ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รักษาศีลเป็นประจำ จะดูดซับสิริมงคลทั้งหลายเข้าหาตัว  (อ่าน 1980 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



รักษาศีลเป็นประจำ จะดูดซับสิริมงคลทั้งหลายเข้าหาตัว

การพยายามรักษาศีลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และจะดีที่สุด หากถือศีลไว้ตลอดเวลา ซึ่ง ศีล แปลว่า ปกติ เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังรักษาให้เหมาะสมตามเพศและฐานะ และมีหลายระดับแต่บุคคลธรรมดาอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ขอให้บำเพ็ญศีล 5 อันเป็นศีลประจำของ มนุษย์ให้ได้ ก็นับว่า ยอดเยี่ยมและประเสริฐแล้ว

ศีล 5 ประกอบไปด้วย การละเว้นจากการตัดชีวิต ( ปาณาติปาตา เวระมณี) การละเว้นจากการลักทรัยพ์ ( อะทินนาทานา เวระมณี) เว้นจากการผิดประเวณีใด ๆ ( กาเมสุมิฉาจารา เวระมณี) เว้นจากการพูดโกหก ( มุสาวาทา เวระมณี) และเว้นจากการเสพของมึนเมาให้โทษ ( สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฎฐานา เวระมณี)

คำว่า มนุษย์แปลว่า ผู้ที่มีน้ำใจอันประเสริฐ คุณธรรมปกติของมนุษย์เราจึง เป็น ศีล 5 ในสมัยพุทธกาลคนถือ ศีล 5 กันเป็นปกติและเป็นมนุษยธรรมส่วนหนึ่งที่คนเราทุกคนจะขาดไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นก็จะดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างยากลำบาก



หากต้องการนำสิ่งที่เป็นสิริมงคลเข้าหาตัวมาก ๆ ศีลที่เรารักษาได้ ก็จะเป็นพลังให้เราดูดซับสิ่งดี ๆทั้งหลายเข้ามาได้เช่นกัน เมื่อ รักษาศีล ได้ 1 วัน เราก็ได้สิริมงคล คุณความดี บารมี เพิ่มมาอีก 1 วัน หากกระทำได้นานเท่าใด ก็เป็นโอกาสให้ของดี ๆเข้ามาหาตัวได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่ง ผู้ที่เจริญศีลจนถึงขั้นสูงแล้ว จะไม่ยอมแม้กระทั่งแลกด้วยชีวิตหาก ต้องให้เกิดการ “ศีลขาด” หรือ ผิดศีล

ศีล นั้นเป็นความเพียรพยายามที่จะระงับ การเกิดกฎแห่งกรรมในทางที่ไม่ดี (อกุศลกรรม) ซึ่งเป็นกิเลสอย่างหยาบไม่ให้เกิดขึ้น กิเลสนั้น เสมือนของสกปรกที่จะเข้ามาจับยึดตัวเราที่เหมือนฟองน้ำได้ตลอดเวลาหากเราปล่อยใจล่องลอยไปกับกิเลสโดยไม่มีศีลมาคอยล้าง

ศีลจึงเป็นบาทฐานกำลังที่สำคัญที่จะนำเราไปสู่ความเป็นสิริมงคลทั้งหลาย เปรียบเสมือนเราเคยเป็นฟองน้ำที่สกปรกดำด้วยคราบต่าง ๆ ของกิเลสแล้ว มีศีลบริสุทธิ์มาชะล้างให้เราสะอาด พร้อมจะดูดซับสิ่งดี ๆ เข้าตัวได้ไม่จำกัด เราเองจึงต้องพยายามรักษาศีลให้ได้อย่างนั้น รักศีลให้พอๆ กับรักชีวิต เมื่อทำได้ก็จะเกิดความมั่นใจในการสร้างอำนาจและพลังแห่งความดี ได้มากขึ้น เราก็จะมีความสุขมากยิ่งขึ้นและความเป็นสิริมงคลก็จะเข้ามาหาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง


สัมปชานมุสาวาท "กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่"

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://horoscope.sanook.com/102477/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ