ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จงมองคน ด้วย “กระจกหกด้าน”  (อ่าน 1360 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28595
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
จงมองคน ด้วย “กระจกหกด้าน”
« เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2016, 11:11:04 am »
0



จงมองคน ด้วย “กระจกหกด้าน”

สมัยก่อน จำได้ว่ามีสารคดียอดนิยมรายการหนึ่งชื่อ ‘กระจกหกด้าน’ เป็นสัญญาณบอกว่า จะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว มื้อเย็นเป็นมื้อแห่งความสุข เพราะเราจะได้นั่งโต๊ะ กินกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว จนวันนี้ รายการนั้นก็ยังอยู่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ตอนเด็ก ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไม กระจกมีหกด้าน แอบนึกไปถึงปริซิมตอนนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนในความหมายแต่พออนุมาณ (หมายถึงกระบวนการคิดในการหาข้อสรุปจากเหตุผลที่มีอยู่) ได้ว่าอย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว...

ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากหน่วยเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดอย่างครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งระดับโลก สาเหตุหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามหรือเพิกเฉย คือ การเพ่งโทษกัน จะเห็นว่าคนเราส่วนใหญ่ชอบตัดสินผู้อื่นด้วยการมองเพียงเปลือกนอก เที่ยวพิพากษาคนนั้นไม่ดี คนนี้เลว คนโน้นโกง คนนั้นขี้เหนียว คนนี้น่าหมั่นไส้ สารพัดข้อหา เรียกว่ามองกันเพียงด้านเดียวก็ตัดสินแล้วว่าคนๆ นั้นดีหรือไม่ดี เพราะหูเบา เชื่อคนง่าย ขาดการไตร่ตรองด้วยใจที่เป็นกลางอย่างนี้นี่แหละ ถึงทำให้สังคมเราทุกวันนี้มีแต่ความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวกแบ่งเขาแบ่งเรา ขัดแย้งกันอยู่ร่ำไปเพราะมี “ผู้พิพากษา” เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดนี่เอง 

จะดีกว่าไหม ถ้าจะเชิญชวนทุกท่านให้ลาออกจากตำแหน่งผู้พิพากษาอันทรงเกียรตินี้ เลิกตัดสินคนอื่นกันเสียที เลิกเพ่งโทษกัน หันมามองในด้านดีของกันและกันให้มากขึ้น หันมาเปิด ‘ชมรมชมกันเอง’ ในครอบครัว ในองค์กร ในหน่วยงงานราชการ สถาบันการศึกษา โดยไม่ต้องเก็บค่าสมาชิก หัดชอบๆ กันบ้างครับ เหมือนเฟซบุคที่มีแต่ปุ่ม “ไลค์” ไม่เห็นมีปุ่ม “ดิสไลค์” ให้คลิก


วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา


สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี นอกจากจะชี้ทางแห่งความหลุดพ้นให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาแล้ว ท่านยังสอนให้เรารู้จักมองคนด้วย “กระจกหกด้าน” คือ มองคนให้ครบทุกด้าน ซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ถ้าเรามองเขาแต่ด้านขวา เราก็จะไม่เห็นด้านซ้ายของเขา หรือมองแต่ด้านหน้าเราก็จะไม่เห็นด้านหลังของเขาว่าเป็นอย่างไร

แต่ในอีกมุมหนึ่ง กระจกหกด้าน ก็คือ กระจก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่นเอง เรื่องราวบางเรื่องที่ได้ยินผ่านกระจกหู อาจจะไม่จริงก็ได้ ต้องให้เห็นด้วยตา ต้องใช้ประสาทสัมผัสให้ครบทั้งหก ก่อนจะตัดสินใครดีชั่ว

แต่ดีที่สุด คือ อย่าไปพิพากษาใครเขาเลย พิพากษาตนเองดีกว่า เพราะฉะนั้น อย่านึกว่าตัวเองถูกเสมอ จงหัดมองคนอื่นด้วย “กระจกหกด้าน” เมื่อมองเขาครบทุกมุมแล้วจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดต่อผู้อื่นนั้น

    อาจจะไม่ถูกเสมอไป และขอฝากคติจีนทิ้งท้ายว่า
    - ความเลวร้ายของคนเรา ก็คือ การชอบที่จะพูดถึงแต่ความผิดพลาดของคนอื่น
    - ความโง่เขลาของคนเรา ก็คือ การไม่ชอบที่จะฟังถึงความผิดพลาดของตนเอง




บทความของ คุณแพร ณิชนันทน์ ณิชน์ นันทกากุล
ขอบคุณที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/508868
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: จงมองคน ด้วย “กระจกหกด้าน”
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2016, 06:39:30 pm »
0

   ทุกคนมีทั้งส่วนดี..ส่วนไม่ดี

   ก็ต้องอภัยและทำใจ

อยู่ร่วมกันให้เกิดความสันติสุข
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา