ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “วัดสามพระยา” ไหว้พระนั่งและพระนอน บารมีศักดิ์สิทธิ์  (อ่าน 1426 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




“วัดสามพระยา” ไหว้พระนั่งและพระนอน บารมีศักดิ์สิทธิ์

พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ เดิมเป็นวัดราษฎร์ สถานที่ตั้งอยู่ที่ แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ชาวบ้านในละแวกนั้นบ้างก็เรียกชื่อวัดว่า วัดสัก หรือ วัดบางขุนพรหม สันนิษฐานว่า สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้มีการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ มาโดยลำดับ

ครั้นต่อมา ในรัชกาลที่ ๓ ได้มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ประกอบด้วย พระยาราชภักดี (สิงห์ทอง) พระยาเทพอรชุน (ทองปาน) และพระยาราชวรานุกูล (ทองคำ) รวมสามคนพี่น้อง ตามประวัติ บิดาท่านชื่อ มะทอเปิ้น อพยพมาจากรามัญประเทศ แต่ มารดาท่านไม่ปรากฏนาม พี่น้องทั้งสาม ได้จัดสร้างวัดนี้ขึ้นใหม่ แล้วเสร็จจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายเป็นวัดหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มอบพระราชทานนามวัดว่า “วัดสามพระยา”



ทั้งนี้ วัดสามพระยา มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อนั่ง และ หลวงพ่อนอน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านเชื่อว่าด้วยบารมีและอภินิหารของหลวงพ่อนั่ง และหลวงพ่อนอน ช่วยทำให้พื้นที่แถวนั้นรอดพ้นจากการโดนทิ้งระเบิด และอีกครั้งในปี พ.ศ.2494 เกิดกบฏแมนฮัตตัน กองทัพอากาศ สั่งทิ้งระเบิดเรือรบหลวงศรีอยุธยาที่ลอยลำอยู่หน้าวัด แต่พลาดเป้าระเบิดที่เลยมาตกรอบบริเวณใกล้เคียงวัด ไม่ระเบิดเลยสักลูกเดียว

ทั้งนี้การปกครองอารามวัดสามพระยาที่เป็นมาด้วยดี ล้วนมาจากคุณูปการของ "พระพรหมดิลก" ที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ทําให้มีความเจริญรุดหน้า มีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดดเด่นทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร งดงามด้วยการครองตน เปี่ยมไปด้วยเมตตา เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธาแก่สาธุชน



สำหรับ หลวงพ่อพระนั่ง เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก อันศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดสามพระยา แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระพุทธรูปปางนี้ มีพระพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งบัลลังก์ หย่อนพระบาททั้งสองทอดลงมาเหยียบบนพื้น พระพาหาทั้งสองประคองบาตร ซึ่งจะแตกต่างกับพระพุทธรูปปางป่าเลไลยกŒที่สร้างกันโดยทั่วไป เพราะฉะนั้น ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่ออุ้มบาตร" บ้างก็มี

"พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก" เป็นพระประจำวันของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ มีคติความเชื่อว่า หากใครได้ไปกราบไหว้ขอพรให้มีเงินมีทองใช้ มีกินมีใช้ไปตลอด เป็นสิริมงคลสำหรับผู้ที่เข้ามากราบไหว้นมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดสามพระยาโดยแท้



"พระนอนปางโปรดอสุรินทราหู" พระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ให้เราได้กราบไหว้กันด้วย โดย “หลวงพ่อนอน” นั้น ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาพระนอนเป็นพระพุทธรูปไสยาสน์ปางโปรดอสุรินทราหู พระอิริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายแนบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ เมื่อกราบไหว้แล้วฉันรู้สึกสงบและสบายใจเพราะพระพักตร์ของท่านที่มีพระโอษฐ์ยิ้มดูเปี่ยมสุข


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://horoscope.sanook.com/104641/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
  ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา