พิมพ์

[raponsan]

ตะลึง! อ.ฆ้องชัย รับซื้อมือถือเก่าเดือนละแสนเครื่อง ขายต่อแยกส่วนหาทองคำ

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ สั่งตรวจเข้มพื้นที่ อ.ฆ้องชัย พบมีผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเก่าประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเก่าเดือนละ 1 แสนเครื่อง เพื่อแยกชิ้นส่วนหาทองคำ ด้าน นอภ. เชื่อไม่โยงก่อการร้ายภาคใต้

เมื่อวันที่ 5 ต.ค.59 นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวทางโซเชียลมีเดียว่า มีรถยนต์ออกเร่หารับซื้อโทรศัพท์มือถือเก่า หรือที่พังเสียหายตามหมู่บ้านต่างๆ แล้วนำมาซ่อมแซมคืนสภาพเพื่อนำไปขายให้ฝ่ายก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแหล่งที่มีการรับซื้อโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่มากอันดับต้นๆ ของภาคอีสานอยู่ที่อำเภอฆ้องชัย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเสริมคือการรับซื้อของเก่าตามหมู่บ้านต่างๆ

ทั้งนี้ตนได้กำชับให้นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกวดขัน ดูแลให้ถี่ขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการซื้อโทรศัพท์มือสอง จากการรายงานของนายอำเภอพบว่า ในการเข้าตรวจสอบทุกครั้งที่ร้านขายของเก่าทุกร้านได้แยกชิ้นส่วนออกทั้งหน้าจอ เมนบอร์ด และตัวเครื่อง ออกขายไม่ได้มีการนำเครื่องไปซ่อมแซมให้เครื่องคืนสภาพแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงจึงให้นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

ทางด้าน นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอฆ้องชัยมีผู้ประกอบการค้าของเก่าอยู่ 150 ราย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเสริมคือ การออกตระเวนรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า เช่น พัดลม เครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็นเก่าที่ชุดมาแยกชิ้นส่วนเพื่อจำหน่ายให้แก่ร้านรับซื้อของเก่า แต่มีชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งได้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้มาซ่อม ปรับปรุงให้สวยงาม และใช้งานได้ดีเหมือนของใหม่ แล้วนำออกจำหน่ายสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

สำหรับโทรศัพท์มือถือมือสองนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีการซื้อโทรศัพท์มือถือเฉลี่ยราคาเครื่องละ 20 บาท เป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละเดือนร้านขายของเก่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือไม่ต่ำกว่าเดือนละ100,000 เครื่อง หลังจากนั้นจะนำมาแยกชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อรอขายให้พ่อค้าคนกลางจากกรุงเทพฯหรือประเทศจีนเดินทางมารับตามนัดหมายโดยผู้รับซื้ออีกทอดจะนำไปหลอมแยกธาตุทองคำ ส่วนราคาจะขึ้นลงอยู่กับราคาทองคำ

 

จากการตรวจสอบสภาพเครื่องโทรศัพท์เก่าพบว่า ไม่สามารถที่จะนำไปซ่อมให้เครื่องมีสภาพเดิมได้เพราะเป็นการเสียเวลาอย่างมากไม่คุ้มค่าจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำโทรศัพท์เก่าเหล่านี้ไปประกอบกับวัตถุระเบิดใช้งานในชายแดนภาคใต้

นายต๋อง จันดาโชติ อายุ 45 ปี ชาวอำเภอฆ้องชัย เจ้าของร้านรับซื้อของเก่ารายหนึ่งเปิดเผยว่าทำอาชีพนี้มากว่า 10 ปี แล้ว ส่วนโทรศัพท์มือถือมือสองนั้นตนเองคิดว่า คงไม่มีใครนำไปซ่อมให้เสียเวลาเพราะจากสภาพนั้นเสียหายมาก โดยผู้ที่มารับซื้อต่อไปนั้นเขาต้องการไปลอกเอาทองคำเท่านั้นไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงทางจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/744086