พิมพ์

[raponsan]

แม่สามี อารมณ์ร้อน รู้สึกอึดอัดใจเมื่อต้องอาศัยอยู่ร่วมกัน ทำอย่างไรดี

แม่สามี เป็นคนอารมณ์ร้อน หากมีสิ่งใดที่ท่านไม่พอใจก็จะบ่นหรือตะคอกทันที  แม้กระทั่งลูกแท้ๆ ยังขยาดไม่อยากคุยด้วย  ดิฉันอาศัยอยู่กับครอบครัวของสามี และทํางานให้ครอบครัวของเขา เหมือนเป็นคนนอกก็รู้สึกอึดอัดใจและหมดกําลังใจในการทํางาน  ไม่ทราบว่าดิฉันจะจัดการปัญหาเช่นนี้อย่างไรดีคะ

 

พระครูธรรมธร ดร.สาคร สุวฑฺฒโน  ไขปัญหานี้ว่า

การที่ท่านเป็นคนขี้บ่น  อารมณ์ร้อน  คงจะเป็นมานานก่อนที่เราเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านหลังนี้  อาตมาจึงขอแนะนําให้โยมปรับที่ใจของเราก่อน เพราะปรับแก้ที่ตัวท่านไม่ได้อยู่แล้ว  โยมต้องไม่ร้อนตามอารมณ์ของท่านต้องประคองจิตของตนเองให้ดี  เมื่อท่านร้อนมา  ให้เราเย็น  เมื่อท่านบ่นมา  ให้เราเงียบ  เอาความใจเย็นสู้กับความใจร้อน  เอาความเงียบสู้กับความขี้บ่น  ทําหน้าที่ของเราไป  และอย่าได้หมดกําลังใจในการทํางาน

หากเหนื่อยกับการทํางานให้คิดเสียว่า  เราโชคดีแล้วที่ยังมีงานให้ทํา  หากเบื่อกับอาหารที่ทาน  ให้คิดว่าโชคดีแล้วที่ยังมีกิน  หากเบื่อคนรอบๆ ตัว  ให้คิดว่าโชคดีแล้วที่ยังมีคนรัก  หากท้อแท้กับชีวิต  ให้คิดว่าโชคดีแล้วที่ยังมีลมหายใจ  ทําหน้าที่เป็นลูกสะใภ้ ดูแลสามี  ดูแลคุณแม่ของสามีให้เหมือนแม่แท้ ๆ ของเรา  ใช้ขันติคือความอดทนให้มาก  ความอดทนทําตนให้เป็นคนดี  อดทนถึงที่ได้ดีทุกคน

ขณะเดียวกัน หากมีคำถามว่า ถ้าเราเป็นแม่สามีที่รักลูกชายมากๆ เราจะทำใจปล่อยวางลูกของเราให้ลูกสะใภ้ที่เราไม่ชอบได้อย่างไร

 

พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ  ไขปัญหาเรื่องนี้ว่า

คุณรักลูกของคุณหรือเปล่าล่ะ อยากให้ลูกของคุณมีความสุขหรือเปล่า แล้วตอนนี้ลูกของคุณมีความสุขไหม ถามตัวเองดู…มีโยมคนหนึ่งเครียด เพราะลูกชายไปซักเสื้อผ้าให้ภรรยา โยมโกรธมาก ทำไมต้องให้ลูกฉันซักให้ ทำไมไม่ซักเอง แต่ลูกชายบอกว่า “ความสุขของผมครับแม่” อาตมาเลยต้องถามแม่ว่า รักลูกชายไหม… ถ้ารักก็ต้องอยากให้เขามีความสุข ตอนนี้เขามีความสุขแล้ว จะไปยุ่งอะไรกับเขา

ที่สำคัญสำหรับสองฝ่ายคือเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วตัดตัวความอยากออกไป ถ้าอยากอะไรขึ้นมา ก็ให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่อยากไปเปลี่ยนแปลงเขา เช่น หวงลูก ไม่อยากให้ลูกแต่งงาน ก็ให้ถามตัวเองว่า เราอยากให้ลูกมีความสุขไหม…อยาก ลูกจะมีความสุข ถ้าลูกสามารถออกไปตั้งครอบครัวกับคนที่เขารักใช่ไหม…ใช่ เพราะฉะนั้น ถ้ารักลูกจริง เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการปล่อยวางเรื่องลูก ให้เขาได้เผชิญสิ่งที่เขาเลือก ส่วนเรา ถ้าอยากมีความสุข ก็เอาเวลามาศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรม ภาวนาบ้างก็ได้นะ


ขอบคุณบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/43413/healthy-mind/dhamma/dhamma-daily/dd4012017/