค่านาที่ขึ้นกับวัดและค่านาเมืองสิงห์บุรีมาเป็นค่าปฏิสังขรณ์ แล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๔๒๘ ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๕๔ ก็ได้ทรงปฏิสังขรณ์วิหารพระนอนอีกครั้งหนึ่ง
       
ในวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๙ รัชกาลที่ ๖ ได้เสด็จมานมัสการพระพุทธไสยาสน์และทรงปฏิสังขรณ์อีก ต่อมาในวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จมานมัสการเช่นกัน
       
 st12 st12 st12 st12

ทุกวันนี้ วัดพระนอนจักรสีห์ถูกจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสิงห์บุรี มีประชาชนจากหลายจังหวัดไปนมัสการไม่ขาดสาย หลายรายเหมารถทัวร์มากันแม้ในวันธรรมดา ภายในวิหารพระนอน ตรงหน้าพระพักตร์หลวงพ่อพอดี ยังมีช้างไม้ตัวหนึ่งหมอบอยู่หน้าพระพุทธรูป มีป้ายบอกกติกาสำหรับเสี่ยงทายกับช้างตัวนี้ไว้ว่า

   “วิธีอธิษฐานยกช้างเสี่ยงทายความสำเร็จ”     
    นั่งคุกเข่าชิด และเสมอหน้าช้างข้างมือที่ถนัด ตั้งใจให้มั่น นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระนอนจักรสีห์     
    ผู้ชายยกด้วยนิ้วก้อย ผู้หญิงยกด้วยนิ้วนาง     
    ครั้งที่ ๑ (เรื่องที่ต้องการทราบ) ประสบความสำเร็จ ขอให้ยกช้างนี้ขึ้น     
    ครั้งที่ ๒ (เรื่องที่ต้องการทราบ) ประสบความสำเร็จ ขอให้ยกช้างนี้ไม่ขึ้น       
    คำอธิษฐานว่าให้ยกขึ้น ก็ยกขึ้น และถ้าอธิษฐานว่าให้ยกไม่ขึ้น ก็ยกไม่ขึ้น แสดงว่าเรื่องที่ต้องการทราบประสบความสำเร็จ
       
ปรากฏว่าช้างเสี่ยงทายนี้มีคนรอคิวกันไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ก็เห็นหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเดินออกไปหลังจากยกช้าง แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่หน้าตาบอกว่าไม่สบายใจ อาจจะเป็นเพราะอธิษฐานสับสนเรื่องยกขึ้นยกไม่ขึ้นก็เป็นได้

       
 :25: :25: :25: :25: :25:

เล่ามาถึงตอนนี้คงมีหลายคนอยากจะรู้ว่า แกนกลางของหลวงพ่อมีทองคำเส้นใหญ่เท่ากำมือ ยาว ๑ เส้นอยู่จริงหรือไม่ อย่าเพิ่งไปคิดทุบท่านออกดูเลย รอเอาไว้ให้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าจนสามารถเอ็กซเรย์ท่านได้ ก็จะได้รู้กันว่านิทานปรัมปรานั้นมีความจริงแค่ไหน หรือคนโบราณอาจจะทายใจคนยุคนี้ได้ว่า นับถือทองเป็นพระเจ้า ก็เลยให้มากราบไหว้ทองกัน

อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์เป็นปูชนียวัตถุที่ล้ำค่าทางใจยิ่งกว่าแท่งทองที่อยู่ภายใน แม้จะไม่มีประวัติให้รู้ว่าสร้างมาแต่เมื่อใด แต่เมื่อยืนยันกันว่าท่านนอนอยู่ที่วัดนี้มาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาที่มีอายุยืนยาวถึง ๔๑๗ ปี ต่อด้วยอายุกรุงธนบุรีอีก ๑๕ ปี ตอนนี้กรุงรัตนโกสินทร์ก็ ๒๓๔ ปีเข้าไปแล้ว หลวงพ่อท่านจะมีอายุเท่าใดก็ลองบวกกันดู



ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9590000066899
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
  งามครับ   ครูบาอาจารย์เคยพาพวกเราไปมาแล้ว
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา